กลับจากสัมมนาครั้งล่าสุดขับรถกลับตามลำพัง
ไม่มีเวลาสอดส่ายสายตาตามส่วนสัดป่าไม้เหมือนเคย
ฉันวันนี้ขยาดกับการขับรถยามค่ำคืน
บนเส้นทางนั้นเงียบเหงา อย่าว่าแต่รถจะให้แซงเลย
แม้แต่สวนทางมาในระยะสามสิบกิโลเมครนั้นยังไม่ปรากฏ
ในความเร็วร้อยสี่สิบบนถนนว่างเปล่า ฉันเจออะไรเข้าแล้ว!!
เข้าโค้งสุดท้ายก่อนออกทางตรงฉันพบร่องรอยถลากไถลกว่าสิบเมตร
รถขนอะไรก็ไม่ทันดูดี พลิกคว่ำอยู่กลางถนน
ดูท่าจะชนกับอะไรอีกคันเพราะมีรอยซับซ้อนกระจัดกระจายไปข้างทาง
ร่วงไปข้างล่างหรือเปล่า แต่คนที่เหยียดยาวอยู่บนพื้นนั่นทำฉันผวา
หลานชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนกับอุบัติเหตุ
ในสภาพที่กัดฟันแน่นทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดไว้จนสุดท้ายของชีวิต
ภาพผู้เป็นแม่ที่ร่ำไห้ "ถ้าถึงโรงพยาบาลเร็วกว่านี้คงไม่ตาย"
ฉันคิดถึงคนหลายคนที่รอเขาอยู่
แต่ฉันมาคนเดียว ฉันจะทำอย่างไร?
ให้ฉันอุ้มเขาใส่รถหรอ..ยากอยู่..ไม่รู้ว่ายังหายใจไหม
แล้วนึกไปว่าเกิดเขาเป็นอะไรไปจริงระหว่างทาง
ใครจะมายืนยันว่าฉันเป็นแค่พลเมืองดี
มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า แล้วเกิดไอ้ที่เห็นมันแค่จัดฉากล่ะ..
ยิ่งดวงไม่ค่อยดีอยู่ คิดเอาเถอะนั่งทำงานอยู่ดีดี ยังถูกสอยไปตอกหน้าแง..
ฉันคว้าโทรศัพท์ มีสัญญานแฮะ ไม่โชคร้ายเกินไป
ฉันกด 191 รับไหม? จะมีคนรับไหม ?
ได้ยินว่า 191 โดนหลอกจนไม่ค่อยจะรับแจ้งเหตุ
ไม่รู้เหมือนกันว่าสายตรงเข้าหน่วยไหน เพราะพื้นที่นี้คาบเกี่ยวสองพื้นที่
เอาน่ะ ณ เวลานี้ ฉันได้ทำหน้าที่พลเมืองดีแล้ว
ผิดคาด..กดปุ๊บก็รับปั๊บ ตกใจเตรียมคำพูดไม่ทัน!
ฉันแจ้งเหตุ อย่างน้อยส่งต่อหน่วยฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดก็ยังดี
แต่คำถามแรกฉันก็รู้ผลแล้ว..เธอไม่มาหรอก..
"รถอะไรกับรถอะไรครับ?"
นี่ถ้าฉันบอกว่ารถผู้สื่อข่าวกับรถตำรวจเธอจะรีบแจ้นมาเลยไหม?
เห็นปิคอัพวิ่งไล่ตามกันมาจากเขาลูกโน้นฉันโล่งใจ
รอดแล้ว..(หรือเปล่า)..หวังให้รถที่มาทีหลังเป็นพลเมืองดี
มองผ่านกระจกหลังเห็นคนที่เมื่อครู่เหยียดยาวอยู่ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นน่ั่ง
เคลื่อนรถจากมาก็บอกแล้วงัย..ฉันไม่ขับรถในความมืด
.. เหอะๆ ไม่สวนกับกู้ภัยเลยสักคัน..
จริงสินะ..วันนี้วันหยุด..ชาวบ้านเอ๋ย..รับกรรมไปเหอะ
ทำบุญเยอะๆ อธิษฐานให้ชาติหน้าเป็นใหญ่เป็นโต
ฉันเข้าใจดีถึงการเลือกปฏิบัติ ก็ระบบมันเป็นอย่างนี้
จะเอาขวัญ กำลังใจที่ไหนให้คนดีเสียสละเพื่อคนอื่น
ลำพังปากท้องตัวเองและครอบครัวก็ดิ้นรนกันสุดฤทธฺ์สุดเดช
ในความเงียบของคนสีกากีที่นี่ ใช่ว่าไม่มีความเคลื่อนไหว
ฉันเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่ที่นั่นที่นี่ มีด่านตรวจตามเทศกาล
ในชั่วโมงเร่งรัดเห็นตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน
วันที่ที่ราชนาวีนำดุริยางค์มารณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เหตุการณ์สงบ
ไม่มีวัยรุ่นวุ่นวายตีกันอย่างที่ฉันวิตกกังวล
คืนนั้นเหมือนฉันไม่เห็นวัยรุ่นเลย เงียบจนผิดสังเกต
ทั้งๆที่เป็นงานโชว์ของกลุ่มเด็กมัธยมในพื้นที่
เป็นเพราะประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง , เพราะวัยรุ่นไม่สนใจออเคสตา
หรือเพราะรถตรวจการณ์ตราโล่ห์ 4-5 คันที่กรายผ่านไปนั่นเล่า
เมื่อฉันมาที่นี่ใหม่ๆ ฉันเคยเห็นตอนเช้ามืดมีหน่วยฝึกออกมาวิ่ง
เพลงมาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์กระหึ่มถนนสี่เลน
เป็นความรู้สึกที่ดีมาก อยากให้มีบรรยากาศอย่างนั้นในทุกพื้นที่
ในยุคข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ คนทำมาหากินระวังตัวกันแจ
แต่ฉันกลับไม่กลัวอะไรสักอย่าง บนพื้นที่นี้ไม่มีอะไรน่ากลัว
ในทุกวันที่ฉันทำงานได้มองเห็นวีโก้ตราโล่ห์กรายผ่าน
บางวันก็เห็นทั้งไปขากลับ จนจำเสียงรถได้แล้ว
วันไหนไม่เห็นรู้สึกเหงา แต่รู้ว่าอยู่แถวนี้แหล่ะไม่ไปไหน
ที่ทำงานของฉันติดเส้นทางสายที่ปลายทางติดสถานีตำรวจ
ใครจะย้ายสถานีตำรวจได้ก็ให้รู้ไป
โรงพักไม่เคยร้างผู้คน คิดได้อย่างนี้ฉันสบายใจจัง
แค่ได้คิดถึงคุณ..ก็อุ่นใจแล้ว.