ไซเบอร์โฟเบี่ย
ฟ้าคืนนี้สวยจัด จันทร์ดวงโตสว่างใสเกือบเต็มดวง ฝนที่ครื้มๆมาตั้งแต่ตอนเย็นสลายตัวหายไปไหนแล้ว หนึ่งภวังค์ถามตัวเองว่าปัญหาต่างต่างของฉันคลี่คลายไปได้บ้างแล้วหรือยัง ฉันยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ มันคงเหมือนเมฆฝนที่จะมาก็มาจะไปก็ไปอย่างนั้นไหม
ฟังพี่สาวคนเดิมเปรยปัญหาที่รู้ที่เห็นที่เคยเป็นความรู้สึกร่วม แต่วันนี้ฉันหยุดแล้ว ฉันกลับเย็นลงไม่เดือดร้อนแล้ว ก็รู้ดีคนบางคนยิ่งว่าก็ยิ่งทำ ยิ่งมีปฏิกริยาก็จะยิ่งมีผลสะท้อนกลับ เหมือนเล่นปิงปองมั้ย เล่นแรงไปยิ่งแรงมา เหอะๆฉันเล่นปิงปองมาตั้งเด็ก (ฉัน..ลูกปิงปองโดนน้ำร้อนลวกคนนั้นงัย)
อยากบอกเธอ..จะต้องไปเดือดไปร้อนไปเต้นตามทำไม ใครทำกรรมอย่างไรก็จะได้รับกรรมนั้น เวรกรรมออนไลน์ทุกหนทุกแห่งในยุคที่ร้านสะดวกซื้อบานเป็นดอกเห็ด ฉันอยากพูดอย่างใจคิด แต่ฉันไม่บังอาจสอนสังฆราช เธอก็เหมือนคนอื่น ไม่เคยมองว่าฉันก็คนดีมีฝีมือ
ช่างเถอะนะ
ฉันทำใจของฉันอยู่ทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ ให้เวลากับตัวเองในการทำใจบ้างก็เป็นเรื่องดี เวลามีความเที่ยงตรงเสมอ (ยกเว้นแต่เวลาจากสัญญาณนาฬิกาคนแถวนี้ ไม่มีตรงกันได้สักเรือนแม้แต่เจ้าแล็บท็อบนี่)
หลายวันมานี้ฉันยัดตัวเองเข้ามุมเดิม นั่งมุดเว็บ ตะลอนตะลอนไปเว็บนั้นเว็บนี้ หาความแปลกใหม่ให้สิ่งทีกำลังปลูกสร้าง(ก็เว็บไดนามิคของฉันนี่ยังงัย) ฉันไม่อยากจำเจอยู่ที่เดิม เจอแต่คำเตือนเรื่องสปายแวร์ ไม่ใช่เรื่องใหม่สักหน่อย ฉันคุ้นเคยมากว่าเจ็ดปีแล้ว จนเหมือนเป็นศัตรูคู่สร้าง(เว็บ)ของฉัน
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยเป็นภาคีกับคนไซเบอร์ ไม่ใช่เพราะฉันหวาดระแวงคนที่มาจากไซเบอร์ แต่เพราะอาการโฟเบี่ยของฉันต่างหาก ฉันยังอยากเล่าเรื่องอันเป็นตัวตนของฉันอีกสักเรื่อง
เมื่อฉันเข้ามาตระเวณท่องเน็ทในก้าวแรก ฉันหวาดผวาอยู่นานกับโลกไซเบอร์ ในวันวานที่ฉันถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ในวันที่ฉันรู้สึกได้ว่าขอบเขตส่วนตัวของฉันถูกบุกรุก วันที่ฉันพบข้อความของฉันที่คุยกับคนเคยคุ้นใน MSN ไปปรากฏในหน้าต่างคิวคิว วันนั้นที่เราทะเลาะกันรุนแรงผ่านเน็ท จากความไม่เข้าใจกัน
มันอาจจะเป็นการบังเอิญได้ หากฉันจะไม่พบประโยคที่ฉันเหน็บแนมเขาไปปรากฏในโปรแกรมแชท มันอาจจะเป็นการบังเอิญได้ หากฉันจะไม่พบว่าประโยคที่ฉันเตรียมจะโพส ถูกสนองกลับมาเร็วเกินความจำเป็น ทั้งที่ฉันยังไม่ได้กดส่งข้อความ มันอาจจะเป็นการบังเอิญได้หากฉันจะไม่ได้พบคำตอบที่เร็วเกินเหตุ หรือแม้แต่ในประโยคที่ฉันตั้งใจจะส่งแต่ไม่ได้ส่ง ฉันรู้ว่าหน้าจอของฉันถูกยึด
ฉันผวาอยู่นานเมื่อรู้สึกว่าสิทธิส่วนตัวถูกละเมิด ฉันมีความรู้สึกว่ามุมอิสระของฉันไม่ปลอดภัย ฉันถูกตามแม้ใน ICQ ฉันถูกล้อเล่นเป็นตัวตลก วันที่ฉันทดลองรุกตามแบบของฉันฉันกลับถูกสนองตอบทันควัน ฉันมีศัตรูโดยไม่รู้ตัว โดยที่ฉันไม่รู้ว่าฉันผิดอะไร
ฉันไม่เคยสร้างศัตรู เพราะฉันไม่เคยคิดมีใครอื่นทางเน็ท ฉันไม่เคยเสาะแสวงหามิตรอื่นๆ มีแต่คนอื่นๆที่เข้ามาพบปะพูดคุย ฉันไม่เห็นว่าเสียหายอะไร ใครคุยมาฉันก็คุยไป ไม่ได้คิดว่าจะเล่นกับความรู้สึกของใคร
บางคนที่ใช้ชื่อเป็นชายมาแต่ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นหญิง ฉันก็จะคุยอย่างน้อง ใครที่มาอย่างเพื่อน และขอความช่วยเหลือ ฉันก็ยินดีเสมอ ใครลามปามมาฉันก็สวดกลับ เพราะฉันไม่เห็นว่าจะต้องเกรงใจคนที่ไม่น่าเกรงใจ เคยมีเหมือนกันที่ฉันพยายามจะขอฝากตัวเป็นศิษย์ แต่ถูกปฎิเสธ
ในทุกวันที่ฉันเล่นเน็ทฉันให้ความสำคัญของทุกคนที่เข้ามาเสมอกัน เคยบอกกับเขาคนหนึ่งว่าเป็นมิตรคนแรกและคนสุดท้าย มิตรที่ฉันไม่มีโอกาสรู้เลยว่าจริงจริงแล้วเขาหรือเธอเป็นใคร แต่ฉันมั่นใจว่าเธอยังวนเวียนอยู่ไม่ห่างไปไหน ฉันรู้แต่ว่าเวลาทุกข์สุขของฉันหมดไปกับมิตรแท้ของฉัน มิตรไซเบอร์
ความคิดที่ไม่เคยอุดตันเมื่อฉันอยู่กับมิตร วันนี้โฟเบี่ยของฉันลบเลือน สิ่งที่ฉันกลัวไม่ใช่กลัวการถูกละเมิดสิทธิ์ เพราะฉันได้เข้ามาคลุกอยู่กับไซเบอร์ชาชิน บำบัดอาการโฟเบี่ยนั้นจนเลือนรอย ฉันกลัวว่าถึงเวลาที่ฉันจะเสียมิตรคนแรกและคนสุดท้ายของฉันแล้วต่างหาก
ทุกวันนี้มีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่ทำให้วงการเน็ทหมองมัว ฉันอยากให้เยาวชนไทยมีแบบอย่างที่ดี ไม่หลงทิศทาง ไม่อยากเห็นอินเทอร์เน็ทที่เป็นความหวังของคนรุ่นใหม่เป็นหอกข้างแคร่ ยิ่งไม่อยากรับรู้ว่าภัยร้ายแรงที่สุดที่กำลังมาถึงเด็กไทย .ยาเสพติดอิเล็กทรอนิคส์..
ฉันแค่อยากรู้ แค่อยากถามคนที่เรียกตัวเองว่า" คนรุ่นใหม่ " เธอมองเห็นทาง.. ที่จะใช้ความเจริญจากเทคโนโลยีให้เป็นที่สืบสานศีลธรรมอันดีงามไหม เธอมองเห็นหนทาง.. ที่จะใช้เครื่องมือของอารยธรรมจรรโลงวัฒนธรรมของบรรพบุรุษหรือเปล่า เธอมองเห็นทาง.. ที่จะใช้สมรรถนะแห่งอนาคตสร้างวันนี้ให้สวยงามเพื่อวันพรุ่งนี้หรือยัง
ฉันกลัวจัง กลัวว่าเมื่อหมดยุคของคนรุ่นฉันแล้ว มิตรคนแรกและคนสุดท้ายของฉัน จะไม่มีแม้โอกาสที่จะบำบัดอาการโฟเบี่ยตัวเอง ฉันเป็นห่วงมิตรคนแรกและคนสุดท้ายของฉันจัง เธอมองเห็นทางไหม ?
|