ถนอมรอบดวงตาสวยสดใส
สภาพผิวรอบดวงตามีผลต่อความงามของใบหน้าอย่างมาก และบ่งบอกสภาพของสุขภาพที่เด่นชัดอย่างหนึ่ง เพราะคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์พักผ่อนเพียงพอมักจะมีผิวพรรณรอบดวงตาเต่งตึง ไม่มีร่องรอยลึก มีสีคล้ำ แถมริ้วรอยที่มาเร็วก่อนกำหนด อาการไม่สบายรอบดวงตาจะฉายชัดในคนที่ไม่สบาย พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้สายตามากในวันหนึ่งๆ ทั้งดูโทรทัศน์ หรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือกลางแจ้งมาทั้งวัน แน่นนอนสายตาคุณย่อมเพลียล้ามากกว่าธรรมดา
การใช้สายตามากๆ ก็มีส่วนทำให้ผิวรอบดวงตาได้รับผลกระทบไปด้วย นอกจากนี้คนที่ไม่ค่อยถนอมดวงตา อาจจะมองข้ามทำให้ละเลยการดูแลดวงตา ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวรอบดวงตาไม่เปล่งปลั่ง ลูกตาขาวก็ไม่สดใส เริ่มต้นใส่ใจดูแลกันแต่เดี๋ยวนี้ จะช่วยพยุงให้คุณดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้อีกหลายส่วนเลยเชียว
พักสายตาที่อ่อนล้า ผู้ที่ใช้สายตาจ้องอะไรนานๆ โดยเฉพาะทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือดูโทรทัศน์ทั้งวัน จะทำให้รู้สึกดวงตาแห้ง กล้ามเนื้อรอบดวงตาเกร็ง นานๆ ล้าๆ มากขึ้นนอกจากจะเคืองตาแล้วอาจจะรู้สึกว่ามีอาการบวมเกิดขึ้นได้
วิธีการพักสายตาสำหรับคนที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานกว่า 6-8 ชั่วโมง ควรหยุดพักสายตาเป็นระยะๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง ประมาณ 10-15 นาที ปลดปล่อยสายตาไปไกลๆ และหากิจกรรมอื่นๆ ทำ และที่สำคัญพยายามกระพริบตาบ่อยๆ เพราะการกระพริบตาเท่ากับเป็นการบริหารดวงตา และทำความสะอาดตา สำหรับคนที่นอนน้อยเป็นประจำจนขอบตาคล้ำเป็นร่องลึกลองเลือกวิธีปรนนิบัติถนอมผิวรอบดวงตาเหล่านี้ดูว่าแบบไหนใช้ได้ผลเหมาะกับคุณบ้าง
ตาบวม ตาที่มีอาการบวม อาจเป็นได้จาก 2 สาเหตุ เพราะอดนอนหลายคืนติดกัน อาจทำให้ตาบวม อักเสบได้ถ้าปล่อยทั้งไว้นานๆ และตาบวมจากที่ทาครีมก่อนนอนที่ผิวหน้าใกล้ดวงตามากเกินไป
- นอนราบลง หลับตา แล้วนำผ้าขนหนูจุ่มน้ำชาอุ่นๆ วางประคบดวงตาทั้งสองข้าง ประมาณ 10-15 นาที
- ถ้ามีอาการบวม เพราะอดนอนหลายคืนติดกัน อาจทำให้ตาบวม อักเสบได้ ให้ใช้แตงกวาฝานเป็นแว่นนำมาวางไว้ที่ตาประมาณ 10 นาที ทำวันละหลายๆ ครั้ง ผิวรอบดวงตาจะชุ่มชื่นและลดบวมลงได้
- ใช้น้ำแข็งห่อผ้าเล็กน้อย วางบนเปลือกตาประมาณ 10 นาที จะช่วยให้ขอบตาหายร้อนผ่าว และชุ่มชื่นดูดีและหายคล้ำขึ้น
รักษาความสะอาดให้หมดจด การแต่งหน้าเป็นเรื่องคู่ความงามของผู้หญิงส่วนใหญ่ คุณต้องเลือกใช้เครื่องสำอางทั้งอายแช์โดว์ มาสคาร่าที่แน่ใจแล้วว่าไม่แพ้ เมื่อแต่งแล้วก็ต้องหมั่นชำระล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดทุกครั้งอย่าให้มีตกค้างบนผิวหน้าโดยเฉพาะรอบดวงตา อวัยวะที่สำคัญยิ่งของคนเรา
ทุกครั้งที่ใช้มาสคาร่า ควรเช็ดออกด้วยปิโตรเลี่ยม เจล นอกจากจะชำระได้สะอาดหมดจดแล้วยังบำรุงขนตาไปในตัวด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทาเพื่อป้องกันการหักงอของขนตา ทุกครั้งที่คุณดัดขนตาอีกด้วย
เลี่ยงการใช้ยาหยอดตาโดยไม่จำเป็น หากคุณต้องผจญอยู่ท่ามกลางมลพิษ เกิดความระคายเคืองของดวงตาซึ่งอาจจะเป็นฝุ่นผง ก็ควรจะใช้วิธีล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาล้างตา โดยกรอกตาไปมาในน้ำ การเลือกใช้ยาหยอดตาไม่เป็นสิ่งควรซื้อหามาใช้เอง ในกรณีที่ดวงตาไม่ได้อักเสบ ติดเชื้อ (หรือถ้าติดเชื้อก็ควรพบแพทย์) แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็มีข้อระวังคือ
- ใช้ยาหยอดตาเฉพาะของคุณเองอย่าไปหยิบยืมของใคร จำไว้ว่ายาหยอดตาต้องของใครของมัน มิเช่นนั้นคุณอาจติดเชื้อจากคนอื่นได้จากการใช้ยาร่วมกัน
- ยาหยอดตาที่เปิดขวดแล้วมีอายุไม่เกิน 1 เดือน เพราะอาจจะเกิดการปนเปื้อนได้แม้จะปิดฝาสนิทแล้วก็ตาม
- ไม่ควรหยอดตาบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น เพราะนัยน์ตามีน้ำหล่อเลี้ยงธรรมชาติอยู่ การหยอดตาหรือล้างตาบ่อยๆ จะทำลายภูมิคุ้มกันของน้ำตาให้หมดไป ซึ่งอาจจะยิ่งเกิดความระคายเคืองมากยิ่งขึ้น
หลีกเลี่ยงและระวังเพื่อดวงตาสวย
- พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ สำคัญที่สุดสำหรับดวงตาสวย
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ จะทำให้ดวงตาชุ่มชื่น
- หลีกเลี่ยงการโดนลมแรง และแสงแดดเจิดจ้า เพราะจะทำให้ตาแห้ง
- เลี่ยงการถูกกระทบกระแทกรอบดวงตา
- ไม่ใช้สายตากับบางสิ่งต่อเนื่องนานเกินไปเป็นประจำ
- เลิกพฤติกรรมการนอนคว่ำ เอาหน้าถูหมอน
- รักษาความสะอาดใบหน้าและผิวรอบดวงตาให้สะอาดหมดจด
- ไม่เอามือสกปรกขยี้ตา
- เลือกเครื่องสำอางสำหรับแต่งรอบดวงตา เฉพาะที่มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน เพราะถ้าเกิดแพ้ขึ้นมานอกจากจะทำให้ดวงตาอักเสบแสบ มีน้ำตาไหลไม่หยุดแล้วอาจจะทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดแพ้ เป็นเม็ด อักเสบ หรือสีผิวเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน
- ไม่จำเป็นต้องสรรหาสารพัดครีมบำรุง หรือสมุนไพรมากมายมาเพื่อบำรุงรอบดวงตา เพราะผิวบริเวณนั้นมีความอ่อนบางมากกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้า และมีโอกาสที่สารต่างๆ จากสิ่งที่นำมาสัมผัสกับตาจะหลุดลอดเข้าสู่ดวงตาให้เป็นอันตรายได้
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
|