Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14026871  

สัตว์เลี้ยง

เทคนิคการฝึกสุนัขเบื้องต้น
  1. การฝึกให้ทำตามคำสั่งพื้นฐาน คำสั่งให้ ''หยุด'' เป็นคำสั่งที่สำคัญที่สุด ต้องเป็นคำสั่งที่ขลังและใช้ได้ทุกครั้งอย่างได้ผล ท่านอาจจะใช้คำว่า ''หยุด" หรือคำว่า "ไม่" ให้เลือกใช้คำใดคำหนึ่งเวลาที่ลูกสุนัขทำผิด ทำเรื่องที่เราไม่ต้องการให้ทำ เช่น กัดแทะรองเท้า ท่านต้องใช้น้ำเสียงของท่านอย่างเข้มแข็งและเอาจริงเอาจังในการสั่ง หรืออาจจะใช้มือจับที่หนังคอดึงให้แน่นเพื่อให้ลูกสุนัขรู้ว่าทำผิดและไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนั้นอีก โปรดอย่าทำร้ายลูกสุนัขไม่ว่าจะใช้มือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพราะจะทำให้ลูกสุนัขกลัวและขยาดตัวท่าน พอเจอกันคราวต่อไปลูกสุนัขอาจวิ่งหนีท่านจนท่านไม่สามารถสอนอะไรเขาได้อีกเลย
  2. การฝึกให้นั่ง คำสั่งให้นั่งฝึกสอนได้ไม่ยาก ตอนแรกใช้ของกิน เช่น คุกกี้ หรือไส้กรอกชิ้นเล็กๆ เป็นของรางวัลล่อใจลูกสุนัขนิดหนึ่ง อาจจะช่วงเวลาก่อนให้อาหารลูกสุนัข มีขั้นตอนในการสอนดังนี้ ใช้ของกินล่อลูกสุนัข โดยการเรียกชื่อพร้อมๆ กับแสดงให้ลูกสุนัขเห็นว่าในมือของท่านถือของกินอยู่ ลูกสุนัขพอเห็นของกินก็จะวิ่งเข้าหาท่านโดยง่าย เมื่อลูกสุนัขเข้ามาใกล้ในระยะที่พอเหมาะท่านก็ถือของกินในระดับอก โดยธรรมชาติสุนัขจะแหงนหน้ามองอยู่แล้ว บางตัวอาจจะนั่งกระดิกหางเลยด้วยช้ำไป แต่ถ้าลูกสุนัขไม่นั่งให้ท่านใช้มือที่ว่างอยู่กดลงที่สะโพกสุนัข เพื่อให้มันนั่งลงพร้อมกับพูดคำว่า “นั่ง” ให้เสียงดังชัดเจน พอลูกสุนัขนั่งก็ป้อนของกินให้มันเป็นรางวัลในการทำตามคำสั่ง จากนั้นท่านก็เคลื่อนที่ดู แล้วลองทำซ้ำใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำบ่อยๆ ลูกสุนัขจะเรียนรู้ว่า ถ้ามันนั่งลงจะได้กินของอร่อย จากนั้นท่านก็ค่อยลดปริมาณของกินที่ใช้ล่อจนในที่สุดแค่ออกคำสั่งให้นั่ง สุนัขก็จะนั่งลงตามคำสั่งท่าน
  3. การฝึกลูกสุนัข อุปกรณ์ที่เคยกล่าวไว้ข้างต้น อย่างเช่น สายจูง เริ่มจะเข้ามามีบทบาทมากเวลาที่ท่านจะพาสุนัขออกไปนอกบ้าน การจูงสุนัขต้องมีอุปกรณ์สำคัญอีกอย่างคือ โซ่บังคับ (Check Chain or Chain) โซ่บังคับเป็นโซ่เส้นเดียวที่ร้อยกลับมา จะเป็นบ่วงคล้องเข้าไปที่หัวของลูกสุนัขได้ เวลาที่เราพาลูกสุนัขไปเดินเล่นเราก็ปลดปลอกคอออกแล้วใช้โซ่บังคับสวมแทน แล้วนำสายจูงมาคล้องต่อจากโซ่บังคับ โซ่เส้นนี้ล่ะที่เป็นอุปกรณ์บังคับลูกสุนัขได้ดีมาก เพราะถ้าลูกสุนัขไม่เชื่อฟังคำสั่ง และวิ่งไปไกลเรา เจ้าโซ่ชนิดนี้จะเลื่อนหดรัดคอทำให้สุนัขรู้สึกกลัวไม่กล้าขัดคำสั่ง โดยปกติแล้วเวลาเราจูงสุนัขต้องให้อยู่ทางซ้ายมือทุกครั้ง สุนัขที่ดีจะต้องไม่เดินนำหน้าเจ้าของ หรือออกแรงวิ่งลิ่วๆ ไปที่ไหนๆ ตามอำเภอใจ เวลาลูกสุนัขออกนอกลู่นอกทางท่านควรใช้คำสั่งให้ ''หยุด'' หรือ ''ไม่'' พร้อมออกแรงกระตุกสายจูงโซ่บังคับ มันจะรัดแน่นโดยอัตโนมัติ ท่านอยากจะให้ลูกสุนัขเดิน หรือวิ่งเร็วขึ้น ก็ให้ส่งเสียงกระตุ้นเชียร์ มือก็กระตุกโซ่บังคับเป็นจังหวะเพื่อกระตุ้น ลูกสุนัขก็จะออกแรงเพิ่มขึ้น การจูงลูกสุนัขเดินออกไปนอกบ้าน ไปแม่น้ำ ไปสวนสาธารณะจะทำให้ลูกสุนัขได้รู้จักเรียนรู้สิ่งแวดล้อมภายนอกบ้าน คุ้นเคยกับคนแปลกหน้า ไม่ตื่นกลัวอะไรง่ายๆ ซึ่งมันจะมีผลดีมากเวลาที่สุนัขโตขึ้น
  4. การหัดลูกสุนัขเดินทาง ท่านเคยสังเกตหรือไม่ว่าเวลาที่ท่านพาลูกสุนัขขึ้นรถยนต์ครั้งแรก พวกเขาจะนั่งนิ่งๆ เป็นส่วนใหญ่ บางตัวอาจจะมีอาการกระวนกระวาย หงอย มีน้ำลายไหลยืดเต็มปาก มากๆ เข้าก็จะอาเจียน อาการเหล่านี้เป็นอาการ ''เมารถ'' (Motion sickness) เนื่องจากสมองยังไม่ชินกับสภาพการเคลื่อนไหวดังกล่าว เราสามารถทำให้อาการที่ว่านี้หมดไปได้ถ้านำลูกสุนัขตัวนั้นนั่งรถบ่อยๆ การหัดให้ลูกสุนัขนั่งรถนั้นต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะถ้าฝืนมากๆ จะทำให้ลูกสุนัขกลัวและรู้สึกแย่มากเวลาที่อยู่ในรถ ท่านควรเริ่มจากนำลูกสุนัขไปนั่งในรถก่อนแล้วค่อยสตาร์ทเครื่อง ขับไปช้าๆ ระยะทางตอนแรกไม่ควรขับไกลมาก และไม่ควรให้ลูกสุนัขใช้เวลาอยู่ในรถนานเกิน 10 นาที จากนั้นท่านก็ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้น ผมเชื่อว่าถ้าท่านค่อยๆ ฝึก ใจเย็นๆ บางทีลูกสุนัขอาจจะติดใจชอบนั่งรถเที่ยวก็เป็นได้
  5. การฝึกสอนให้นั่งและคอย หลังจากที่ทำให้ลูกสุนัขนั่งลงได้แล้ว คำสั่งต่อไปจะยากขึ้นคือ การสั่งให้ ''คอย'' เมื่อท่านสั่งให้ลูกสุนัขนั่งลง ท่านค่อยๆ ใช้มือขวายกขึ้นในระดับสูงเหนือหัวของลูกสุนัขพร้อมเคลื่อนตัวมาช้าๆ ออกมายืนตรงหน้าลูกสุนัข มือด้านขวาที่ยกขึ้นอย่าตกพร้อมกับพูดว่า “คอย” มือซ้ายที่ดึงสายจูงอย่าเพิ่งปล่อย เพราะถ้าลูกสุนัขขยับตัวจะได้ใช้โซ่บังคับควบคุมได้ เมื่อท่านสังเกตว่าลูกสุนัขเข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่งเป็นอย่างดี ก็ค่อยปล่อยสายจูงช้าๆ เบาๆ อย่าลืม! มือขวาที่ยกขึ้นห้ามเอาลงเด็ดขาด พร้อมกับคำพูดที่บอกว่า “คอย” ยังต้องพูดอยู่ เมื่อเห็นว่าสุนัขทำได้ดีก็ค่อยเพิ่มระยะทางให้ห่างขึ้น ฝึกทีละนิดอย่าหักโหมฝึกนานจนเกินไป หลังจากที่เราพอใจแล้วควรหยุด และเรียกให้ลูกสุนัขมาหา ท่านอาจจะชมโดยการพูดว่า “ดีมาก” หรือลูบตัว คอ เพื่อเป็นการชื่นชมสุนัข
  6. การฝึกให้สุนัขหมอบคอย ลูกสุนัขจะต้องผ่านการสอนให้นั่งและคอยได้ก่อน เริ่มการฝึก ให้หมอบคอยโดยใช้คำสั่งให้นั่ง จากนั้นสั่งให้คอย ได้ดังนั้นท่านก็ค่อย ใช้มือเลื่อน 2 ขาหน้าไปด้านหน้า เมื่อลูกสุนัขหมอบจนอยู่ในระดับพื้นแล้ว ให้ใช้คำสั่งว่า “หมอบ” ด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ ถ้าสุนัขทำท่าจะลุกขึ้นให้รีบสั่งว่า “หมอบ” และ “คอย” พร้อมๆ กับกดตัวสุนัขลงไปเบาๆ เมื่อลูกสุนัขนิ่งและหมอบดีแล้ว ท่านค่อยๆ เคลื่อนตัวไปด้านหน้ายกมือขวาขึ้นเหนือหัวของลูกสุนัข พร้อมกับพูดว่า “คอย” เมื่อลูกสุนัขอยู่นิ่งทำตามที่ท่านต้องการอย่างเข้าใจ ก็สั่งให้มาหา ท่านควรจะมีขนมเป็นของรางวัล หรือคำชมให้แก่ลูกสุนัข การฝึกต้องทำบ่อยๆ และทำเป็นประจำ อย่าฝึกนานจนเกินไป ถ้าเห็นว่าสุนัขเบื่อไม่มีสมาธิให้หยุดทันทีเพราะฝึกนานแล้ว
  7. การฝึกให้สุนัขกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง การสอนให้กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางนั้นทำได้ไม่ยาก ใช้คำสั่งว่า “กระโดด” นี่ล่ะครับ มีวิธีการสอนดังนี้ สร้างสิ่งกีดขวางเป็นรั้วเตี้ย ประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นนำลูกสุนัขมาแล้วสั่งให้ “นั่ง” แล้วท่านค่อยขยับพร้อมกับสั่งให้ “คอย” ท่านเดินข้ามรั้วเตี้ยๆ ที่ทำไว้ แล้วค่อยให้สัญญาณอนุญาตให้สุนัขวิ่งมาได้ พอมันวิ่งถึงแล้วกระโดด จังหวะนั้นให้ใช้คำว่า “กระโดด” ทำซ้ำบ่อยๆ และค่อยๆ เพิ่มความสูงให้เหมาะสมกับตัวสุนัขขึ้นเรื่อยๆ
  8. การฝึกให้สุนัขคาบของมาคืน ลูกสุนัขสอนง่าย เพราะธรรมชาติของลูกสุนัขชอบและสนใจเจ้าวัตถุที่เราขว้าง หรือกลิ้งวัตถุนั้นไป มันจะวิ่งไปดูและไปดมเช่นกัน การสอนให้คาบของคืนของ ทำได้โดยสั่งให้สุนัข “นั่ง” จากนั้นนำของเล่น เช่น ลูกบอล ตุ๊กตา เอาขึ้นมาอวดให้สุนัขเห็น ท่านอาจจะถือเข้าใกล้ปากมัน พอมันกัดก็ดึงยื้อไว้พร้อมกับสั่งให้หยุด จากนั้นก็กลิ้งของเล่นไปบนพื้นระยะทางใกล้ๆ ไม่เกิน 4 เมตร พอลูกสุนัขวิ่งไปคาบของเล่น ท่านก็เรียกชื่อเขาพร้อมกับสั่งให้มาที่ท่าน พอลูกสุนัขคาบของวิ่งมา ท่านก็แกะของออกจากปากพร้อมชมเจ้าตัวน้อยว่า “เก่งมาก” แล้วเริ่มย้อนกลับไปทำข้างต้นใหม่ การฝึกอย่าทำมากจนสุนัขเบื่อ แค่วันละ 4-5 ครั้งแล้วเก็บ เลิกพรุ่งนี้ค่อยมาทำใหม่ ค่อยๆ เพิ่มระยะทางและความยากขึ้น เช่น ขว้างแบบกระเด้งบนพื้นเพื่อให้ ลูกสุนัขสนุก กระโดดตาม หรือขว้างของไปในพุ่มไม้ เพื่อให้เข้าไปหาได้ยากขึ้นและสนุกท้าทายมากขึ้น


หน้าที่ :: 2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved