Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14021067  

เรื่องสั้นปันเหงา


อุ่นใจไว้บ่มรัก..
 

     งาน งาน งาน งาน..งาน...ห้องทำงานของฉันตอนนี้เหมือนอยู่ใต้ทะเล (ก็มีหลายอย่าง เต่า ปู กุ้ง ปลา สาหร่าย รวมถึงบัวใต้น้ำด้วย)เงยหน้าวันนี้มองไปเบื้องนอกฉันพบแล้วโลกวิไล.. สนามหญ้าเขียวขจีนั่นยั่วยวนเหลือเกิน ฝนทิ้งช่วง หญ้าตัดใหม่ผลิใบเขียวท่ามกลางความเงียบสงบหากเป็นวัยเด็กคงได้ไปโชว์ลีลาตีลังกาโลดโผนโจนทะยาน
แต่วันนี้..ทำได้แค่ถอดรองเท้าวิ่งตื๋อฝ่าไปบนหญ้านุ่ม..โลกเป็นของเราเห็นสีเหลืองสว่างไสวบนยอดไทรทองนกน้อยหลายครอบครัวจับจองสนเซนต์คาเบียนยอดแหลมยืนนิ่งตรงแน่วไม่กระดุกกระดิกเหมือนทหารยามรักษาการยืนเพ่งไม่กระพริบตา ทิวเข็มพุมสีแดง ดอนย่าสีขาว สีส้ม สีแดง กล้วยไม้สารพัดพันธุ์สวนหย่อมตกแต่งสวยงาม น่าดู เฟิร์น พิกุล บุญนาค สะบัดดอก ฉันเลิกออกกำลังกายแบบแอโรไดนมิคจากเครื่องออกกำลังกายสารพัดชนิดก็มันไกลขี้เกียจเดิน แม้จะรู้ว่าตรงนั้นมีกลิ่นอ่อนของนางแย้มยามเย็น โมกดอกขาวกำจายกลิ่นกรุ่นแทรกมา จำปี ราชาวดี บอนไซ
แก้วที่ตื่นฝนสลัดดอกขาวเกลื่อนพื้น เหมือนพรม ภายใต้งบประมาณเหยียบแสนนั่น ที่ผู้ใหญ่ใจดีให้มา ฉันมักพบว่าคนข้างนอกชอบเข้ามาแย่งพื้นที่ของฉัน ฉันไม่ชอบมีคนอื่นในความเป็นส่วนตัวฉันเลือกการวิ่งเปลือยเท้าบนหญ้าเขียวนุ่มราวกำมะหยี่ วิ่งไปสำรวจไม้รอบข้างไป ใครจะสุขเท่าเป็นไม่มีหากเป็นไปได้จะขับรถมาวิ่งตอนเช้ามืดแต่คงยาก
แค่นี้ฉันก็เป็นตัวประหลาดเฒ่าเฝ้าองค์กรแล้ว ห้ารอบสนามก็หอบแฮ่ก..เดินบ้างวิ่งบ้าง..สมองเริ่มทำงาน..หลังจากปล่อยให้ความตีบตื้อมาครอบครองเนื้อที่อยู่หลายนาน หาสารพันข้ออ้างมากลบเกลื่อนความขี้เกียจที่จับเปาะ
งานฉันอยู่ตัว เพียงมองหารูโหว่แล้วอุด กับเติมเต็มให้สมบูรณ์มากขึ้นจริงจริงแล้วหาใช่ข้ออ้างอื่นใดไม่.. วันนี้ฉันกำลังเพลินกับขิมตัวใหม่ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝันต่างหาก..สำนวน "ปู่กระสันถึงไก่ไก่ก็มา" ดูท่าจะครีเอทมาสำหรับฉันโดยเฉพาะ ในวันที่วนเวียนลูบคำขิมไม้มะค่าสีดำสนิทสลักมุกราคาเหยียบหมื่น ฉันกลับได้พบว่าที่องค์กรได้รับงบประมาณซื้อขิมมาไว้ในครอบครอง!ฉันกระโจนใส่อย่างไม่กลัวสะดุดหน้าแข้งใคร ก็ดูซ้าย ขวา หน้า หลังดีแล้ว ไม่มีใครเหมาะสมเท่าฉันไม้เกลี้ยงไม่สลักลายนั่นมองไม่สวยงาม แต่เมื่อขึ้นสายแล้วเสียงราวกับระฆังแก้วบนหอดูดาว
ฉันไม่รีรอเลยที่จะตะกายดาว..คิดว่าลืมไปหมดแล้วเพราะปล่อยทิ้งแสนล้านนาน(นานมาก)ฉันพบว่า..ฉันมีความจำอันยั่งยืนในเรื่องอย่างนี้(แปลกแห่ะ)อาจเป็นความประทับใจที่ฝังตัวบ่มฟักมาเนิ่นนานเมื่อขึ้นได้เพลงหนึ่ง เพลงอื่นๆจะตามมาเหมือนทำนบพังโดยไม่ดูโน้ต ฉันก็เข้าที่เข้าทางได้ในเวลาไม่นานนัก ลูกสมุนแวะมาเลียบเลียบเคียงเคียงรู้ว่าอยากเล่นบ้างแต่ไม่กล้า เลยนั่งเกาะขอบโต๊ะฟังฉันเล่นเหมือนที่ฉันเคยเกาะปลายเตียงฟังพ่อไม่ผิดเพี้ยน ตั้งใจว่าสักวันเด็กกลุ่มนี้จะได้รับสืบทอดจากฉันแต่รอให้ฉันเก่งก่อนเถอะนะ รออีกหน่อยนะ

     ในความรีบอย่างช้าๆของฉัน พบเซอร์ไพร์มาเป็นระลอกๆ เจ้าตัวน้อยที่เคยปีนไปนอนบนโต๊ะใต้พัดลมเติบโตรวดเร็ว แต่ก็ยังพอใจที่จะนั่งบนตักได้หน้าตาเฉย เป็นฉันต่างหากไม่เตรียมที่กว้างๆเย็นๆให้เธอเจ้าดาวรุ่งของฉันชอบมาแย่งที่นั่งเพราะตรงนั้นเย็นกว่ามุมอื่นๆการ์ตูนวอสท์ดิสนี่ย์ไม่อยู่ในความสนใจแล้ว หนังสือเล่มโปรดของเธอที่อ่านซ้ำซากวันนี้คือพจนานุกรมภาพไม่จำกัดช่วงชั้น ไม่สนใจด้วยว่าเพื่อนๆจะเปลี่ยนบทเรียนไปถึงไหน ภายใต้ความไม่สนใจ ไม่ทุกข์ร้อนกับกิจกรรมจอแจเธอนั่งพลิกหนังสือในมือไปมา แต่บทสรุปแล้วคือเธอรับความรู้ใหม่ได้หมด!ทำแบบฝึกหัดได้ประสบความสำเร็จและอย่างรวดเร็ว ไม่ลืมหน้ายุ่งๆเมื่อถูกทักท้วงว่าเขียนผิดเธอเตรียมตัวจะเลี่ยงไปเหมือนทุกครั้ง แล้วกลับหันมาสนใจดิกชันนารี่เล่มเล็กที่ฉันค้นหาคำศัพท์ที่เธอเขียนผิดก็เธอมักมีแปลกๆมาให้สัมผัสเสมอ เรื่องบางเรื่องไม่แน่ว่าเธอเป็นฝ่ายถูกอย่างไม่คาด..เธอเดินเข้ามาช่วยฉันหาคำที่เธอต้องการได้ด้วยตัวเอง ..แล้วกลับไปแก้ไขใหม่ไม่อิดออด ท่าทางเป่าลมให้ลิควิดแห้งนั่นน่าขัน ฉันเรียนรู้เธอเพิ่มเติมอีกเรื่องในวันร้อน "ที่นั่งข้าใครอย่าแตะ.."เช้าวันที่รำคาญกับเทคโนโลยี วันที่ตู้เอทีเอ็มกลืนบัตรไปต่อหน้าต่อตา ฉันพบว่าเจ้าชายน้อยของฉันแบก พัดลมผนังสีสวยถูกใจมายื่นส่งให้ "Electric wall fan" เสียงออดๆเอื่อยๆหน้าตาไม่แสดงความรู้สึกนั่น ฉันน้ำตาซึม..ห้องเรียนฉันวันนี้ไม่ร้อนแล้ว พร้อมรับเจ้าชายน้อยนั่นเสมอ นะ..ให้ดวงของเราหนุนเนื่องซึ่งกันและกัน จากวันนี้และตลอดไป...ได้เปล่า..

     ตัวขาวอ้วนกลมที่นึกจะมาก็มาจะไปก็ไปนั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับภารกิจของฉันสักนิด เพราะระยะหลังเธอไม่ค่อยสนใจกับงานในโน้ตบุ้คหรือ PC ของฉันสักเท่าไหร่ ไม่ต้องห่วงว่าจะมาทำให้งานส่วนใดส่วนหนึ่งต้องได้ซ่อม หลายครั้งที่เธอผ่านประตูเข้ามา อ่านคำบนบอร์ดเสียงดังแล้ววิ่งออกไปหรือเข้ามาเล่าเรื่องที่เพื่อนๆฟังไม่เข้าใจ เป็นเหตุการณ์ปกติ เพียงแต่คอยระวังเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ ต้องคอยเตือนให้เพื่อนๆระวังตัว เหมือนในวันหนึ่งที่เธอเดินเข้ามาตะโกน Lion..แล้วกระโดดตะครุบเพื่อนจนร่วงเก้าอี้ลงไปกลิ้งกับพื้น แต่ฉันมองว่าการเชื่อมโยงความคิดของเธอดีขึ้น หรือไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ก็เธออ่านหนังสือนิทานมาจากห้องสมุด และอยากสื่อสารกับคนอื่นๆ ในวัยสิบขวบเธอเริ่มสื่อสารกับเพื่อนๆบ้างแล้ว..

     ในหลายวันที่ออกไปอยู่นอกพื้นที่เดิมเดิมพบอะไรแปลกใหม่มากมายในสิ่งแวดล้อมแตกต่าง คนกลุ่มเดิมในต่างสถานที่ หลากหลายบรรยากาศ เช้าวันหนึ่งลืมตามองฝ่าไปเบื้องนอกเห็นเจ้าชายอรุณกับหมอกสีขาวเหนือทิวเขายาวสองเฉดสีทาบแนวระนาบตึกสูงต่ำจรดสายตาตาวันวันนั้นสีส้มสดตัดกับเมฆขาวเหมือนรอเวลาฉันลืมตามอง อีกเช้าวันหนึ่งในเวลาใกล้เคียงแต่ต่างสถานที่ฉันตื่นมาพบนางฟ้าแห่งราตรีใช่ .. ฉันพบดวงจันทร์ดวงโตสีเหลืองสดเหนือเทือกเขาทมึนกับดงไม้เขียวในเช้าตรู่ดาวประกายพฤกษ์ตอนค่อนแจ้งเหมือนจะโรยตัวมาเรี่ยดิน กลิ่นพระเพื่อนพระแพงไหมที่สัมผัส หรือเข้าไปอยู่ในแมนสรวงจริงๆ ชีวิตเคลื่อนไหวเร็วสูงอย่างนี้เคยใฝ่ฝันมาแสนนาน ปรารถนาจากก้นบึ้งของหัวใจเลย "สะพายกล้องท่องเที่ยว" ตั้งใจว่าในสิ่งที่บรรทึกจะถูกถ่ายทอดด้วยลีลาอักษรแบบฉบับของตัวเองสักวัน ก็ฉันอยากเป็นคอลัมนิสต์ในมุมสารคดีไงเล่า แต่วันนี้ยังไม่ใช่ ...ด้วยภาวะหนักอึ้งอย่างนี้ ฉันทำได้แค่รับนโยบายพร้อมขยายผล
     กลับเข้าที่ทำงานในเช้ารุ่งขึ้นเหมือนยังมีกลิ่นเยื่อไม้ใบบางติดมามองหาเจ้าชายตัวน้อยที่เคยมาแวดเวียน พบแต่ความว่างเปล่าเธอไม่มาดูการ์ตูนเหมือนเคยหรืองอนที่ฉันหายไปหลายวันไม่เป็นไร ฉันง้อเธอได้ ให้เป็นคนเดียวในชีวิตเลยนะฉันส่งสายตามองหาจนพบเธอนอนเหยียดยาวอยู่บนโต๊ะใต้พัดลม สอบถามคนดูแลบอก "อารมณ์ไม่ดี" เป็นอะไรไปเล่า ทั้งๆที่รู้เธอไม่ชอบอยู่กลางกลุ่มคนจำนวนมาก ทำไมต้องบังคับเธอกันนัก สังเกตได้เสมอ เธอไม่ชอบเสียงดัง ห้องเรียนไหนใช้ไมโครโฟน เธอจะไม่เข้าไปเลยแต่กลับชอบฟังบทอาขยานและบทขับเสภาหรือเพลงเย็นๆ รู้ว่าเธอชอบห้องภาษาไทยของพี่ป.ปลาย ปกติถ้าฉันอยู่เธอจะเข้าไปเปิดดูการ์ตูนและร้องเพลงตามหรือบางครั้งก็ร้องนำแล้วแต่อารมณ์ วันหนึ่งที่แกล้งถอดปลั๊กไฟสำรองตัวที่เธอไม่คุ้นเคย เธอเปิดการ์ตูนดูไม่ได้ก็มองฉันอย่างสงสัย สักครู่เดียวอย่างเงียบงัน ..หันไปดูอีกทีเธอก็มีปืนดินน้ำมันในมือสองกระบอกและเล็งมาที่ฉันอืมม์ .. อยากไม่ให้ดูดีนัก จะยิงให้ตายเลย .. เอางั้นเลยนะ ..ฉันชวนเธอลงมาปั้นดินน้ำมัน เพราะไม่อยากให้เธอจมอยู่กับอารมณ์ร้ายนาน เธอยอมลงมาจากโต๊ะและนั่งเรียบร้อยหยิบดินน้ำมันในถุงออกมา เห็นว่าเธอมีสีเขียวก้อนใหญ่สีเดียว "ไม่ชอบสีเหลือง" คนเลี้ยงบอก ฉันไปค้นหาดินน้ำมันในหลืบตู้โชคดีได้สีแดง สีชมพู สีเขียวแก่ เขียวอ่อน เมื่อกลับไปอีกครั้งเธอกำลังลงมือปั้น "ปืน" กระบอกที่หนึ่ง เตรียมจะยิงฉันอีกหรือเปล่า อยากมาวุ่นวายนัก ..ฉันใช้สีแดงและสีชมพูปั้นเป็นกลีบดอก ใช้สีเขียวทำก้านใบ เก็งใจไม่ถูกว่าเธอจะสนใจไหม หรือจะลุกเดินหนีไปตามอารมณ์ แต่เห็นเธอเก็บปืนรวมเข้าก้อนเดิม และนั่งมองเงียบๆ ฉันปั้นไปพร้อม พูด flower ..one flower ..two flowers..เมื่อเริ่มปั้นก้านใบสีเขียวแก่ ใบไม้สีเขียวอ่อน เธอเริ่มขยับตัว จังหวะสองโมงเช้าเธอลุกขึ้นยืนเคารพธงชาติ ฉันใจเต้นรอลุ้นเธอจะนั่งลงหรือจะเดินจากไป เห็นเธอนั่งลงและหยิบดินน้ำมันสีเขียวอ่อนของฉันไปปั้นเส้นยาวยาว ดอกไม้ ใบไม้ไม่สามารถตั้งอยู่ได้ เพราะเธอปั่นเส้นยาวๆนั่นจนโต๊ะสั่นไปหมด ฉันจับมันวางกับกระดาษขาว แต่งก้านใบเป็นลำต้นใส่ผีเสื้อและแมลงปอเหมือนที่เคยวาด คราวนี้ลองร้องเพลงเบาๆด้วย เพลงของใครไม่รู้ เคยฟังมานานมาก แต่คงดีกว่าให้ฉันขับเสภาหรืออ่านอาขยานอย่างที่เธอชอบ "ดอกไม้ทุกดอกสวย หากเธอรักฉันด้วยคงสุขขี ฉันรักเธอคนดี เหมือนดอกไม้ทุกดอกบาน ..Cha ..la..la..la..la..la Cha la..la..la..la..la " ร้องวนไปมาอยู่สักสามรอบ คนเลี้ยงเด็กนั่งยิ้ม .. แต่ฉันไม่เขินหรอก ..เห็นเธอตั้งอกตั้งใจปั้นตัวยาวยาวได้หลายตัว ฉันใจชื้น ฉันปั้นหญ้าสีเขียวพร้อมพูด Grass เอางูของเธอมาขดๆ วางใต้กอหญ้าพูด Snake เธอหยิบดินน้ำมันของเธอมาปั้นเป็นก้อนกลมวางต่องูแล้วพูด snail จริงด้วย ! ฉันลืมหอยทากไปอีกอย่าง รู้สึกอึ้งไปเล็กๆ ฉันชี้ดอกไม้ ถามว่าแล้วนี่อะไร เธอไม่ตอบ ฉันถามใหม่ What's this? เธอตอบ flower ชัดเจน เมื่อชี้ที่อื่น งู ผีเสื้อ และกอหญ้า เธอตอบเป็นภาษาอังกฤษได้หมดทุกคำ ฉันครูภาษาอังกฤษน้ำตากลบเลย
     ได้เวลานักเรียนเข้าแถวทำกิจกรรมหน้าเสาธง เป็นช่วงเวลาที่เธอต้องอยู่ตามลำพังอีกแล้วเพราะเธอไม่ชอบอยู่กับคนมากมาย ฉันเดินจากมาคนเลี้ยงบอกขอบคุณคุณครูก่อน เธอพูด "สวัสดีครับ" คนเลี้ยงดุ "ขอบคุณครับสิ" "ขอบคุณครับ" แล้วทุบคนเลี้ยงไปหนึ่งที หลายคนบอกยิ่งโตจะยิ่งอารมณ์ร้าย ฉันใจแป้วจะช่วยเธอได้อย่างไรหนอ ฉันจะช่วยเธอได้ไหมหนอ ? เดินมาสักสามก้าวได้ยินเสียง งึมงัมไล่หลัง Cha La La La...โห ... ใครก็ได้ช่วยที ... หัวใจฉันพองคับอก .. เหมือนฉันจะติดปีกฉันกำลังจะลอยได้แล้ว เธอแบ่งเอาก๊าซลอยตัวนี้ไปบ้างไหม นะฉันแบ่งให้เธอ
    ฉันพบเธอครั้งแรกในวัยสี่ขวบ ตัวขาวๆแก้มป่องยุ้ยมีไรเขียวสองข้างแก้มตั้งแต่เด็กภาพเดียวที่ฉันพบเสมอ คือเธอนั่งปั้นดินน้ำมันคนเดียว คล้ายกับว่าเธออยู่ในโลกส้วนตัวของเธอเอง สังเกตว่าในทุกครั้งเมืองตุ๊กตาของเธอละเอียดละออ มีแม้แต่จานดาวเทียมและเสาโทรทัศน์ในกองรบ เธอไม่ลืมแม้แต่ดาบปลายปืนอันจิ๋วของหน่วยจู่โจม ไม่ลืมแม้รถหุ้มเกราะและสายพานรถเหล็ก เวทนาที่เธอเฉยเมยไม่สบตา ไม่มีแม้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรกับใคร เดินเขย่งปลายเท้าเกาะแขนคนเลี้ยง ฉันพยายามมาพบปะพูดคุยด้วยบ่อยๆแต่เธอไม่ยอมคุยนอกจากยกมือไหว้กล่าวสวัสดีครับ โดยไม่สบตาก่อนกลับบ้านจะมาแวะหน้าห้องฉันเสมอ ดูภาพธงนานาชาติที่บอร์ด และ "บอกชื่อได้หมด"
วันนี้ในวัยสิบขวบเธอเติบโตขึ้นในระดับปกติ การเดินโดยเขย่งปลายเท้าหายไป ฉันพบเธอเดินได้เต็มฝ่าเท้าและโดยลำพังไม่ต้องเกาะแขนคนดูแล เคยรู้มาว่าเป็นคนที่ดูแลเท่านั้นที่เธอจะเข้ามาหา แม้คนอื่นที่พยายามจะเล่นหรือคนในครอบครัวเดียวกันเธอจะไม่สนใจเลย ฉันเป็นคนเดียวมั้ย..คนนอกบ้านที่เธอเดินเข้ามาหา และทักทาย"สวัสดีครับ"พร้อมเงยหน้ายิ้มและสบตา รอยยิ้มนั้นน่ารักเหลือเกิน ..เหมือนดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมผลิบานจากภูผาสีเทา จริงจริงนะ วันนี้เธอมาโรงเรียนแต่เช้าทุกวันและใช้เวลาในรั้วโรงเรียนมากขึ้น ดีใจที่เลือกเดินเข้ามาหาฉัน แม้จะมีปฏิกิริยาในเรื่องที่จะโต้ตอบกับคนรอบข้างน้อย แต่เธอกลับยิ้มกับฉันและสนใจสิ่งล่อใจทุกอย่างที่ฉันทดลองอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เธอไม่เคยปฏิเสธในสิ่งที่ฉันยื่นเสนอ เพียงแต่ต้องหาจังหวะดีดีให้สำหรับเธอ เราเหมือนกำลังเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เธอรับสัมผัสของฉันได้ ที่สำคัญที่สุดเธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหรือไม่ควรทำอะไร !สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็มุมการ์ตูนดิสนี่ ที่เปิดเล่นซ้ำซากด้วยตัวเอง แต่ก็ยังอุตส่าห์หยุดความต้องการบังคับตัวเองได้เมื่อหมดเวลา คนเลี้ยงบอกเมื่อไหร่ที่ฉันไม่อยู่ติดอบรมสัมนา เธอจะวนเวียนอยู่หน้าห้องพึมพำ "ยังไม่มา"
     ในวันหนึ่งที่ฉันว่างจากการสอน ห้องทำงานปลอดคนเธอเดินเข้ามาหาตามลำพังฉันทดลองส่งหนังสือการ์ตูนให้ เธอสั่นหัวแต่ตามองเป็งที่กล่องสีในมือ ฉันยื่นกล่องสีส่งให้เธอไม่รับแต่เปลี่ยนสายตาไปมองที่แผ่นกระดาษฉันหยิบกระดาษเปล่าวางให้ตรงหน้าเธอมองเฉยๆฉันยังไม่หมดมุกแต่ไม่มีเวลาแล้ว งานตรงหน้ายังอีกหลายอย่างฉันเดินกลับมาที่นั่งเริ่มทำงานที่ทิ้งค้างปล่อยให้เธออยู่กับดินน้ำมัน ชำเลืองดูเห็นเธอวาดสีลงไปบนกระดาษขาวอย่างไม่มีรูปทรง ม้วนกลมไปในทิศทางเดียวกันฉันรู้สึกเวทนาเลยไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆหยิบกระดาษมาอีกสองแผ่น วาดดอกไม้ลายเส้นหลากสีลงไป เธอดึงกระดาษจากมือฉันไประบายสีต่อเลือกสีระบายในขอบสีเสมอกัน ไม่เว้นแม้ใบไม้ ผีเสื้อ แมลงปอกับประโยคงึมงำเบาเบานั้น "สนุกจังเลย" จากวันนั้นฉันทุ่มเทให้เธอหมดใจ..ความเชื่อมโยงของเธอดีกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน เพราะเธอสามารถทำได้โดยไม่ต้องบอก วันนี้ฉันกำลังให้เธอซึมซับประสบการณ์จากธรรมชาติ จากสวนดอกไม้ซ้ำกันหลายครั้งอย่างไม่เบื่อหน่าย ฉันจะลองเปลี่ยนไปลงทะเลดูบ้าง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาให้เธอเหลือเฟือ"พรุ่งนี้" มีให้เธอเสมอ

     เช้าวันอาทิตย์ฉันตื่นสาย ข้างนอกฟ้าเป็นน้ำ อิดออดจะลุกจากที่นอน ฟังเหมือนจะมีเสียงครื่นครั่นอยู่ กรกฎาคมผ่านมาอีกรอบ หนาวๆร้อนๆกับภูผาทรายรายรอบ ปีนี้ร้อนแล้งกว่าทุกปี ภูผานั่นจะร่วนซุยจนรับน้ำฝนไม่ได้อีกไหม?เห็นงานเร่งด่วนแก้ปัญหาน้ำในท้องถิ่นแล้วงงกับตัวเอง ความคิดของฉันเสียงดังขนาดนี้เชียว ?ว่าแต่ก่อนหน้านี้งบประมาณมโหฬารไปนอนนิ่งอยู่ที่ไหน คงไม่ใช่เตรียมการไว้เพื่อหาเสียงโดยเฉพาะหรอกกระมัง..แต่ก็พอใจที่สุด สำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำแม้ว่าจะช้าไปนิด มาช้า..ดีกว่าไม่มา ..รู้สึกปวดหัวตุบ ความดันผิดปกติหรือเปล่า ?
เหตุการณ์ที่จะให้ความดันทุรันกระฉูดก็ไม่มีสักหน่อยหรือเพราะว่าฉันทอดทิ้งการออกกำลังกาย ..จริงด้วย..ฉันออกกำลังกายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่.. สองเดือนก่อน ฉันหมดเวลาไปกับงานเอกสารหรือ? เป็นฉันหรือ?รอยกัดที่แขนยังนูนช้ำมองเห็นชัดเจน เกิดการอักเสบทำให้เป็นไข้หรือเปล่า?รอยช้ำนี้มายังงัย? ในความปวดตุบ ภาพเจ้าชายอัจฉริยะในดวงใจโฉบวาบตัวโตโตของเธอตุบตับมาในความคิด ระยะหลังเธอมาขลุกอยู่กับฉัน บางวันอารมณ์ดีมากเธอจะกระดุบกระดิบรำวงมาตรฐานให้ประหลาดใจเล่น ฉันเคยร้องเพลง งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า ได้จบเพลง
เพียงเพื่อให้เธอรำโดยไม่อิดออด ท่ารำเก้งก้างนั่นน่ำขำ แต่ดูเธออารมณ์ดี ศิลปะสร้างโลกยิ่งใหญ่จริงหนอ..
"แม่ ..ซื้อบาบีคิว" ประโยคนี้ติดปากไม่รู้ที่มา พยายามจะบอกอะไร?
วันหนึ่งที่ฉันอยู่หน้าชั้นเรียน เธอเดินดุ่มๆมาหาวันนั้นฉันเหนื่อยจนต้องใช้ไมโครโฟนผ่อนแรงปกติห้องไหนใช้ไมโครโฟนเธอจะไม่เฉียดกรายเลยแต่เธอเดินมาหาฉัน..
"แม่.." ห๋า..นั่นเป็นคำเรียกนิหน่า..สายตาอย่างนั้น..ใช่แล้ว..ฉันยังงง ยื่นไมค์ให้นึกว่าอยากพูด เหมือนทุกครั้งที่เดินเข้ามาแล้วส่งเสียง(ประโยคยาวๆนั่นไม่ใช่ภาษาไทย แต่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) ไม่มีใครเข้าใจเธอรับไมโครโฟนไปแล้วตั้งอกตั้งใจพูดชัดเจน "แม่..ซื้อบาร์บีคิว" ฉันยิ่งงงแตก แต่นึกสนุกพูดต่อให้"ลูกชิ้นหมู" ก็เคยรู้ว่าเป็นอาหารโปรดเธอพูดตามกุกกัก ต่อด้วย"น้ำจิ้ม" แล้วทำท่าดีอกดีใจวางไมค์วิ่งจากไปคนข้างห้องเดินมาดูอย่างสงสัย "เรียนเรื่องอะไร"
ฉันทำได้แค่ส่งยิ้ม ก้อยังงงอยู่เหมือนกันเมื่อเดาเรื่องได้เองแล้วก็บ่น "มีแปลกๆมาทุกวัน"
"วิชาของหนู ไม่เคยเข้าเรียนเลย" เธอเลือกเรียนเป็นบางวิชาแต่ชั่วโมงของฉันเธอไม่เคยขาดเรียนแม้ว่าบางวันจะเข้ามานอนกลิ้งมองเพื่อนเงียบๆบางวันก็จะนั่งที่เก้าอี้หมุนของฉันไม่มีทีท่าว่าสนใจแต่เมื่อให้เขียนเธอเขียนถูกเกือบหมด !! แม้แต่คำยากๆหลายพยางค์

     วันพฤหัสที่ผ่านมาไม่มีชั่วโมงเรียน เห็นเธอเดินร้องไห้ลงบันไดมาลำพังไม่เห็นคนเลี้ยง ฉันทัก เธอเดินงอแงเข้ามาหา ซุกซุนฉันรับเจ้าตัวนิ่มนั่นไว้ ไม่ทันระวังตัวเธอก้มกัดแขนเต็มที่ นิ่งนานจนพอใจแล้วหยุดสะอื้น รอยช้ำนั่นปูดให้เห็นทันตาสงสัยว่า ฉันหรือเธอกันแน่ที่ต้องไปฉีดยารอบสะดือ รู้ชัดว่าเธอจะอารมณ์ร้าย เมื่อถูกขัดใจและมีความรุนแรงมากขึ้นปีนี้อยู่ป.5 ปีหน้าเมื่อขึ้นป.6 เธอจะปรับตัวกับเพื่อนๆที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอย่างไร ฉันเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะเก็บข้อมูลนี้ไว้ให้เป็นประโยชน์ในด้านการศึกษา พัฒนาการทางด้านสมองเชิงภาษาดีมาก แต่จะเชื่อมโยงความคิดได้แค่ไหน?

     บ่ายวันศุกร์..ที่รอยช้ำยังบวมเป่ง ฉันก็ได้มีโอกาสต้อนรับอารมณ์ดีของเธออีกครั้งเมื่อเดินเข้ามาหาครั้งล่าสุด ฉันยังเสียวแขนวาบๆ เธอเดินเข้ามาหา เรียก" แม่.." ฉันพูดต่อ"ซื้อบาร์บีคิว"เธอพูดตาม ยาวเหยียด "ซื้อบาร์บีคิว ลูกชิ้นหมู น้ำจิ้ม" ฉันหยอดนิสัยดั้งเดิมบอก "ซอสมะเขือพวง" เธอชะงักแล้วทอดสายตาที่ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บๆคันๆ เสียงเนิบนาบย้อนกลับ ไม่สบตา " บาร์บีคิวหมู ซอสมะเขือเทศ"..นึกถึงเธอทีไรความตีบตันที่เกาะอยู่ปลายสมองปลิวกระจาย สองปีที่เหลือนี่งานฉันจะเดินหน้าได้สักแค่ไหนกันหนอ..ยังมีออทิสติคอีกมากมาย ที่โน่นที่นี่ พวกเขาสบายกันดีไหม ?มีใครเอาใจใส่เขาเหล่านั้นจริงจังหรือเปล่า ?คนใกล้ชิดสนใจและเอาใจใส่ดูแลเขาอย่างใกล้ชิดเหมือนเธอคนนี้ไหม ?

     เข้าใจดีว่าถ้าในครอบครัวใดมีออทิสติค หากได้รับเอาใจใส่แก้ไขและรักษาเขาให้ถูกทางก็จะช่วยเขาได้มาก แต่ถ้าเราปล่อยไป ยอมรับความจริงตรงนี้ไม่ได้ ไม่ได้นำเข้ามาสู่กระบวนการรักษาเราอาจจะเสียโอกาสในการพัฒนาเขา เพราะการรักษาในทางยานั้นยังเป็นเพียงการรักษาตามอาการ การช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ต้องอาศัยการกระตุ้นพัฒนาการด้วยการวางแผน การปรับพฤติกรรมอย่างเต็มรูปแบบพ่อแม่ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาค่อย ๆ ปรับและแก้พัฒนาการ ทำให้สมองส่วนที่มีความบกพร่องของเขา มีโอกาสในการพัฒนาและก้าวหน้าขึ้นมาบ้าง เพราะสมองของเด็กเล็กนั้นยังมีโอกาสอีกมากที่จะพัฒนา ฉันเชื่อว่าครอบครัวที่ยอมรับในปัญหา แล้วก็เข้ามาช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กมีความก้าวหน้าขึ้นมาเป็นอย่างดี อาการของออทิสติคเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเรื้อรัง ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คงต้องอาศัยคนใกล้ชิดที่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วย

     จริง ๆ แล้วเด็กออทิสติคหลาย ๆ คนนั้นมีพัฒนาการที่ดี และการที่เขาได้มีโอกาสในการเรียนร่วมกับเด็กปกติ จะช่วยให้เขามีพัฒนาการที่ก้าวหน้าต่อไปในวันข้างหน้าเป็นอย่างดี ฉันมั่นใจว่าคุณครูที่ดูแลเด็กที่เป็นออทิสติคควรจัดการศึกษาให้กับเขาได้อย่างเหมาะสม ให้เด็กได้อยู่ในโลกของความเป็นจริงที่ต้องพบกับคนหลายๆ รูปแบบ ฉันหวังให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจว่าเด็กออทิสติคเป็นอย่างไร ฉันหวังให้ทุกความรับผิดชอบได้ให้โอกาส ให้การช่วยเหลือเด็กออทิสติค ให้เขาได้มีโอกาสที่จะก้าวหน้าต่อไปในสังคม สังคมจะได้ไม่มองเห็นแต่ภูผาสีเทาสังคมจะได้ชื่นใจกับดอกไม้สีขาวที่ผลิบานส่งกลิ่นหอมบนภูผา อยากให้เธอเบ่งบานเป็นดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมที่ผุดบานบนภูผาตลอดไป ฉันอยากให้ใครๆได้เห็นดอกไม้สีขาวผลิบานบนภูผาสีเทาส่งกลิ่นหอมอวลใจ อย่าปล่อยให้ภูผาสีเทารกเรื้ออีกต่อไปเลย ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนภูผาสีเทาต้องไม่รกร้าง ในรัศมีเมตตากรุณาอันกว้างใหญ่ มีเด็กๆที่น่าสงสารอย่างนี้อยู่อีกมากมาย รักเขาให้มากมากเถอะนะ ความเมตตาที่แฝงอยู่ในทุกคนจะสร้างโลกให้สวยงาม เรามาสร้างโลกนี้ให้สวยงาม แล้วเราจะพบว่าโลกของเราสวยงามจริงๆในทุกมุมมอง นะ..วันนี้เราช่วยกันปลูกดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมบนภูผาสีเทา ให้ดอกไม้สีขาวบนภูผาสีเทาส่งกลิ่นหอมกำจายไปถึงดวงใจทุกดวง ..



 



"Life moves pretty fast...if you don't stop to look around once in a while,
you might miss it." - - Ferris Bueller, "Ferris Bueller's Day Off" - -
ชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณไม่หยุดและมองไปรอบๆบ้าง คุณอาจจะพลาดบางอย่างไป

 



หน้าที่ :: 1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved