ต้นไม้ในหัวใจคน
หลายปีก่อนขณะที่กำลังจัดเรียงต้นไม้ในสวนหย่อมหน้าชั้นเรียน ได้ยินกลุ่มลูกศิษย์ตัวน้อยแซว “ปลูกต้นไม้ในหัวใจคน” ฉันแค่แปลกใจเล็กน้อย เอาคำยิ่งใหญ่นี้มาจากไหน ? คนพูดในวัยสิบขวบจะเข้าใจลึกซึ้งได้เพียงไร ฉันไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ก็จินตนาการเรื่อยเปื่อย “ปลูกต้นไม้ในใจคน” ใครหนอช่างคิดคำหรูๆมาใช้ในภาวะโลกร้อนรุ่มไปทุกหย่อมหญ้า
เหมือนใครบางคนมาทวงถามหาคำตอบของอนาคต ใครบางคนเหน็บแนมตัดพ้อต่อว่าคนไร้จิตสำนึกสาธารณะ บางใครพยายามขับเคลื่อนความคิดคุณธรรม- จริยธรรม ที่กำลังเลือนหาย รู้สึกเหมือนมีพลังอำนาจที่มองไม่เห็นกำลังพยายามยึดยื้อสัญญามวลชน หรือมีใครบางคนมาทวงสัญญาแผ่นดิน ? ใครหนอที่เคยบอกว่าดอกไม้แห่งความดีเบ่งบานเสมอในใจองเรา ?
วันที่เห็นวีโก้ตราโล่มาจอดเทียบบันไดโรงเรียน ตกใจนึกว่าโดนชำระความ (ก็แอบนินทาเอาไว้แยะในวันเก่าๆ) แปลกใจหนักก็คนแปลกหน้าที่ย่องมาให้แปลกใจกลุ่มนั้น ไม่ใช่ธรรมดา ผู้กำกับการตำรวจและคณะชุดใหญ่ จริงๆแล้วฉันเห็นท่านบ่อย ในสารพัดงาน มานั่งนิ่งๆไม่พูดไม่จาทั้งงานกีฬา งานเปิดป้าย งานพิธีน้อยใหญ่ ฯลฯ คราวนั้นมาแปลก..แจกรางวัลประกวดเรียงความ “ปลูกต้นไม้ในใจคน”
มันแปลกยังไง?
ในวัยเด็กของฉันได้รับรางวัลเรียงความมานับครั้งไม่ถ้วน จากคุณครู จากสโมสรไลออนส์ จากสมาคมผู้ปกครอง โรตารี่ ฯลฯ แต่ฉันไม่เคยได้รับรางวัลจากวงการตำรวจเลย แฟ้มประวัติของฉันไม่มีเกียรติบัตรประทับตราโล่ห์
ในความขี้สงสัย มันเกี่ยวอะไรกัน ? ตำรวจกับป่าไม้ก็คนละขั้ว เรียงความยาเสพติด อาชญากรรม ก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวพันบ้าง ปลูกต้นไม้อย่างเดียวก็พอหยวนบ้างแม้จะช้าไปหน่อย “ต้นไม้ในใจคน” ประหลาดใจ..แต่ก็ดีใจนะ..จริงจริงนะ)
ไม่ว่าเป้าหมายหลักจะปักหมุดไว้อย่างไร ฉันมองเห็นการเพาะหว่านต้นกล้าอื่นๆด้วย การรักการอ่านการเขียน การปลุกจิตสำนึกสาธารณะ
บ้าน วัด โรงเรียน คือเป้าหมายหลักของการพัฒนา แต่จะสำเร็จไปได้ยังไงเล่าหากจะไม่ครอบคลุมไปถึงองค์กรหลักของแผ่นดินด้วย
เหมือนสัญญานพร้อมรบที่จุดพุ่งขึ้นสว่างไสวบนท้องฟ้าคืนเดือนมืด องค์กรหลักอันเป็นความหวังของแผ่นดินประสานใจรวมพลังเพื่อพลิกฟื้นนโยบาย “แผ่นดินไทย-แผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง”
“ต้นไม้ในใจคน” ไช่จะหมายถึงแค่การปลูกป่า รักษ์ต้นน้ำ แต่ฉันให้รวมลึกไปถึงการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ ความรับผิดชอบร่วมกัน ในวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย การศรัทธาในความดี รู้จักยกย่องคนทำความดี ส่งเสริมให้คนดีได้มีโอกาสปกครองคนเลวตามกระแสพระราชดำริ " ธรรมาภิบาล" ศาสตร์และศิลป์ที่ไม่อาจมองข้าม
การปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักชาติรักแผ่นดินต้องหยั่งลึกถึงรากเหง้า สถาบันครอบครัวต้องมั่นคงแข็งแรงเพื่อเป็นเบ้าหลอมทรัพยากรที่ดี เหนืออื่นใดคือความรักใคร่สมานสามัคคีของคนในชาติ อันเป็นเหตุผลเดียวที่จะยึดเหนี่ยวให้ชาติอยู่รอดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นรัฐนาวาลำใดก็ฝ่าคลื่นฝ่าลมได้ตลอดรอดฝั่ง หวังให้เจตนารมณ์ของโครงการนี้บรรลุผลสำเร็จ และเจริญงอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็น ขยายเผ่าพันธุ์ไปทั้งแผ่นดิน อย่าให้เติบโตเป็นไม้ใหญ่เพื่อรอสัมปทานทำเฟอร์นิเจอร์กำนัลนักการเมือง
วันนี้ลำพังให้ดอกไม้บานในใจเราคงไม่เพียงพอแล้ว เราปลูกเพาะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามในหัวใจดวงอื่นๆหรือยัง? "ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน" เรามีตัวอย่างดีดีเพียงพอหรือยัง "ชาติใดไร้รักสมัครสมานจะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจนบุคคลจะสุขอยู่อย่างไร"
เพลง: ต้นไม้ของพ่อ
คำร้อง : นิติพงษ์ ห่อนาค ทำนอง : อภิไชย เย็นพูนสุข เรียบเรียง : ธนา ลวสุต
นานมาแล้ว….พ่อได้ปลูกต้นไม้ไว้ให้เรา เพื่อวันหนึ่งจะบังลมหนาว และคอยเป็นร่มเงา ปลูกไว้เพื่อพวกเราทุกๆ คน พ่อใช้เหงื่อแทนน้ำรดลงไป เพื่อให้ผลิดอกใบออกผล ให้เราทุกๆ คน เติบโตอย่างร่มเย็นในบ้านเรา
ผ่านมาแล้วห้าสิบปี ต้นไม้นั้นสูงใหญ่ ลมแรงเท่าไร ก็บรรเทา ออกผลให้เก็บกิน แตกใบเพื่อให้ร่มเงา คอยดูแลเรา ให้เรายังมีวันต่อไป
จนวันนี้… ใต้เงาแห่งต้นไม้ต้นใหญ่ ลูกได้อยู่ได้คอยอาศัย แผ่นดินยังกว้างไกล แต่เหมือนว่าหัวใจพ่อกว้างกว่า ลูกที่เกิดตรงนี้นั้นยังอยู่ และยังอยู่เพื่อคอยรักษา จะรวมใจเข้ามา จะมีเพียงสัญญาในหัวใจ
จากวันนี้สักหมื่นปี ต้นไม้ที่พ่อปลูก ต้องสวยต้องงดงาม และยิ่งใหญ่ สืบสานและติดตาม จากรอยที่พ่อตั้งใจ เหงื่อเราจะเทไป ให้ต้นไม้ของพ่อยังงดงาม
จากวันนี้สักหมื่นปี ต้นไม้ที่พ่อปลูก ต้องสวยต้องงดงาม และยิ่งใหญ่ สืบสานและติดตาม จากรอยที่พ่อตั้งใจ เหงื่อเราจะเทไป จากหัวใจ เหงื่อเราจะเทไป ให้ต้นไอ…ยังงดงาม
|