สนุกกับจักรยานกันดีกว่า
ออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยานเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแค่คุณมีจักรยานสักคันขึ้นไปนั่งคร่อมอาน มือจับที่แฮนด์ แล้วก็ถีบออกไป ง่ายมาก
การที่คุณรู้สึกว่าการขี่จักรยานเป็นเรื่องง่าย เท่ากับเป็นการเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยทัศนคติที่ดี ที่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกกับมัน ต่อไปคุณจะได้เรียนรู้อะไรดีๆ จากการขี่จักรยานอีกมาก แต่ที่แน่ๆ คือข้อดีที่มีต่อสุขภาพของคุณเอง
การขี่จักรยานก็มีข้อควรระมัดระวังบางครั้งสิ่งที่คุณมองข้ามด้วยเห็นเป็นเรื่องเล็ก ผู้รู้หลายท่านแนะนำว่าไม่ควรถีบจักรยานด้วยเกียร์หนักกว่าที่ควรจะเป็น นักขี่หน้าใหม่ควรใช้เกียร์ที่เบาที่สุดเสมอ ยิ่งถ้าคุณมีเกียร์ขนาดใหญ่จะยิ่งดีโดยเฉพาะเวลาขึ้นเนิน เพราะจะทำให้คุณใช้แรงในการปั่นน้อยลง และลดอาการเจ็บเข่าซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการขี่จักรยานที่หนักเกินไป ยิ่งถ้าคุณเคยเกิดอาการเจ็บเข่าจากการขี่จักรยานแล้ว ยิ่งควรใช้เกียร์ที่เบามากๆ หรือไม่ก็หยุดปั่นสักพัก นอกจากนี้การปรับอานจักรยานให้สูงไปหรือต่ำไปก็มีผลต่อการปวดเข่าเช่นกัน ดังนั้นควรปรับอานให้สูงพอเหมาะ เพื่อให้การขับขี่ของคุณราบรื่นตลอดเส้นทาง การขี่จักรยานเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าขาด้านบน ดังนั้นควรหาเวลาบริหารกล้ามเนื้อด้านหน้าของขาบ้างในเวลาว่าง สิ่งนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อขาทั้งสองด้านสมดุลกัน
ในระหว่างการขับขี่ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือหมวกกันน็อค เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นศีรษะส่วนสำคัญที่สุดจะถูกปกป้องให้ปลอดภัย หมวกกันน็อคมาตรฐานเปลือกชั้นนอกที่แข็งของหมวกจะช่วยกระจายแรงกระแทกไปทั่วทั้งหัว แทนที่จะเน้นเฉพาะจุดที่ตกกระทบ ส่วนโฟมหนาๆ ที่อยู่ระหว่างชั้นฟองน้ำ กับส่วนแข็งด้านนอกก็ช่วยลดความเร็วของแรงกระแทกได้ดี แต่ถ้าหมวกกันน็อคของคุณเกิดกระแทกพื้นบ่อย ก็สมควรเปลี่ยนใบใหม่ได้ เพราะประสิทธิภาพของการกันกระแทกก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
ส่วนการเลือกจักรยานนั้น ในท้องตลาดบ้านเรา คุณคงเคยเห็นจักรยานเสือภูเขาที่มีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมสองชิ้นมาประกอบกัน บางคันก็มีระบบรองรับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนด้านหน้า ที่เรียกสั้นๆ ว่าโช๊คหน้า บางคันก็ไม่มี แบบนี้เรียกว่า Hard tail ซึ่งเป็นจักรยานเสือภูเขาที่ให้ความคล่องตัวสูง มีการควบคุมรถในเส้นทาง off-road ได้ดีมาก
หากคุณต้องการความนิ่มนวลในการขับขี่ในแบบที่จักรยาน Hard tail ไม่มี ลองถามหาจักรยานในแบบที่เรียกว่า full-suspension ซึ่งในแบบนี้จะเพิ่มตัวโช๊คอัพทั้งทั้งหน้าและด้านหลัง ในจักรยานแบบนี้ก็จะมีรุ่นที่แยกย่อยลงไปอีก เช่น สำหรับการขี่ลงเขา ที่เรียกว่า downhill bike หรือสำหรับขี่เส้นทางวิบากที่เรียกว่า cross-country bike
สิ่งที่คนสนใจขี่จักรยานจริงจังเขาจะศึกษาและเลือกลึกลงไปอีก เช่นเรื่องของเฟรมหรือตัวถังจักรยาน วัสดุที่ใช้ผลิต การเลือกขนาดรถให้เหมาะสมกับร่างกายและความสูงของผู้ขับขี่ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ พวกเซียนจักรยานทั้งหลายเขาไม่มีวันมองข้ามเรื่องเหล่านี้แน่นอน อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าอุปกรณ์ที่ดีเลิศก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะทำให้คุณจะขี่จักรยานอย่างสนุกสนานเสมอไป แค่อุปกรณ์ที่พอใช้ได้เหมาะกับสภาพการใช้งานและเงินในกระเป๋าของคุณเป็นดีที่สุด เพราะสิ่งที่ได้เหมือนกันคือได้ออกกำลังกายให้แข็งแรง
ประโยชน์ทางการแพทย์จากการขี่จักรยาน นพ.ชาญวิทย์ โคธีรานุรักษ์
โดยปกติแล้วคนที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าเดินในอัตราส่วนประมาณ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เดินเร็ว) จะใช้พลังงานไป 2.3-60 = 138 กิโลแคลอรี่ต่อการเดิน 1 ชั่วโมง (เท่ากับการเผาผลาญข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาว 1 จาน) แต่ถ้าขี่จักรยานในอัตราประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเผาผลาญสารอาหารและใช้พลังงานในปริมาณไล่ๆ กับการเดิน 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นหมายความว่าประโยชน์จากการขี่จักรยานก็คือการเผาผลาญและการใช้พลังงาน ทำให้ลดอัตราการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
นอกจากนั้นการขี่จักรยานอย่างต่อเนื่องจึงเป็นการออกกำลังแบบแอโรบิคที่มีผลทำให้หัวใจแข็งแรง กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต่อเนื่องช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายดีขึ้น ซึ่งรวมถึงเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจและอวัยวะสำคัญในร่างกาย ได้แก่ สมอง ไต ลดการเก็บสะสมตะกรันไขมันในหลอดเลือดทั่วร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถป้องกันภาวะเส้นเลือดตีบตันในอวัยวะสำคัญที่กล่าวข้างต้น
นอกจากนั้นการขี่จักรยานยังเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่ช่วยระบบการหายใจ เพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในถุงลมปอดให้ดีขึ้นและยังเพิ่มระดับของฮอร์โมนแอนดอร์ฟินอันจะช่วยลดความเครียดในร่างกายให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายโดยการขี่จักรยานเสือภูเขา เป็นกิจกรรมที่เข้าถึงธรรมชาติที่ดี ได้รับอากาศที่มีมลพิษน้อยลงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแน่นอน การขี่จักรยานขึ้นลงเขาถือเป็นการออกกำลังแบบแอโรบิคที่หนัก เพราะต้องใช้พลังงานมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหัวใจในคนที่หัวใจแข็งแรงอยู่แล้วจึงเหมาะที่จะปั่นจักรยานเสือภูเขาจะทำให้หัวใจแข็งแรงมากขึ้นเป็นทวีคูณ คล้ายๆ กับการเล่นเทนนิส ฟุตบอล สมรรถภาพระบบหัวใจและปอดจะดีขึ้นอย่างเด่นชัดหากว่าคุณขี่จักรยานเสือภูเขาเป็นประจำ การขี่จักรยานเสือภูเขา ปีนเขา ไตรกรีฑา เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคหนัก ผู้ที่สามารถเล่นกีฬาประเภทนี้ได้ จำเป็นต้องมีสมรรถนะหัวใจและปอดดีเยี่ยมถึงจะมีความปลอดภัย
สำหรับการขี่จักรยานแล้วยังได้ประโยชน์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพราะได้ยืดเส้นยืดสาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณเอว สะโพก ทำให้ป้องกันปัญหาปวดกล้ามเนื้อขาได้ดี
ผู้ที่เริ่มขี่จักรยานใหม่ๆ มีข้อควรระวังดังนี้
-
เบาะที่นั่ง(อาน) จะต้องเหมาะกับสรีระของร่างกาย ไม่ควรนิ่มมากเกินไป เพราะจะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขาได้ แต่ก็ไม่ควรแข็งเกินไปเพราะจะกระแทกกล้ามเนื้อก้น อักเสบง่ายและทำให้เมื่อยล้า
-
ความสูงของเบาะกับขาถีบ ควรมีความสัมพันธ์กับความยาวของขาของผู้ถีบ เมื่อถีบจนสุดควรให้องศาของเข่า เท่ากับแนวตรงของขาไม่เกิน 150 องศา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ปวดกล้ามเนื้อขาและเมื่อยล้าง่าย
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
|