Neric-Club.Com
|
|
|
นิตยสารออนไลน์
|
|
|
มุมเบ็ดเตล็ด
|
|
|
|
|
|
|
สายลม แสงแดด |
|
|
| | เจ้าอ้ายที่รักยิ่ง
เผลอไปนิดเดียววันเวลาในปฏิทินก็วิ่งแซงหน้าฉันอีกแล้ว เข็มนาฬิกาก็ขยันจัง หรือว่าฉันต้วมเตี้ยมกว่าเดิม ฝนตกทุกวันสนามหญ้าแฉะ ไม่ได้ออกกำลังกายสักเดือนได้ หนึ่งเดือน..จริงด้วย..เดือนที่ผ่านมานี้ฉันไปทำอะไรมา มีอะไรแปลกใหม่ในชีวิต..ไม่มี..มีแต่งานกับงาน..งาน..งาน
ถึงวันนี้ วัยนี้ ฉันก็เป็นต้นแบบนั่นนี่หลายอย่างให้ผู้คนในวิชาชีพเดียวกันมาศึกษาดูงาน น่าเหนื่อยไหม? ชั้นรู้สึกไหม? เปล่าเลย..ก็ตีค่าเป็นความภูมิใจ ความศรัทธาในตัวเองเป็นสุขลักษณะนิสัยที่ดี.. แม้จะมีหลายครั้งที่ถามตัวเองว่า เราดีพอที่จะเป็นต้นแบบหรือยัง แต่คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือก มีสิทธิ์ที่จะมี มีสิทธิ์ที่จะเป็น ใช่เปล่า? เหมือนซื้อของตลาดนัดที่ผุดเป็นดอกเห็ดกับสำนวน "ตาดีตาได้" ชั้นพูดง่ายไปมั้ย..ก็เรามีสิทธ์คัดสรรสิ่งดีๆให้ตัวเอง และชั้นไม่อยากเป็น"แม่ปู" "สิ่งที่คิดว่าใช่มันอาจไม่ใช่ สิ่งที่ไม่ใช่ของคุณอาจใช่สำหรับใครอีกคน" ก็ถูกไม่เท่าถูก และผิดไม่เท่าผิด ดีจึงไม่เหมือนดีไปทั้งหมด
เจ้าอ้าย..วันนี้ชั้นหันกลับมาปัดฝุ่นเรื่องการสอนเพื่อการสื่อสารอีกครั้ง เพราะการสอนเพื่องานอาชีพในอนาคตที่ควรมี ควรเป็นที่สุดหนีไม่พ้นแล้ว Communicative Approach เป็นประเด็นด่วนสำหรับการเรียนการสอนเพื่อโลกอาชีพ
การใช้วิธีการสอนแบบมุ่งเน้นการสื่อสาร หรือ Communicative Approach ประสมประสานกับหลักทฤษฎีที่กล่าวมาแล้วเพื่อเน้นให้ผู้เรียน ได้ฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารอย่างแท้จริง มิใช่เป็นการท่องจำ กฎไวยากรณ์เหมือนก่อน ทั้งนี้การฝึกภาษาเพื่อการสื่อสาร เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้ภาษาใน ชั้นเรียนกับการนำภาษาไปใช้จริงนอกห้องเรียน การฝึกการใช้ ภาษาเพื่อการสื่อสารจึงมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เรียนได้ลองใช้ภาษา ในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยผู้สอนเป็นผู้แนะแนวทางให้เท่านั้น การที่ผู้เรียนได้เรียนรู้แล้วอย่างแท้จริงก็คือ การที่ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้เองโดยอิสระตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี โดยไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์ควบคุมการเรียนการสอนในแนวนี้ จึงเน้นการทำกิจกรรมเพื่อฝึกการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงให้มากที่สุด โดยฝึกในลักษณะทักษะสัมพันธ์(Integrated Skills) ผู้สอนเป็นผู้นำกิจกรรมมาให้ผู้เรียนฝึก เช่นการสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้สนทนากัน
จุดมุ่งหมายของวิธีการสอนตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสารนี้ มุ่งให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสมกับสภาพสังคมการจัดการเรียนการสอนจึงเน้นหลักสำคัญ คือ ต้องให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมการใช้ภาษา กิจกรรมดังกล่าวควรมีลักษณะหมือนในชีวิตประจำวันให้มากที่สุดเพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริงและต้องให้ผู้เรียนฝึกการใช้ภาษามาก ๆ เพื่อให้เกิดความคล่องแคล่วในการใช้ภาษา อาจจะสรุปได้ว่าหลักสูตรนี้มุ่งเน้นที่การพัฒนาความสามารถของผู้เรียนในการใช้ภาษา ตามความมุ่งหมายในสถานการณ์ต่าง ๆ การเรียนการสอนในแนวนี้ จึงเน้นการทำกิจกรรมเพื่อฝึกการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงสถานการณ์ จริงให้มากที่สุดนั่นเอง
วิธีการสอนแบบไวยากรณ์นั้นเป็นวิธีการสอนที่มุ่งให้ความรู้ความเข้าใจคำศัพท์ และกฎเกณฑ์ ข้อยกเว้นต่าง ๆทางไวยากรณ์ โดยผู้สอนเป็นผู้ทำหน้าที่อธิบาย และให้ผู้เรียนนำความรู้ดังกล่าวไปทำแบบฝึกหัด การวัดผลเน้นความจำ คำศัพท์และกฎไวยากรณ์ ซึ่งวิธีการสอนแบบนี้ละเลยทักษะการพูด และไม่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาที่เรียนไปใช้สื่อสารได้
การเรียนรู้กฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าผู้เรียนจะสามารถ ใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง และการเรียนวิธีนี้ไม่สอดคล้องกับภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน วิธีการสอนแบบนี้จะทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายและทำให้ผู้เรียนมีโอกาสใช้ภาษาน้อย จะเป็นการขัดขวางการคิดเป็นภาษาต่างประเทศให้ช้าลง วิธีการสอนแบบนี้เป็นการให้พื้นฐานในการเรียนรู้ภาษามากกว่าให้ความรู้เกี่ยวกับตัวภาษาจริง ๆ นั่นคือ ช่วยให้ผู้เรียนรู้ว่าภาษามีระบบอย่างไรมากกว่าที่จะรู้ว่าเจ้าของภาษาใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารอย่างไร ด้วยเหตุนี้ คณะผู้วิจัยจึงไม่เน้นการเรียนการสอนแบบไวยกรณ์(Grammar) ตามแบบของเดิม
การฝึกภาษาในลักษณะนี้มีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยให้ผู้สอนและผู้เรียนได้รู้ว่าผู้เรียนได้เข้าใจและเรียนรู้ภาษาได้มากน้อย เพียงใด ซึ่งการเรียนรู้อย่างแท้จริงนั้น หมายถึง การที่ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้เองโดยอิสระตามสถานการณ์ที่ผู้สอนกำหนด ในการเรียนการสอนนั้นคณะผู้วิจัยได้กำหนดบทบาทสมมุติขึ้น เช่น ผู้เรียนเป็นใคร และจะต้องพูดว่า อย่างไรบ้างในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับการกำหนด เราว่าผู้เรียนสามารถใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้สอนเป็นผู้กำหนด และจากการเรียนการสอน
ข้อดีข้อเสียของการสอนแบบมุ่งเน้น การสื่อสารเป็นหลัก Communication-based 1. ข้อดี ก. เป็นวิธีการสอนที่สอดคล้องกับเป้าหมายของการเรียนภาษา คือมุ่งให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิตจริง ข. เป็นวิธีการสอนที่เน้นกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกภาษา ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกฝนภาษาเพื่อสื่อความหมายในสถานการณ์ ต่าง ๆ ฝึกใช้ความคิด มีความกล้าในการใช้ภาษาทำให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ในการใช้ภาษา ค. ผู้เรียนได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นกลุ่ม เป็นคู่ เป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีและรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกันฝึกวินัยและความรับผิดชอบ
2. ข้อจำกัด
ก. วิธีการสอนตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสารนี้ ต้องการผู้สอนที่มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ เช่น ความรู้ ความเข้าใจด้านภาษาศาสตร์เชิงสังคม การจัดกิจกรรม และการสร้างสถานการณ์ในห้องเรียนให้เหมือนจริงเพื่อให้ผู้เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นการสอนที่ใช้เวลามากและได้เนื้อหาน้อย ทำให้ผู้เรียนเข้าใจว่าไม่ได้อะไรและผู้เรียนต้องเข้าเรียนสม่ำเสมอจึงจะเห็นพัฒนาการของการใช้ภาษาอย่างชัดเจน
ข. วิธีการสอนที่เน้นความสามารถในการสื่อสารมากกว่าความรู้ ความสามารถในรูปแบบของภาษา ดังนั้นการวัดผลตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสารจะเน้นทักษะสัมพันธ์ และต้องวัดผลอย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกอบรมครั้งนี้จัดให้มีการวัดผลในแต่ละครั้งที่จบบทเรียน ทั้งนี้เพื่อจะได้ทราบถึงพัฒนาการในการสื่อสารของผู้เรียน ผู้สอนจึงต้องวัดผลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เรียนเกิดความท้อแท้เบื่อหน่าย
การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารจึงไม่บังคับให้ผู้เรียนพูด หรือออกเสียงให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และการออกเสียงจนเกิดความเครียดและไม่กล้าพูด แต่จะมุ่งเน้นการช่วยเหลือให้ผู้เรียนกล้าพูดและสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษตามความจำเป็นในการใช้
เจ้าอ้าย..คิดเหมือนกันไหมว่าหลักสูตรภาษาอังกฤษนั้นมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง (แต่เหมือนไปไม่ได้ถึงไหน )การที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาไปใช้ในการสื่อสารหรือสื่อความหมายได้โดยไม่ต้องกังวลกับความถูกต้องทางไวยากรณ์จนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆการเรียนการสอนในแนวนี้ จึงเน้นการทำกิจกรรมเพื่อฝึกการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงให้มากที่สุด
เจ้าอ้ายเอ๋ย..ชั้นคิดว่า การจัดเนื้อหาที่เน้นในเรื่องโครงสร้างทางไวยากรณ์ ผู้เรียนไม่สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรืออาจจะสื่อสารได้บ้างก็เป็นลักษณะที่เจ้าของภาษาเขาไม่ใช้พูดกัน หรือพูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจเพราะเน้นความถูกต้องทางไวยากรณ์มากเกินไป และสภาพของบทเรียนก็ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร คุณครูจึงต้องคิดวิธีการเสนอเนื้อหา โดยเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและวิธีการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้กฎเกณฑ์ทางภาษาด้วย
มีความสุขที่ได้คิดได้เขียนส่งมาถึงนะ แต่เน็ทเน่าบ่อยๆอย่างนี้ชั้นกลัวจะสร้างสมนิสัยเป็นคนขี้หงุดหงิด ไม่อยากเป็นคนแก่เจ้าอารมณ์ นายเองก็เหมือนกัน ไม่ดีแน่เลยถ้าจะเป็นผู้เฒ่าเจ้าอารมณ์ "รักษาความดีไว้ให้เหมือนเกลือที่รักษาความเค็ม" หรือจะเลือก"รักษาความเค็มไว้ให้เหมือนเกลือที่รักษาไว้อย่างดี"ก็ตามใจ นอกจากจะแสนงอน ปากจัดแล้วติดขี้งกอีกหน่อยก็ทุรลักษณ์สมบูรณ์แบบเลย หายไปนานๆ ก็คิดถึงกันมั่ง โลกจะได้ไม่ร้างรัก..ส่วนชั้นพยายามจะส่งความคิดมาให้ถึงนายทุกวัน ไม่รู้จะถึงมั้ย..แบบ.. "เส้นทางสั้นโดยเรื่องราวแต่ยาวโดยบริบท"
รักนายเท่าเดิม(จริงจริงนะ)
'เจ้าเอื้อย
| | "The difference between the impossible and the possible lies in a man's determination." - - Tommy Lasorda - - เส้นบางๆที่คั่นระหว่างความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้คือการตัดสินใจของเรา |
|
|
|
|