บ่วงกรรมมม..
“เต่าถุย ..ฉันจำสำนวนนี้มาจากเว็บไหนสักแห่งตอนเที่ยงคืน เปรียบมนุษย์เป็น " บัวสี่เหล่า " เด็กประถมก็รู้จักและแยกประเภทได้ บัวเหล่าที่สี่ในโคลนตมที่ไม่มีวันโผล่แม้แต่จากตม แต่บัวเหล่าที่สี่ยังนับว่าเป็นประโยชน์ต่อสัตว์น้ำ เป็นอาหารกุ้ง หอย ปลาปู เต่าใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ ใต้โคลนตม เต่าถุย เหอะ แม้แต่เต่ายังถุย.. ฉันพูดถึงอะไร อยากให้พลังเงียบของฉันไปถึงใครสักคน ใครคนที่เห็นฉันเป็นก้อนหิน”
เหตุการณ์นั้นจบลง ฉันได้พบกับสาวเจ้าต้นตอความกังวลอย่างไม่ตั้งใจ
เสียงนั้นมาปรากฏอีกครั้งให้ได้ยินถึงถิ่นที่
ในวันที่ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารกลางวันตรงหน้า
เสียงนั้นทำให้ฉันเงยหน้ามอง ก็แค่รับรู้ไว้ “คนนี้นี่เอง”
แต่เหมือนเป็นเซนท์ที่ส่งถึงกันได้ด้วยแววตาไหวๆ
ฉันได้การ์ดสีซกมกที่บางใครมาแกล้งทำตกไว้หน้าประตู
ข้อความที่เขียนบ่งบอกถึงชาติิตระกูล “I Love you กูไม่ใช่แม่มึง”
ไม่ได้จ่าหน้าถึงปลายทาง แต่ก็พอเดาออก บอกแล้วงัย ฉันมีสัมผัสพิเศษ
ฉันไม่รู้สึกอะไร เพราะแรกเริ่มส่งสื่อทางเว็บฉันก็รู้แล้วเสียงของฉันมีคนได้ยิน
เอาเถอะนะ ขอเป็นหน่วยบริการประชาชนอีกแรงหนึ่ง
จะตั้งป้อมสกัดคนพาล อภิบาลคนดี
วันว่างจะขึ้นป้าย “หยุดตรวจ” หน้าเว็บ ให้ตีความหมายกันเอาเอง
ไม่สูญเปล่าหรอก กมมุตนา วัตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรมนั้น ยุคนี้เวรกรรมออนไลน์เสียด้วยซี
เจ้าหนุ่มนั้นพลาดโอกาสเป็นนักการเมืองในสมัยต่อมา
ยังรู้สึกเสียดายฝีมือและผลงานที่เคยประจักษ์เสมอ
จากวันนั้นห้องสี่เหลี่ยมนั้นเปลี่ยนเจ้าของใหม่
กลายเป็นกลุ่มเด็กวัยซ่าส์ที่มีคดีติดตัวตั้งแต่อายุไม่ถึง 18 ปี
มีเด็กหนุ่มสาววัยเรียนหลายคู่เดินเข้าเดินออก บางคู่ค้างคืน
พ่อแม่รู้เห็นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ดูท่าลัทธิเอาอย่างมันมาถึงเร็วจี๋
วันดีคืนดีก็ถือปีนทะเร่อทะร่ามาเหนี่ยวไกกันในที่ชุมชน
อดรนทนไม่ได้ ฉันเปรย”มันจะตั้งซ่องกันกลางเมืองหรือไง”
เกือบจะในทันที ห้องพักนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นร้านค้า
กลุ่มเด็กวัยรุ่นชายหญิงหายเงียบไปไม่รู้สาเหตุ ห้องสี่เหลี่ยมนั้นเงียบสงบ
“ผู้หลักผู้ใหญ่” เฝ้าติดตามพฤติกรรมอยู่มัง ฉันคิดเข้าข้างระบบดูแลท้องถิ่น
หรือว่า..เด็กๆถูกปรามไว้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง?
ดีจังหากจะมีหน่วยงานสานต่อนโยบาย “ รักในหลวงห่วงลูกหลาน”
เพราะในเวลานี้หากสังคมไม่ร่วมด้วยช่วยกันคัดกรองอนารยะหลากหลายที่หลั่งเข้ามา
ไม่ร่วมมือกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมเด็กรุ่นใหม่ก็คงยากที่จะรับมือกับปีศาจเทคโนโลยีแล้ว
ฉันเห็นในสิ่งที่กล่างอ้างกันว่าเป็นความเจริญกำลังกัดเซาะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
ในบางมุม เจ้าความเจริญกำลังกลืนกินความเป็นไทยให้เห็นอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน
ความเสื่อมทรามของจรรยาบรรณสื่อกระชากจิตสำนึกของคนร่วมสังคม
ในท่ามกลางการนำเสนอข่าวสารบ้าระห่ำ สื่่่อบรรเทิงจ้องแต่ผลประโยชน์
ไม่มีมือของความรับผิดชอบหยิบยื่นมาถึงฉันอาจจะคิดมากไปเอง แต่ทนได้หรือ
เธอทนเห็นค่านิยมเยาวชนไทยตกต่ำลงกับตาได้จริงหรือ?
เธอทนมองดูเด็กรุ่นใหม่ย่ำยีวัฒนธรรมไทยสร้างสิ่งฟอนเฟะให้สังคมจมดิ่งได้จริงหรือ
กลางดึกฉันถูกปลุกด้วยเสียงบริภาษเอ็ดอึงของเสียงหญิงหนึ่ง
กับเสียงร่ำไห้ของอีกเสียงหญิงหนึ่ง
ก็เมื่อตอนหัวค่ำฉันเห็นชายหนึ่ง ตื่นเช้ามาเห็นอีกชายหนึ่งในสี่เหลี่ยมเล็กๆนั้น
มันเกิดอะไรขึ้นหนอ สังคมตรงนั้นสำส่อนขนาดไม่รู้ฝาไม่รู้ตัวแล้วหรืออย่างไร
จิตพล่านไปในความเงียบ ไม่มีคำตอบให้ตัวเอง
ตะกอนขุ่นคลั่กค้างคาใจ..คิดมากน่า….เรื่องของใครก็ของใคร..
พ่อแม่เค้ายังไม่ใส่ใจ..จะส่ายจมูกหาปฎิกูลทำไม?
เข้าที่ทำงานอย่างมึนมึน..
เจอประชุมเช้ารู้ว่ายาวแน่ ฉันสั่งงานนักเรียนแล้วเข้าห้องประชุม
เรื่องหลักเร่งรัดเรื่องระบบช่วยเหลือเด็กเหมือนทุกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมเบี่ยงเบนเด็ก
“พ่อแม่ที่สอง”ของเด็กนั่งฟังเงียบๆคิดเรื่อยเปื่อยไปถึงความรับผิดชอบของสถาบันครอบครัว
ทุกวันนี้พ่อแม่ทิ้งลูกไว้กับตายายที่เงอะเงิ่นวิ่งตามเทคโนโลยีไม่ทัน
ปล่อยให้ลูกหลานอยู่กับ”ความเจริญ” ตามลำพัง
วันดีคืนดีก็ลุกมาประท้วงว่าครูรังแกลูกหลาน กระพือข่าวแย่ๆทำลายเผ่าพันธุ์ครูดี
ครูในทศวรรษนี้ต้องระมัดระวังตัวแจ
หวั่นๆว่าสักวันถ้าครูโดนหมาบ้ากัดเข้า
เจ้าของหมาคงกระโดดมาฟ้องร้องว่าครูแพร่เชื้อบ้า
เวงกำของครูจริงๆ
กลับเข้ามาอีกทีพบชั้นเรียนเงียบกริบ ประตูปิดทั้งสองบานเพราะลมร้อน
เจ้าตัวน้อยหน้ากลมคมขำโผล่หน้าแง้มประตูออกมา
“ทำอะไรกันอยู่” ฉันถามอย่างสงสัย มันเงียบผิดธรรมชาติห้องเรียนขาดครู
“แต่งงานค่ะ”
ห๋า……ฉันไหวเยือกถลาไปเปิดประตูผาง กวาดสายตามอง
เด็กข้างประตูส่งสายตาถามประมาณว่า ”คูเปงบ้ารัย”
เห็นเด็กๆ นั่งกันเรียบร้อย ขะมักเขม้นตกแต่งชิ้นงานกันประณีตเหมือนทุกครั้ง
ไม่เห็นเจอภาพที่หวาดระแวงไปสักนิด ฉันเป็นบ้ารัยไปแล้วนี่.
|