เช้าวันนี้ที่ลืมตาตื่น
ฉันได้กลิ่นฟ้า ใช่แล้ว กลิ่นนี้แหล่ะตามหาตั้งนาน
เสียงแรกที่ได้ยินไม่ใช่เสียงเดิมๆของชีวิตคนทำมาหากิน
เสียงที่ฝ่าความเงียบของรุ่งอรุณวันนี้..เสียงอะไรนะ..
เสียงหวานใสของนกตัวจิ๋วสีเหลืองอ่อนปลายกิ่งแก้วริมหน้าต่าง
คุยอะไรกันแต่เช้า ท่าทางสนุกสนานโลกช่างรื่นรมย์จริงหนอ
มองไปเบื้องนอก สายตาสัมผัสดาวดวงสุดท้ายที่ชายฟ้าใส
บรรยากาศอย่างนี้ไม่ได้สัมผัสมานานเท่าไหร่แล้ว ..บ้านของฉัน..
อยากเกลือกกลิ้งบนที่นอนอีกสักหน่อย อิดออด..อิดออด พลิกซ้ายพลิกขวา
คิดถึงน้ำค้างบนยอดหญ้าฉันสะบัดตัวผึง
ฉันค้นพบวิธีแสวงสุขด้วยตัวของฉันเอง
สุดยอดสุขของฉันแล้วเช้าวันนี้..
วันที่ได้เดินเปลือยเท้าสัมผัสน้ำค้างบนยอดหญ้า
ในรั้วรักที่โอบอุ้มฉันมาเนาว์นาน ..บ้านของฉัน..
ฉันเดินวางเท้าไปบนหญ้านุ่ม รู้สึกเย็นฉ่ำไปทั้งใจ
ทอดสายตายาวๆไปเบื้องหน้า ละเลียดไปทุกซอกทุกมุมมอง
มณฑาขาวส่งกลิ่นอ่อนๆมาทักทายจากซุ้มซ้ายใต้ระเบียงหน้า
ดอกแก้วหลงฝนพรูดอกขาวเกลื่อนพื้น ช้อนทองสีเหลืองอ่อน เซอร์บีนาสีแดงเจือส้ม
เอื้องม้าวิ่งสีม่วงอมชมพูในกระถางไม้ นมแมวพุ่มใหญ่ที่รอส่งกลิ่นยามเย็น
ที่ลาดต่ำต่างระดับฟอร์เก็ตมีน้อตสีม่วงอ่อนกรุ่นกลิ่นหวานปนเศร้ามาให้สัมผัส
ที่ลานหินอ่อนตรงนั้นข้างซุ้มพวงแสด ช้องนางคลี่สีม่วงเข้มซ่อนสีเหลืองไว้ให้ฉงน
กลีบบานเบ่งสีม่วงกำมะหยี่ กรวยกระบอกสีเหลืองทอง
ธรรมชาติทำได้อย่างไร ?
มุมขวาถัดจากซุ้มสกาลวันมีพุดพิชญากระจายดอกดื่นสีขาว
เทียนหยดกำลังหยดดอกพร่างเหมือนหยดเทียนในขันน้ำพระพุทธมนต์
บานบุรีสีเหลืองกระจ่างไปทั้งลานบ้าน
บนลานเล็กๆใต้ต้นจำปีที่เคยมีชิงช้าเปลี่ยนไปเป็นลานกว้างให้นั่งพัก
ไม้เลื้อยสีสวยคลุมดินหลายชนิด ฤาษีผสมสารพัดพันธุ์ หัวใจม่วง ปู่เหย้าเฝ้าบ้าน
โป๊ยเซียนสารพัดสีถูกจัดไว้เป็นระเบียบ สลับซ้อนกุหลาบสีสวย
กล้วยไม้อื่นๆที่สร้างสมไว้หลายเจนเนอเรชั่นแข่งกันออกดอก
บัวบานกลางน้ำใสสีขาว สีม่วง สีเหลือง สีชมพู
แมลงปีกสวยท่องเที่ยวล้อลม
อยากหยุดโลกไว้ตรงนี้ ตรงที่มีผีเสื้อกับดอกไม้บาน
หลายคืนวันที่หยุดตัวเองไว้ในอาณาจักรเล็กๆ
จัดมุมสวยอย่างที่ชอบที่ชอบได้หลายมุม
ขยับกระถางนั้นไว้ตรงนี้ กระถางนี้ไว้ตรงนั้น
กระถางนั้นต้องกลับมาที่เดิม ต้นนั้นใหญ่ไป ต้นนี้เล็กไป
เวลาหมดไปแบบไม่รู้ตัว เวลาสุขนาฬิกาหมุนเร็วจริงด้วย
ไม่ทันได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง
นี่ฉันก้มหน้าก้มตาทำงานไม่เงยหน้าดูประชาชนพลเมืองมานานเท่าไหร่แล้ว
เดือนที่145 ของชีวิตอิสระ.ฉันซ่อนเวลาไว้ที่ไหนบ้าง..
ไม่มีแม้แต่เวลาโผล่หน้าไปมองความจอแจนอกรั้วบ้าน
เคยหงุดหงิดกับท้องถนนของความเร่งรีบ
คนบ้านเหนือไปทำงานบ้านใต้ คนบ้านใต้ไปทำงานบ้านเหนือ
แถวยาวเหยียดของคนอยากประหยัดบนความฟุ่มเฟือย
ฉันลืมระเบียงวุ่นวายไปนานเท่าไหร่กันนี่
ครั้งสุดท้ายเหมือนจะตั้งแต่วันที่หลบเสียงโครมครามไปมุมสวน
ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้..จริงด้วยมันมีอะไรเปลี่ยนแปลงตั้งแยะ
วันนั้นได้มองเห็นเศษซากความดิ้นรนของชีวิตคนทำมาหากิน
มองเห็นความฉุกระหุกรีบร้อนแข่งขัน
เห็นความร้อนรนหยาบกระด้างของวิถีเอาตัวรอด
คนอ่อนแอและเสียงเบาก็จะถูกกดขี่และผลักดันไปอยู่แถวหลัง
ชีวิตช่างแสนจะรันทดอะไรขนาดนั้น วันนี้กับวันนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
ยามเช้าที่ฉันเปิดประตูไปพบวันนี้
บรรยากาศสงบสะอาดตาเป็นระเบียบมีไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม
ฉันสัมผัสได้ว่าชุมชนที่นี่เข้มแข็ง ผู้หลักผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบและเอาใจใส่ต่อพื้นที่
รับฟังความคิดเห็นของประชาชนพลเมือง
ภูมิใจแทนชาวบ้านร้านถิ่นที่มีผู้นำเป็นนักพัฒนา
วันนี้ที่นี่บ้านเรือนร้านค้าเป็นระเบียบ
ชาวบ้านมีโอกาสพิเศษได้พบปะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บ่อยๆ
เผลอๆก็อาจได้พบท่านผู้ว่าราชการมาท่อมๆตรวจความเรียบร้อยตอนเช้ามืด
ถอยไปเปิดประตูหน้าแล้วทอดสายตายาวๆดูบ้าง
โห..เกาะกลางเลนที่เคยมีแต่ดอกหญ้าระย้าย้อยนั่น
วันนี้เฟื่องฟ้าสารพัดสีสะพรั่งดอกเป็นแนวยาวสุดลูกตา
ถึงเวลาผลิดอกหรือใครมาเนรมิตไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ชุมชนของฉันลุคใหม่..
มีโรงเรียนมีชื่อเสียงเป็นศูนย์กลางชุมชน
ถึงฉันไม่ต้องออกประเมินด้วยตัวเองก็มีงานมาเสนอถึงบ้านทุกเช้า
ได้ชื่นชมกับการนำเสนอข่าวเหตุการณ์สำคัญ
ผ่านประชาสัมพันธ์กลางแหล่งชุมชน
ชุมชนของฉันมีบุคลากรเก่ง ดี มีสุขเป็นตัวอย่างเยาวชน
มีระบบการปกครองท้องถิ่นระดับแนวหน้า
มีแหล่งท่องเที่ยวที่ยกระดับสู่สากล
มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนพร้อมเพรียงเรียงหน้า
มีฐานเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตัวได้ทุกครัวเรือน
มีความเป็นกัลยานมิตรโปรยปรายอยู่ทุกหนแห่ง
ชุมชนของฉัน..ช่างวิเศษเสียนี่กระไร..
เธอเห็นเหมือนฉันไหม ถนนสายใหม่สะอาดตาร่มรื่น
ถนนสายนั้นราวกับจะเตรียมไว้ต้อนรับการกลับบ้านของฉัน!
ออ..แล้ววัดล่ะ ฉันหวังให้มีวัดพัฒนาในชุมชนนี้ด้วยอีกสักอย่าง
มีพระนักพัฒนาที่ไม่ต้องมีชื่อเสียงมาก แค่นำชุมชนได้ก็เพียงพอ
ถึงวันนั้นแล้วผู้คนคงไม่ทิ้งถิ่นฐาน ทิ้งปัญหาเรื้อรังไว้เบื้องหลัง
ถึงวันนั้นแล้วปัญหาเยาวชนไทยขาดจิตสาธารณะคงหมดไปได้สักทีละมัง
ฉันจะมีโอกาสได้เห็นไหมหนอ เสียงอาขยานลอยมาไกลๆ
"เราเกิดมาหน้าที่อารีสมาน
ใจเพื่อนบ้านเพื่อนนิคมสนมสนิท
บ้านเรือนแขวงตำแหน่งตนทุกคนคิด
ช่วยให้เดินเจริญผิดกว่าเคยมา
คอยหวังดีถ้าแม้นมีโอกาสไฉน
ควรจะให้แขวงนั้นสุขหรรษา
ทำไม่ไหวให้ถวิลจินตนา
จะช่วยเหลือเกื้อกว่าจะหมดแรง."