ประกันใจ
หลายวันแล้วซีนะ ที่ฉันแอบมองลอดผ้าม่านโปร่งบางที่พริ้วไหว
ได้ยินว่าที่มุมใดมุมหนึ่งตรงนั้น มีคนร่วมอดีตของฉันซุกตัวอยู่เงียบเงียบ
ใครคนนั้นสร้างฝันในวัยเยาว์ ฉันไม่เคยลืมตัวอักษรเล็กเล็กเป็นระเบียบ
เขียนผ่านมุมกระดาษรางวัลเรียงความในวัยเตรียมอุดม
"สำหรับนักประพันธ์ในอนาคต(หากไม่ทิ้งงานเขียนไปเสียก่อน)"
อาจารย์วิชาภาษาไทยของฉัน อาจารย์ฝึกสอนคนที่ฉันปลื้มนักหนา
"แววตาเศร้าอย่างคนคิด"จอยบอกกับฉันอย่างนี้
ฉันเห็นด้วยแต่นิ่งไว้เพราะกำลังคิดว่าเขามีปัญหาอะไร
สี่ปีไม่ได้ทำให้เราต่างกันเลย ฉันคนแก่แดด
ในความกำพร้าเหมือนกันของเราหรือเปล่าที่เธอปราณีฉันมากเป็นพิเศษ
กลอนหลายบท เรียงความหลายเรื่องของฉันได้รับการเผยแพร่ในสถาบัน
วันนี้ช่วงชีวิตของเธอผันแปร ครอบครัวร้าวฉานและเลิกรากันในที่สุด
ความรักแสนหวานที่ฉันมองเห็นตลอดตั้งแต่วันแรกพบ
การแต่งงานท่ามกลางแขกเหรื่อวันเป็นคนดังของสังคม
ชีวิตคู่พังทะลายอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
เพียงแค่เพราะเวลาผ่านไป...
นี่ฉันกำลังจะพูดถึงสัจธรรมอีกสักเรื่อง แต่ไม่ไหวแล้ว ฉันเลี่ยนชีวิต
ฉันหวังแค่จะได้พบกับหน้าเธออีกสักครั้ง
ผิดไหมนะ หากฉันจะปรี่เข้าไปทักทายดีใจเหมือนวันเก่า
เล่านวนิยายชีวิตเรื่องยาวให้เธอฟัง
บางที เธออาจรับฟังเงียบเงียบแล้วบอกว่า
ชีวิตของฉันไม่เหมือนอย่างที่เธอคาดหวังไว้สักนิด
บางที เธออาจหัวเราะเคาะกระโหลกฉันเหมือนเคย
แล้วบอกว่า ชีวิตของฉันไม่เหมือนอย่างที่เธอกังวลไป
หรือฉันเองต่างหากที่ต้องบอกว่า ชีวิตของเธอไม่เหมือนที่ฉันวุ่นวายใจ
ในที่ใดที่หนึ่ง มุมนั้นสงบ เคยรู้ว่าเธอรักสงบรักธรรมชาติ
ส่วนนี้ใช่ไหม ที่เราต่างยอมรับในความเหมือน
หลายวันที่มองผ่าน ผ้าม่านเบาพริ้วสีขาวยังโบกสะบัด
เหมือนคนหนุ่มดวงตาเศร้าช่างฝันคนร่วมอดีตเพิ่งละจากไป
จากที่ตรงนั้นก่อนหน้าฉันจะมา..
มีที่ว่างพอที่ให้ฉันแทรกเข้าไปทรุดตัวลงนั่งด้วยสักคนไหม
"วันนี้คุณทำประกันหรือยังคะ ฉันเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัย"
ดอกจาน |
คาราบาว |
ดอก จานบานสะพรั่ง หน้าแล้ง สีแดง แต้มแต่งพื้นดินอีสาน ลมร้อนโชยพริ้วพัดปลิวโชยผ่าน แย้มเยือน พื้นถิ่นอีสานแดนกันดาร สุดแสนไกล เสียงแคน โหยแผ่ว แว่วมา
พื้นนาร้องครวญ ดินแตกระแหง ทุก ผู้คนหม่นหมอง สิ้นเรี่ยวแรง ดอกจาน เจ้าบานหน้าแล้ง กลีบดอกสีแดง ยังหมองไหม้ ท้อง ทุ่งนานี้ขาดนางน้องนางหนีบาง เข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์
ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้าง ลงกลางคัน มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝัน หาเงินหางานเลี้ยงกาย
ท้อง ทุ่งนานี้ขาดนาง น้องนาหนีบางเข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์ ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้าง ลงกลางคัน มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝันหาเงินหางานเลี้ยงกาย เฝ้ารอ คอยน้องจนสองปีกว่า ย่างเข้าเดือนเมษา งานสงกรานต์เคยสัญญา คอยแล้วเงียบหายสูญไปดังสายลมพา หรือลืมสิ้นแล้วบ้านนาลืมดอกจานเสียงแคน วอน วอนฝากสายลมโชยผ่านด้วยจิตอธิษฐาน โปรดได้สงสารและเมตตา กระหน่ำเมฆฝนฝูงคนกลับคืนบ้านนา อีสานกันดารหนักหนา ลมเอ๋ยช่วยพาความสุขมาเยือน... | |
|