Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14030445  

พันธกิจขยายผล

การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย
 

การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย  คือ กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้สอนเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนโดยการพูด บอก เล่า อธิบายเนื้อหาเรื่องราวที่ผู้สอนได้เตรียมการศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างดี   ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับฟังและอาจจะมีการจดบันทึกสาระสำคัญในขณะที่ฟังคำบรรยายหรืออาจมีโอกาสซักถามแสดงความคิดเห็นได้บ้างถ้าผู้สอนเปิดโอกาส  วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ฟังมีจำนวนมาก และผู้บรรยายซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ต้องการนำเสนอเนื้อหาสาระจำนวนมากในลักษณะคม ชัด ลึก โดยใช้เวลาไม่มากนัก  จึงเป็นการเรียนรู้ที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย  (สุวิทย์ มูลคำ และ อรทัย มูลคำ. 2545: 17)

ความมุ่งหมายของการฝึกอบรมโดยวิธีบรรยาย

           การจัดการเรียนรู้แบบบรรยายมีความมุ่งหมาย ดังนี้ (กาญจนา วัฒายุ. 2544: 148)

1.      เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นเนื้อหาสาระที่นำเสนอโดยผู้สอน  การเปิด

โอกาสให้ซักถามอาจมีบ้างในตอนท้ายของการบรรยาย   ผู้สอนเป็นผู้นำเสนอปัญหาและวิธีการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา  และสรุปว่าวิธีการใดเป็นวิธีการที่ดีที่สุดตามหลักการ

   2.   เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้รับความรู้หลาย ๆ แนวคิดก่อนที่จะ

สรุปเป็นข้อคิดหรือความคิดเห็นที่ดีที่สุด

ข้อดีของการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย

1.      ดำเนินการได้รวดเร็ว ได้ความรู้และเนื้อหาสาระมากแต่ใช้เวลาน้อยเมื่อเทียบ

กับวิธีอื่น

 2.  ง่ายต่อการบรรยายเพราะไม่ต้องเตรียมสื่อการบรรยาย  เพียงแต่ผู้สอน

เตรียมเนื้อหาสาระที่จะบรรยายไว้ล่วงหน้า ผู้สอนใช้ใบความรู้ประกอบการบรรยายและมีเครื่องโสตทัศนูปกรณ์เป็นอุปกรณ์เสริมก็เพียงพอ

              3. สามารถบรรยายได้แม้จะมีเวลาจำกัด

              4. สามารถบรรยายได้แม้จะมีผู้เรียนจำนวนมาก

              5. ได้รับรู้ความคิดหลายแนวคิดจากผู้สอน

              6. เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ข้อสังเกตของการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย

              1. หากผู้เรียนมีความตั้งใจฟังการบรรยาย จะช่วยเสริมทักษะการฟัง การย่อ และการสรุปความ

2. ผู้สอนต้องสร้างบรรยากาศในการบรรยายด้วยวาทศิลป์หรือการสื่อความที่ดี

เพื่อมิให้ผู้เรียนสูญเสียความสนใจ

              3. สาระที่ได้จากการบรรยายมิได้เกิดจากการเรียนรู้ที่เกิดกับผู้เรียนโดยตรง  แต่เป็นสาระความรู้ที่ได้จากการบอกเล่าจากผู้สอน

4. ความรู้ที่ได้รับจากการฟังอย่างเดียวอาจลืมง่าย เป็นความทรงจำที่ไม่ถาวร

5. เป็นวิธีการที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้น้อยมาก

6. เป็นวิธีการที่ไม่สามารถสนองตอบความต้องการและความแตกต่างระหว่าง

บุคคลได้  เพราะทุกคนต้องรับรู้ในเรื่องเดียวกันและในเวลาเดียวกัน

ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย

             ขั้นที่ 1  ขั้นเตรียมการ  แบ่งออกเป็น 7 ขั้นย่อย คือ

1.1   กำหนดจุดประสงค์ของการบรรยายแต่ละครั้งอย่างชัดเจน

1.2   ศึกษาภูมิหลังของผู้เรียน ได้แก่ ความรู้พื้นฐาน ประสบการณ์

ความต้องการและความสนใจ  นำข้อมูลทั้งหมดมาวางแผนเพื่อเตรียมการบรรยาย

1.3   เตรียมเนื้อหาสาระที่จะบรรยาย ได้แก่ การศึกษาตำรา เอกสาร

วารสาร และแหล่งความรู้ต่าง ๆ รวมทั้งนำประสบการณ์ของผู้สอนเองมาผสมผสานกันด้วย

1.4   กำหนดเค้าโครง จัดลำดับขั้นตอนเนื้อหาการนำเสนอให้เหมาะสม

กับเวลาและลักษณะของผู้เรียน

1.5   จัดเตรียมรายละเอียดประกอบการบรรยาย  ได้แก่  ตัวอย่าง  ข้อมูล

อุทาหรณ์  ข้อเปรียบเทียบ ข้อมูลทางสถิติ  คำถาม และการสร้างบรรยากาศ

                             1.6 เตรียมสื่อประกอบการบรรยาย ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ Electronicsเป็นต้น

1.7   เตรียมการประเมินผล ได้แก่ เตรียมแบบทดสอบก่อนเรียนและ

หลังเรียน  แบบประเมินต่าง ๆ เป็นต้น

             ขั้นที่ 2  ขั้นบรรยาย  แบ่งออกเป็น 3 ขั้นย่อย คือ

2.1   ขั้นนำ  เป็นขั้นของการนำเข้าสู่บทเรียนซึ่งผู้สอนอาจใช้วิธีการพูดคุย

ซักถาม ทบทวนความรู้เดิม เพื่อเชื่อมโยงกับความรู้เก่ากับความรู้ใหม่หรือใช้วิธีการตั้งปัญหาเร้าความสนใจโดยอ้างถึงเหตุการณ์สำคัญหรือยกกรณีตัวอย่าง  ต่อจากนั้นจึงแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และขอบข่ายของเนื้อหาสาระ  สุดท้ายของขั้นนำ คือ การทดสอบก่อนเรียน

(pretest)

2.2       ขั้นอธิบาย  เป็นขั้นของการนำเสนอสาระเพื่อการเรียนรู้  ผู้สอน

ต้องลำดับการอธิบายเป็นขั้นตอนอย่างชัดเจน  พร้อมทั้งยกตัวอย่าง อุทาหรณ์ ข้อมูลสถิติข้อมูลเปรียบเทียบ  ใช้คำถามระหว่างการบรรยาย และการสร้างบรรยากาศที่ดี ได้แก่ สร้างอารมณ์ขัน ใช้วาจาสุภาพ ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงเป็นธรรมชาติ ท่าทางเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่พูดเร็วหรือช้าเกินไป พูดถูกต้องตามอักขรวิธี  ออกเสียงตัว   ตัวควบกล้ำชัดเจน  พูดเน้นจังหวะและประเด็นที่สำคัญ  สบสายตากับผู้เข้าอบรมอย่างมีมิตรไมตรี  นอกจากนี้  การใช้สื่อต่าง ๆ  ต้องสอดคล้องกับเนื้อหาสาระและแม่นยำ

2.3       ขั้นสรุป  เป็นการสรุปสาระสำคัญของการบรรยาย  ในขั้นนี้ผู้สอน

อาจสรุปด้วยการซักถามผู้เรียนเกี่ยวกับเนื้อสาระที่ได้บรรยายไปแล้ว โดยใช้การตั้งคำถามแล้วเว้นเวลาไว้ชั่วขณะเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนคิดและตอบคำถาม คำตอบของผู้เรียนจะเป็นข้อมูลย้อนกลับและเป็นการประเมินผู้เรียนได้อีกทางหนึ่งด้วย

3.      ขั้นประเมินผล   เป็นการประเมินผลผู้เรียนโดยใช้แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์หลัง

เรียน  (Posttest)

                   ขั้นตอนของการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย แสดงให้เห็นในแผนภูมิต่อไปนี้
 

 
ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมการ  ได้แก่

กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้

ศึกษาภูมิหลังของผู้เรียน

เตรียมเนื้อหาสาระ จัดลำดับเนื้อหาสาระ และกำหนดเค้าโครงการบรรยาย

เตรียมสื่อประกอบการบรรยาย

เตรียมการประเมินผล
 

 

 
ขั้นที่ 2  ขั้นบรรยาย  ได้แก่

ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน   แจ้งจุดประสงค์  และทดสอบก่อนเรียน (Pretest)

ขั้นอธิบาย

ขั้นสรุป
 

 

 
ขั้นที่ 3  ขั้นประเมิน  ได้แก่
การทดสอบหลังเรียน (Posttest)
 

 

 
 
 


หน้าที่ :: 24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved