ฉันพบเธอครั้งแรกในวัยสี่ขวบ
ตัวขาวๆแก้มป่องยุ้ยมีไรเขียวสองข้างแก้มตั้งแต่เด็ก
ภาพเดียวที่ฉันพบเสมอ คือเธอนั่งปั้นดินน้ำมันคนเดียว คล้ายกับว่าเธออยู่ในโลกส้วนตัวของเธอเอง
สังเกตว่าในทุกครั้งเมืองตุ๊กตาของเธอละเอียดละออ มีแม้แต่จานดาวเทียมและเสาโทรทัศน์
ในกองรบ เธอไม่ลืมแม้แต่ดาบปลายปืนอันจิ๋วของหน่วยจู่โจม ไม่ลืมแม้รถหุ้มเกราะและสายพานรถเหล็ก
เวทนาที่เธอเฉยเมยไม่สบตา ไม่มีแม้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรกับใคร เดินเขย่งปลายเท้าเกาะแขนคนเลี้ยง
ฉันพยายามมาพบปะพูดคุยด้วยบ่อยๆแต่เธอไม่ยอมคุยนอกจากยกมือไหว้กล่าวสวัสดีครับ โดยไม่สบตา
ก่อนกลับบ้านจะมาแวะหน้าห้องฉันเสมอ ดูภาพธงนานาชาติที่บอร์ด และ "บอกชื่อได้หมด"
วันนี้ในวัยเก้าขวบเธอเติบโตขึ้นในระดับปกติ การเดินโดยเขย่งปลายเท้าหายไป
วันนี้ฉันพบเธอเดินได้เต็มฝ่าเท้าและโดยลำพังไม่ต้องเกาะแขนคนดูแล
เคยรู้มาว่าเป็นคนที่ดูแลเท่านั้นที่เธอจะเข้ามาหา
แม้คนอื่นที่พยายามจะเล่นหรือคนในครอบครัวเดียวกันเธอจะไม่สนใจเลย
ฉันเป็นคนเดียวมั้ย..คนนอกบ้านที่เธอเดินเข้ามาหา และทักทาย"สวัสดีครับ"พร้อมเงยหน้ายิ้มและสบตา
รอยยิ้มนั้นน่ารักเหลือเกิน เหมือนดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมผลิบานจากภูผาสีเทา จริงจริงนะ
วันนี้เธอมาโรงเรียนแต่เช้าทุกวันและใช้เวลาในรั้วโรงเรียนมากขึ้น ดีใจที่เลือกเดินเข้ามาหาฉัน
แม้จะมีปฏิกิริยาในเรื่องที่จะโต้ตอบกับคนรอบข้างน้อย
แต่เธอกลับยิ้มกับฉันและสนใจสิ่งล่อใจทุกอย่างที่ฉันทดลองอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
เธอไม่เคยปฏิเสธในสิ่งที่ฉันยื่นเสนอ เพียงแต่ต้องหาจังหวะดีดีให้สำหรับเธอ
เราเหมือนกำลังเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เธอรับสัมผัสของฉันได้
ที่สำคัญที่สุดเธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหรือไม่ควรทำอะไร !
สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็มุมการ์ตูนดิสนี่ ที่เปิดเล่นซ้ำซากด้วยตัวเอง
แต่ก็ยังอุตส่าห์หยุดความต้องการบังคับตัวเองได้เมื่อหมดเวลา
คนเลี้ยงบอกเมื่อไหร่ที่ฉันไม่อยู่ติดอบรมสัมนา เธอจะวนเวียนอยู่หน้าห้องพึมพำ "ยังไม่มา"
ในวันหนึ่งที่ฉันว่างจากการสอน ห้องทำงานปลอดคนเธอเดินเข้ามาหาตามลำพัง
ฉันทดลองส่งหนังสือการ์ตูนให้ เธอสั่นหัวแต่ตามองเป็งที่กล่องสีในมือ
ฉันยื่นกล่องสีส่งให้เธอไม่รับแต่เปลี่ยนสายตาไปมองที่แผ่นกระดาษ
ฉันหยิบกระดาษเปล่าวางให้ตรงหน้าเธอมองเฉยๆ
ฉันยังไม่หมดมุกแต่ไม่มีเวลาแล้ว งานตรงหน้ายังอีกหลายอย่าง
ฉันเดินกลับมาที่นั่งเริ่มทำงานที่ทิ้งค้างปล่อยให้เธออยู่กับดินน้ำมัน
ชำเลืองดูเห็นเธอวาดสีลงไปบนกระดาษขาวอย่างไม่มีรูปทรง ม้วนกลมไปในทิศทางเดียวกัน
ฉันรู้สึกเวทนาเลยไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆหยิบกระดาษมาอีกสองแผ่น วาดดอกไม้ลายเส้นหลากสีลงไป
เธอดึงกระดาษจากมือฉันไประบายสีต่อเลือกสีระบายในขอบสีเสมอกันไม่เว้นแม้ใบไม้ ผีเสื้อ แมลงปอ
กับประโยคงึมงำเบาเบานั้น "สนุกจังเลย" จากวันนั้นฉันทุ่มเทให้เธอหมดใจ..
ความเชื่อมโยงของเธอดีกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกันด้วยซ้ำ เพราะเธอสามารถทำได้โดยไม่ต้องบอก
วันนี้ฉันกำลังให้เธอซึมซับประสบการณ์จากธรรมชาติ จากสวนดอกไม้ซ้ำกันหลายครั้งอย่างไม่เบื่อหน่าย
ฉันจะลองเปลี่ยนไปลงทะเลดูบ้าง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาให้เธอเหลือเฟือ
"พรุ่งนี้" มีให้เธอเสมอ อยากให้เธอเบ่งบานเป็นดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมที่ผุดบานบนภูผาตลอดไป
ยังมีออทิสติคอีกมากมาย ที่โน่นที่นี่ พวกเขาสบายกันดีไหม ?
มีใครเอาใจใส่เขาเหล่านั้นจริงจังหรือเปล่า ?
คนใกล้ชิดสนใจและเอาใจใส่ดูแลเขาอย่างใกล้ชิดเหมือนเธอคนนี้ไหม ?
เข้าใจดีว่าถ้าในครอบครัวใดมีออทิสติค หากได้รับเอาใจใส่แก้ไขและรักษาเขาให้ถูกทางก็จะช่วยเขาได้มาก แต่ถ้าเราปล่อยไป ยอมรับความจริงตรงนี้ไม่ได้ ไม่ได้นำเด็กเข้ามาสู่กระบวนการรักษา
เราอาจจะเสียโอกาสในการพัฒนาเขา เพราะการรักษาในทางยานั้นยังเป็นเพียงการรักษาตามอาการ
การช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ต้องอาศัยการกระตุ้นพัฒนาการด้วยการวางแผนการปรับพฤติกรรมอย่างเต็มรูปแบบ
พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาร่วมกัน ค่อย ๆ ปรับและแก้พัฒนาการ
ทำให้สมองส่วนที่มีความบกพร่องของเขา มีโอกาสในการพัฒนาและก้าวหน้าขึ้นมาบ้าง
เพราะสมองของเด็กเล็กนั้นยังมีโอกาสอีกมากที่จะพัฒนา
ฉันเชื่อว่าครอบครัวที่ยอมรับในปัญหา แล้วก็เข้ามาช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก
จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กมีความก้าวหน้าขึ้นมาเป็นอย่างดี
อาการของออทิสติคเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเรื้อรัง ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งก็คงต้องอาศัยคนใกล้ชิดที่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วย
จริง ๆ แล้วเด็กออทิสติคหลาย ๆ คนนั้นมีพัฒนาการที่ดี
และการที่เขาได้มีโอกาสในการเรียนร่วมกับเด็กปกติ
จะช่วยให้เขามีพัฒนาการที่ก้าวหน้าต่อไปในวันข้างหน้าเป็นอย่างดี
ฉันมั่นใจว่าคุณครูที่ดูแลเด็กที่เป็นออทิสติคควรจัดการศึกษาให้กับเขาได้อย่างเหมาะสม
ให้เด็กได้อยู่ในโลกของความเป็นจริงที่ต้องพบกับคนหลายๆ รูปแบบ
ฉันหวังให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจว่าเด็กออทิสติคเป็นอย่างไร
ฉันหวังให้ทุกความรับผิดชอบได้ให้โอกาส ให้การช่วยเหลือเด็กออทิสติค
ให้เขาได้มีโอกาสที่จะก้าวหน้าต่อไปในสังคม สังคมจะได้ไม่มองเห็นแต่ภูผาสีเทา
สังคมจะได้ชื่นใจกับดอกไม้สีขาวที่ผลิบานส่งกลิ่นหอมบนภูผา
ฉันอยากให้ใครๆได้เห็นดอกไม้สีขาวผลิบานบนภูผาสีเทาส่งกลิ่นหอมอวลใจ
อย่าปล่อยให้ภูผาสีเทารกเรื้ออีกต่อไปเลย ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนภูผาสีเทาต้องไม่รกร้าง
นะ..วันนี้เราช่วยกันปลูกดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมบนภูผาสีเทา
ให้ดอกไม้สีขาวบนภูผาสีเทาส่งกลิ่นหอมกำจายไปถึงดวงใจทุกดวง.