การดูแลผมผิดวิธีก็นับเป็นบาปอย่างหนึ่งต่อเส้นผมของคุณ เราขอชวนคุณมาเลิกทำบาปกันเดี๋ยวนี้ เพื่อความสุขสดชื่นของเส้นผมของคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าทำดีได้ดีนั้นมีอยู่จริง…
1. คุณไม่ควร… หวังสีผมสวยโดยไม่ทำอะไร ใครๆ ก็อยากมีสีผมสวยสดใสราวกับเพิ่งทำสีออกจากร้านสดๆ ร้อนๆ แต่โชคร้ายว่าสีผมสวยสดใสแบบนั้นน่ะไม่มีวันอยู่กับคุณได้ตลอดไปถ้าคุณไม่ดูแลใส่ใจอย่างจริงจัง สีผมทุกยี่ห้อจะค่อยๆ ซีดจาง และดูหมองไปตามวันเวลา แต่คุณสามารถช่วยได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะมีส่วนผสมที่เข้าไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีในสีผม ช่วยให้สีผมสว่างสดใส และดูสดใหม่ได้นานกว่าหลายเท่านอกจากนี้ ผมที่มีสุขภาพดีจะสามารถยึดเกาะสีให้ติดแน่นได้มากกว่าผมแห้งเสีย ดังนั้นคุณต้องบำรุงเส้นผมด้วยคอนดิชันเนอร์รุ่นบำรุงล้ำลึกเป็นประจำด้วย เพื่อสีผมที่สวยสดใสตลอดไป
2. คุณไม่ควร… ใช้เครื่องมือราคาถูก รู้ค่ะว่าเงินน่ะหายาก แต่อยากให้คุณลงทุนสักหน่อยกับแปรงหวีผมดีๆ สักอัน ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะการแปรงผมด้วยแปรงดีๆ นั้นจะช่วยทำให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยการกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ข่วยให้เส้นผมเป็นมันเงาไม่ฟุ้งฟูและจัดทรงได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าจะให้เด็ดลองหาแปรงที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานในการหวีผม และยังช่วยลดความเครียดให้กับเส้นผมและหนังศีรษะอีกด้วย และท้ายสุดอย่าลืมทำความสะอาดหวีและแปรงของคุณอย่างเป็นประจำด้วย
3. คุณไม่ควร… ใช้หนังยางรุ่นดึก ช่วงนี้ฮิตเป็นพิเศษกับการรวบหางม้าเป็นสปริงเด้งดึ๋งตามแคทวอล์คแฟชั่น เราจึงอยากเตือนคุณว่าอย่าได้หลับหูหลับตาหยิบหนังสติ๊กมัดถุงกับข้าวมามัดผมเป็นอันขาด เพราะหนังยางประเภทนั้นจะดึงเส้นผมให้ฉีกขาด
แถมยังทำลายเกล็ดผมอีกด้วย ดังนั้นสาวผมยาวทั้งหลายที่ชอบมัดผม ควรหาซื้อหนังยางที่ผลิตสำหรับเส้นผมโดยเฉพาะมาติดกระเป๋าอยู่เสมอเผื่อฉุกเฉิน หรือใช้ที่มัดผมโดนัทที่มีผืนผ้าห่อหุ้มอยู่ด้านนอกในการมัดผม แค่นี้ก็จะช่วยป้องกันปัญหาผมพันติดหนึบกับหนังสติ๊ก พาลให้ผมขาดวิ่น หรือต้องตัดผมเลยก็เป็นไปได้
4. คุณไม่ควร… ใช้ผลิตภัณฑ์ผิด อย่าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพียงเพราะแพ็คเกจที่สะสวย ดูดีมีสไตล์ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อความงามทั้งผิวและผม นั้น ต้องเลือกที่คุณสมบัติเป็นหลักโดยเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสภาพผมของเรา แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่พวกเรามักต้องเจอ คือ คำบรรยายสรรพคุณสุดเว่อร์และสับสนบนฉลากทำให้เราต้องเวียนหัวทุกครั้งที่ไปช้อปปิ้งด้วยตัวเอง ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกจะเหมาะกับเส้นผมของคุณ และได้ผลดีจริงๆ เราขอแนะนำให้คุณสอบถามจากช่างผมของคุณจะดีกว่า แต่ถ้าอยากทดลองให้รู้ด้วยตัวเอง ควรซื้อไซส์ทดลองมาใช้ในคราวแรก ถ้าใช้แล้วดีค่อยลงทุนซื้อไซส์ใหญ่มาใช้ในคราวถัดไป
5. คุณไม่ควร… รุนแรงกับผมเปียก เชื่อได้เลยว่าใครที่ไหนก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ รีบๆ สระผม แล้วก็เอาผ้าขนหนูเช็ดถูอย่างเมามัน สางผมด้วยหวีเร็วๆ แล้วก็รีบออกจากบ้านไปเพื่อแข่งกับเวลา แต่ความจริงแล้วการหวีผมเมื่อผมเปียกนั้นนับเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรงมาก แถมการเช็ดถูผมด้วยผ้าขนหนูยังเป็นการทำให้เกล็ดผมเปิดออกอีก ส่งผลให้เส้นผมฟุ้งกระจายไร้ทิศทางจัดยังไงก็ดูไม่เข้าทรง วิธีที่ถูกต้องก็คือ ค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำแล้วบีบเบาๆ ให้ผมแห้งหมาด จากนั้นใช้หวีซี่ห่างสางผมออกจากกัน แค่นี้เส้นผมก็ยิ้มได้แล้ว
6. คุณไม่ควร… โหมใช้ของร้อน ความร้อนจากการใช้ไดร์เป่าผมและเครื่องรีดผมเป็นประจำนับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับเส้นผม และเห็นผลเร็วยิ่งกว่าสิ่งใด เส้นผมของคุณจะดูหมองในพริบตา แถมยังแห้งเสียไม่เข้าท่าได้อย่างเร็วทันใจ ถ้าเลี่ยงการไดร์ผมไม่ได้จริงๆ พยายามรักษาระยะห่างประมาณ 1 ช่วงแขนห่างจากศีรษะเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมรับความร้อนมากเกินไป ความร้อนยังนำพาความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมด้วย ดังนั้นคุณจึงควรใส่คอนดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออกลงบนเส้นผมทุกครั้งก่อนการใช้ความร้อนเพื่อป้องกันเส้นผมแห้งแตกปลายได้อีกทาง
7. คุณไม่ควร… เลื่อนนัดช่างผม คุณควรเข้าร้านเพื่อพบกับช่างทำผมเป็นประจำทุกๆ 8-12 สัปดาห์เพื่อให้ช่างช่วยเล็มปลายผมออก เพราะปลายผมมักจะอ่อนแอมากกว่าโคนผม การได้รับความร้อนหรือสารเคมีต่างๆ ก็จะทำลายปลายผมมากกว่าโคนผม การเล็มออกเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดผมแตกปลายได้เป็นอย่างดี แม้ว่าคุณจะกำลังไว้ผมยาวก็ไม่ควรหยุดเล็มผม เพียงแค่คุณบอกกับช่างผมว่าคุณกำลังเลี้ยงผมยาว ช่างผมจะช่วยเล็มปลายเพื่อรักษาทรงให้กับคุณ เพื่อให้ผมของคุณยังดูเป็นทรงสวย ไม่ดูโทรมเกินไปและยังช่วยรักษาสุขภาพผมให้ดีอยู่เสมอด้วย
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Hair ฉบับภาษาไทย |