อยากมีเรือนผมแข็งแรง มีชีวิตชีวา ใช่เพียงโหมซื้อครีมบำรุงราคาแพง จะบอกให้ว่าการรับประทานอาหารดีมีประโยชน์นี่แหละที่จะช่วยให้เส้นผมของคุณสวยได้อย่างจริงจัง...
ได้ยินอยู่บ่อยว่า “you are what you eat” แต่พอได้ยินอย่างนี้ พวกเราก็มักจะคำนึงถึงคุณประโยชน์ของอาหารที่มีต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แท้จริงแล้วสุขภาพเส้นผมจะแข็งแรง หรืออ่อนแอเพียงใดก็ด้วยอาหารที่คุณบริโภคเข้าไปเช่นกัน ดังนั้นหากอยากให้เส้นผมแข็งแรงเป็นมันเงา ไม่เปราะ หรือฉีกขาดง่ายแล้วล่ะก็อย่ามองข้ามโภชนาการสำหรับเส้นผมสุดที่รักเป็นอันขาด หลายคนมีความเชื่อฝังใจว่าอาหารสุขภาพมักมีรสชาติแย่ แท้ที่จริงแล้วมันอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ในการนำวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงรสต่างหากล่ะ
ถ้าคุณจะให้เราฟันธงว่าอาหารดีๆ จะช่วยทำให้ผมเราสุขภาพดีได้จริงๆ หรือ ก็ขอฟันธงกันไปตรงนี้ชัดๆ เลยว่า “จริง!” แม้ว่าลักษณะทางพันธุกรรมจะกำหนดสภาพเส้นผมของเรามาตั้งแต่เกิด และการดูแลรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดี บวกกับการเล็มปลายผมเป็นประจำจะมีผลต่อสุขภาพของเส้นผมมาก แต่ความจริงที่หนีไม่พ้นก็คือ อาหารมีความจำเป็นสูงสุดต่อความแข็งแรงของเส้นผม และเป็นความแข็งแรงที่ทนทานยั่งยืนจากภายใน
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ในเรื่องโภชนาการกับเส้นผมก็คือ ในโลกนี้ไม่มีสารอาหารใดที่จะให้ผลลัพธ์กับเส้นผมแบบทันตาเห็น ไม่เหมือนกับพวกอาหารลดน้ำหนักที่ให้ผลในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นเลิกคิดเพ้อเจ้อซะทีว่าหากคุณเลิกกินอาหารจังค์ฟู้ดวันนี้ แล้วหันมาโหมกินผักผลไม้อย่างเต็มที่ จะแปลว่าผมของคุณจะมีสุขภาพดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์มันไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน คุณจะได้เห็นผลลัพธ์จากอาหารที่คุณบริโภคเข้าไป ก็ต่อเมื่อเส้นผมใหม่งอกขึ้นมาเท่านั้นเอง
สารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเร่งโหมกระหน่ำสักแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยแก้ไข หรือซ่อมแซมเส้นผมที่งอกออกมาแล้ว คุณต้องใจเย็นรอให้ผมงอกออกมาใหม่จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่รอคอย และก็อย่างที่รู้ว่าเส้นผมของเรานั้นโดยเฉลี่ยแล้วจะงอกใหม่เพียง 1.5 เซนติเมตรต่อเดือนเท่านั้นเอง กับเรื่องเส้นผมแล้วถ้าอยากพึ่งพาความงามจากภายใน คงต้องยึดคติช้าๆ ได้พร้าเล่มงามเป็นหลักไว้จะดีกว่า
โภชนาการที่ดีสำหรับเส้นผมนั้นต้องเริ่มกันตั้งแต่มื้อแรกของวัน ใครที่เคยยึดกาแฟแก้วเขื่องเป็นอาหารเช้าคงต้องคิดกันใหม่อีกที เนื่องจากในช่วงเช้าที่เราเพิ่งตื่นนอนกันนั้น ระดับพลังงานในร่างกายที่จะทำหน้าที่ส่งสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงเส้นผมจะมีระดับต่ำที่สุด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณทั้งหลายควรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยหันมารับประทานอาหารเช้าที่มีปริมาณโปรตีนสูงทดแทน
แนะนำให้รับประทานไข่ไก่หรือเนื้อสัตว์ประเภทใดๆ ก็ได้ร่วมด้วยในอาหารเช้าแทนที่การกินกาแฟกับขนมปังแครกเกอร์ทาแยม ทั้งนี้เป็นเพราะโปรตีนมีส่วนสำคัญมากต่อสุขภาพของเส้นผม เพราะที่จริงแล้วเส้นผมของเราก็คือโปรตีนนั่นเอง โปรตีนที่เราบริโภคเข้าไปจะช่วยทำหน้าที่ดั่งเกราะป้องกันเส้นผมจากอันตรายต่างๆ ช่วยให้กะเปาะขนที่ทำหน้าที่ผลิตเส้นผมแข็งแรงขึ้น และช่วยป้องกันเส้นผมจากการฉีกขาดหรือแตกปลาย
นอกเหนือจากโปรตีนแล้ว แนะนำให้รับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนร่วมด้วย อาทิเช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปัง โฮลวีทหรือโฮลเกรนด้วย คาร์โบไฮเดรตจะเข้าไปช่วยเสริมการทำงานของโปรตีน ช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น และยังช่วยทำให้คุณมีพลังงานพอที่จะใช้ในระหว่างวันอีกด้วย
นอกจากนี้เส้นผมของเรายังขาด “น้ำ” ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะเส้นผมของเรานั้นมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่ถึง 1 ใน 4 ของน้ำหนักเส้นผม ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเยอะๆ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นในระดับที่พอเหมาะและป้องกันไม่ให้ผมแห้ง อีกแร่ธาตุที่สำคัญ คือ ธาตุเหล็ก ซึ่งผู้หญิงส่วนมากมักมีอาการขาดธาตุเหล็กเนื่องจากการสูญเสียเลือดเป็นประจำทุกเดือน แต่ธาตุเหล็กนี้เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญที่สุดต่อเส้นผม โดยธาตุเหล็กจะทำหน้าที่ในการดึงออกซิเจนมาสู่รากผมและเส้นผม การขาดเหล็กจะทำให้เส้นผมไม่แข็งแรง และมีโอกาสหลุดร่วงได้ง่าย คุณสามารถพบธาตุเหล็กได้มากในผักใบเขียว เนื้อแดง และถั่ว
ฟังอย่างนี้แล้วคุณอาจคิดว่ากินวิตามินเสริมก็ได้ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกนะเพียงแต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย เพราะคุณสามารถเติมวิตามินเหล่านั้นให้กับร่างกายอย่างพอเพียงได้โดยวิธีธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินที่เส้นผมต้องการในปริมาณที่พอเหมาะ อาทิ แครอทและผักบุ้งให้วิตามินเอในปริมาณสูง วิตามินเอมีประโยชน์ต่อผิวพรรณและหนังศีรษะ หากอยากมั่นใจว่าเส้นผมของคุณจะแข็งแรงและไม่แตกปลายให้รับประทานวิตามินบีและซีให้มาก โดยการรับประทานผักผลไม้หลากสีควบคู่ไปกับขนมปังโฮลวีท และธัญพืชต่างๆ
นอกเหนือจากวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แล้ว เส้นผมยังต้องการกรดไขมันจำเป็นอีก 2 ชนิด ได้แก่ โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ จำเป็นต้องหามาจากแหล่งภายนอกเท่านั้น หากร่างกายขาดกรดไขมันสองชนิดนี้ เส้นผมจะดูหมองหม่น ไม่สดใสดูไร้ชีวิตชีวา รวมทั้งหนังศีรษะของคุณอาจแห้งจนหลุดร่อนเป็นแผ่นได้ด้วย โอเมก้า-3 พบมากในปลาเนื้อมัน เช่น ปลาแซลมอน และปลาหิมะรวมทั้งในผักใบเขียวเข้ม และน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ในขณะเราสามารถรับโอเมก้า-6 ในปริมาณสูงจากอีฟเวนนิ่ง พริมโรสออยล์ และเมล็ดทานตะวัน tips :
เส้นผมของเรานั้นโดยเฉลี่ยแล้วจะงอกใหม่เพียงเดือนละ 1.5 เซนติเมตร เท่านั้นเอง กับเรื่องเส้นผมแล้วถ้าอยากพึ่งพาความงามจากภายในคงต้องยึดคติช้าๆ ได้พร้าเล่มงามเป็นหลักไว้จะดีกว่า สุดยอดอาหารเพื่อเส้นผม
ไข่: ไข่เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยกรดอะมิโนแอซิดที่มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ และช่วยในด้านความแข็งแรงของเส้นผม
ปลา: อุดมด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และมีประกายเงางาม
ถั่ว: มีกรดไขมันจำเป็นหลายชนิด ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
ธัญพืช: ธัญพืชมีแร่ธาตุซิลิก้าสูง โดยเฉพาะในข้าวโอ๊ต หรือมูสลี่ จะช่วยให้ผมที่ดูหมองไม่สดใสกลับคืนความเงางามอีกครั้งหนึ่ง
ผลไม้: ผลไม้สีสันสดใสจะอุดมด้วยวิตามินนานาชนิด ช่วยคืนชีวิตชีวาและความแข็งแรงให้กับเส้นผม
ผัก: อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนซึ่งร่างกายจะทำการแปลงให้เป็นวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อสุขภาพเส้นผม
น้ำ: น้ำไม่ได้ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกายและผิวหนังเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เส้นผมมีความยืดหยุ่นและเป็นมันเงา ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Hair ฉบับภาษาไทย |