เจ้าหยิ๋ง
เพราะนอนดึกหลายหลายคืนติดกัน สมองฉันตีบตื้อ ทำให้ต้องนอนแต่หัวค่ำ
ครบห้าชั่วโมงตามมาตรฐานการนอนเลยตื่นมันซะเที่ยงคืน
ฉันนอนนิ่งในวันฉุกละหุกไม่ได้ มีงานเร่งด่วน ลุกขึ้นเดินลงมาทำงาน
เสียงหมาเห่ากรรโชกกลางตลาดสดอย่างไม่คุ้นเคย
ความสงสัยทำให้อะไรก็สะกดฉันไม่อยู่ ลุกขึ้นมองผ่านกระจก..ไม่เห็นอะไร
ข้างนอกด้านหลังที่มองเห็นเป็นที่สว่างโล่งแจ้งของตลาดสด เงียบสงัด
เสียงสุนัขไม่รู้สังกัดไม่เห็นตัวยังคงตั้งอกตั้งใจเห่า
ทรัพย์สินของฉันไม่มีอะไรให้ห่วง แต่สงสัยว่ามันไม่พอใจอะไร
เดินกลับไปชั้นบนมองผ่านลงไปที่ต้นเสียง อา..เจอแล้วคนแปลกหน้าที่ย่องมาให้แปลกใจ..
ในระยะไกลขนาดนั้นฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่
แต่รู้สึกได้ว่าเป็นคนแก่ผมขาวโพลน ผอมบาง อมโรค
เหมือนมีสัมผัสพิเศษว่า สายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ แกลากถุงในมือหายไปในหลืบมุม
จิตสำนึกทางสังคมสั่งให้ฉันรับผิดชอบกับความไม่ถูกต้อง
แต่มโนธรรมร้องขอ แกได้อะไรไปไม่มากกว่าอาหารพอประทังชีวิตหรอก
ที่ตรงนั้นไม่ใช่ร้านทองสักหน่อย ที่บ้านอาจมีหลานเล็กเล็กรอคอยอย่างหิวโหย
ฉันกลับเข้ามาทำงาน เสียงเห่าเงียบไปแล้ว
กลับให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะตา .. ในคุกลำบาก ..
หวังให้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของชีวิตเถอะนะ..
วานเย็น..ฉันเข้าไปหาผักสดไว้เพิ่มเติม..
เจ้าของร้านสุดท้ายที่เหลือกำลังเก็บร้านคลุมผ้าเหน็บชายผูกเชือก
ตัววุ่นวายที่แฝงอยู่ในจิตอดสงสารคนทำมาหากินที่ถูกเอาเปรียบไม่ได้
ฉันถามเก็บคลุมไว้แค่นี้เหรอ ทำไมไม่ทำล็อคตะแกรงลวดพับใส่กุญแจได้
แกตอบว่า ไม่คุ้มทุนเพราะต้องมีการประมูลที่กันใหม่ทุกปี
ฉันมองไปถึงระบบการทำงานท้องถิ่นอีกแล้ว
"แล้วของไม่หายเหรอ" ฉันถาม แกตอบว่า "หายเป็นประจำ"
แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับผิดชอบแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครสนใจ " กำลังคิดจะจัดการกันเอง อยู่ใกล้ๆนี่ช่วยหน่วยได้ไหม "
แกหันมาย้อนถามให้ฉันสะดุ้ง ให้ฉันวิ่งไล่จับขโมยเหรอ..
" เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลโทรศัพท์ตามผมหน่อย "
ไม่พูดเปล่าจดเบอร์โทรยัดใส่มือ
อ่า..เทพนิยายกริมม์ผุดชัดเลยในความตีบตื้อ
เจ้าหญิงบนคาน เอ้ย..หอคอย..เจ้าชายมาถึงแล้วนะ..ฟังสิ..เสียงเรียกนั่น..
เสียงฝีเท้ามาแต่ไกล ..กระพรวนจากคอม๊า..เจ้าหมาเอ๋ย...เห่าอย่างเดียวก็พอ
..ไม่ต้องหอน..ฉันกลัว..
"Nothing in life is to be feared. It is only to be understood." - - Madame Curie - - ไม่มีสิ่งใดๆในชีวิตที่น่ากลัว มีแต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ
|