แมวมอง
แสงจันทร์นวลแทรกรอยต่อขอบหน้าต่าง หอบเอากลิ่นเย็นเย็นของฟ้าคืนเดือนหงายอวลใจ
ฉันรักฟ้าใสของคืนเดือนกลมกลางเดือนธันวาคม เสน่ห์จันทร์กระจ่างชวนให้หลายคนเพ้อได้เสมอ
จันทร์คว้างเลยผ่านหัวไปนานแล้ว แต่ฉันยังไม่นอน..
ความเงียบเหมือนจะทวีความเหงาลุ่มลึก ฉันเปิดหน้าต่างรับแสงจันทร์สูดกลิ่นฟ้า
เสียงชีวิตกลางคืนล่องลอยอยู่ไกลไกล หลายชีวิต ยังไม่ข่มตาลาวันเก่า
หรือวันใหม่ที่มาถึงไม่มีความแตกต่าง ?
สัญญานเวลากังวาน..ยามสอง
เงาจันทร์เปลี่ยนทิศหนังตาเริ่มหนัก ดาวปลายฟ้าอ้อนกิ่งประดู่
พรุ่งนี้มีงานต้องทำแต่เช้า อยากให้ตะวันลืมฟ้าชั่วคราว กลิ่นฟ้าสงัดตะวันหอมชื่นใจ
ฉันทิ้งตัวบนที่นอนเงียบเงียบ แมลงราตรีกล่อมเพลงเดิมเดิม หลับเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว
ตกใจตื่นเสียงกระทบเหล็กดัดหน้าต่างหัวนอน อะไรในความสลัวของแสงจันทร์หย่อนตัวตุ้บหน้าเตียง
เหล็กดัดลายละเอียดขนาดนั้นยังแทรกตัวเข้ามาได้ ตั้งใจจริงนะ เจ้าหัวขโมย
อย่างนี้ไม่นับเป็นตีนแมวอาชีพ เพราะเจ้าทำให้เจ้าของบ้านตกใจตื่น
แมวสีดำปลอดไม่รู้เพศตัวนั้นสบตาฉันจังจังในระยะกระชั้นชิด
นัยน์ตาสีเหลืองคมวาวที่มองมานิ่งนิ่ง ฉันรู้สึกเย็นเยือก ขนลุกซ่าไปทั้งตัว
ในชีวิตเคยตาต่อตาฟันต่อฟันมาหลายครั้ง
ครั้งนี้เหมือนหนักหนากว่าทุกคราว หรือต่อมสู้ฉันตีบตัน หรือพลังแฝงฉันอ่อนแอลง
จำได้วันที่สบตากับเจ้าเห่าดงที่ปลายเท้าในสวนไผ่
ฉันยืนนิ่งนิ่งหลับตานึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
อย่างที่พ่อเคยพร่ำสอน ลืมตาอีกครั้งเลื้อยหายไปแล้ว
อีกครั้งกับจงอางที่มองเห็นดอกจันชัดเจนบนแม่เบี้ย
ฉันได้แต่อธิษฐานในใจ "ต่างคนต่างอยู่ " เขาจากไปเงียบเงียบเช่นกัน
น่าแปลกที่ในทุกครั้งเหมือนฉันจะรู้สึก "เราสบตากัน"
สบตาครั้งนี้..ฉันตัวแข็งทื่อ ขนหัวลุก กับอะไรบอกไม่ถูก
ต่างเป็นชีวิตที่ดิ้นรนในความคว้างของการต่อสู้เหมือนกันละมัง
เหมือนเราพบกันในช่วงเวลาที่กำลังใจฉันถดถอย หรือฉันล้ากับชีวิตแล้ว ?
สองชีวิตในห้องสี่เหลี่ยมแคบแคบ เหมือนมีพลังปะทะระหว่างกัน
ฉันรอดเสียงออกมาเบาเบา "มาให้โชคแล้วก็ไปเถอะนะ ฉันกลัว"
เราวัดใจกันนิ่งนิ่งอีกพักใหญ่ นานจนเสียงสัญญานเวลาแว่วมาอีกครั้งค่อนแจ้ง
เขากระโดดรอดเหล็กดัดหายไป เหลือเพียงฉันที่นั่งนิ่งท่าเดิม หายใจอย่างงงงวย
นอนไม่หลับอีกเลย ฉันเป็นอะไรไปเล่า น่าจะดีใจที่มีแมวมาหา หมามาสู่อย่างโบราณว่า
ฉันลุกเดินไปปิดหน้าต่าง ..อีกเดี๋ยวก็เช้าแล้ว..
ดาวดวงที่ยิ้มยั่วอยู่ไกลไกลกระพริบตาปริบปริบ
นี่ดีหน่ะที่เป็นแค่แมวมอง ถ้าเป็นถ้ำมองล่ะก้อ ไม่บังอาจนึกถึง..
คนอะไร..เห็นตัวเองในกระจกยังตกกะใจ..เอ้อ..
เพลงประกอบ : เทพธิดาดอย
"The difference between life and the movies is that a script has to make sense, and life does not." - - Joseph L. Mankiewicz - - สิ่งที่ทำให้หนังแตกต่างจากชีวิตจริงคือบทที่มีที่มาที่ไป
|