คุณประโยชน์ของน้ำทับทิม
... ทับทิม....ไม่เพียงแค่ชื่อที่มีคุณค่า
ทับทิม (Pomegranate) ชื่อท้องถิ่น เซี๊ยะลิ้ว, พิลา, พิลาขาว, มะก่องแก้ว, มะเก๊าะ, หมากจัง เป็นไม้ผลขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 5-8 เมตร เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศอิหร่านและทางใต้ของประเทศอัฟกานิสถาน
ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิมเป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และ มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่า เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับพระพุทธศาสนา ซึ่งประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า "พระถังซัมจั๋ง" ได้ไปอาราธนาพระไตรปิฎกที่อินเดีย ท่านได้นำพันธุ์ไม้ต่างๆ มาด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือทับทิม ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมาก จึงสื่อความหมายถึงการให้มีลูกชายมากๆ
ทับทิม .... ผลไม้มหัศจรรย์ ผลทับทิมใช้รับประทานเป็นผลไม้มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวาน ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ น้ำของผลทับทิมมีวิตามินซีสูงและยังมีสารเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่สูงเหมาะสำหรับการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย น้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถลดภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง บรรเทาโรคโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลังและความงาม ดื่มน้ำทับทิมคั้นวันละแก้วจะช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงและช่วยเสริมสุขภาพของหัวใจให้ดีขึ้น
เปลือกทับทิมรักษาโรคท้องเดินและโรคบิด จากการศึกษาวิจัยพบว่าในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนินสูง 22-25% โดยประกอบด้วยสารแทนนินในกลุ่ม Gallotannin เปลือกทับทิมตากแห้งจึงใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดได้ นอกจากนี้ยังพบสารแทนนินในกลุ่ม Ellagictannin ในปริมาณสูง สารในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่ดี โดยมีสรรพคุณลดอาการอักเสบ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อต้านมะเร็งกว่า 13 ชนิด ไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีคุณสมบัติในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหารและลำไส้ใหญ่ ซึ่งพบว่าการให้กรดเอลลาจิกกับสัตว์ทดลอง สารดังกล่าวจะไปเร่งการเจริญของเซลล์มะเร็งแบบอะมอพโดซีส (Amoptosis) ทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายโดยกลไกการแตกตัวของตัวมันเองได้
ทับทิม พืชที่คนไทยรู้จักกันมาช้านาน ด้วยเมล็ดภายในมีสีแดงสดเหมือนทับทิมอัญมณีที่ทรงคุณค่า มันจึงเรียกชื่อว่า “ทับทิม” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum และมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Pomegranate ในภาษาสเปน และภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Grandada และ Grenede ตามลำดับ ทับทิมมีถิ่นกำเนิดจากประเทศอิหร่าน แล้วแพร่ขยายมาสู่ดินแดนเทือกเขาหิมาลัย และตอนเหนือของอินเดีย นอกจากนั้นยังมีการเพาะปลูกถึงทางตอนใต้ของเอเชีย และกระจายไปสู่แคลิฟอร์เนียโดยผู้อพยพชาวสเปน ในปี ค.ศ.1769 ทับทิมเป็นผลไม้โบราณที่มีอยู่ในตำราอาหารหลายชนชาติต่างๆ มาช้านาน เช่น ชาวอียิปต์ยุคโบราณปรุงไวน์ให้มีกลิ่นหอมจากทับทิม ชาวกรีกถือว่าทับทิมเป็นผลไม้แห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ ชาวจีนเชื่อว่า ทับทิมเป็นผลไม้มงคล นิยมปลูกในบ้าน
ด้านคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพ เนื่องจากทับทิมมีสาร polyphenols ปริมาณมาก และส่วนใหญ่เป็นชนิด hydrolysable tannins (สาร tannin เป็นสารที่มีรสฝาด และมักพบในไวน์แดง) นอกจากนี้ยังมี puracaligins ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการทำหน้าที่เป็น antioxidant หรือเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารดังกล่าวเหล่านี้สามารถได้มาจากน้ำของทับทิม ในเมนูของนักโภชนาการ หลาย ๆ เมนูก็ประกอบด้วยน้ำทับทิมและเมล็ดของทับทิม (อุดมไปด้วยไฟเบอร์) เป็นส่วนผสม และเมล็ดทับทิมแห้งก็สามารถเก็บไว้ได้ในตู้เย็นนานถึง 3 เดือน
ได้มีงานวิจัยหลายฉบับสนใจศึกษาผลทางยาและการรักษาของน้ำทับทิม พบว่าน้ำทับทิมมีประสิทธิภาพลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งรวมถึง LDL oxidation และลดภาวการณ์เกิดโฟมเซล ภาวะดังกล่าวเป็นขั้นตอนของโรคหัวใจ ไม่นานมานี้มีรายงานว่า น้ำทับทิมมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก (prostate cancer) ปัจจุบันน้ำทับทิมได้รับความนิยมบริโภคมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ รวมถึงหลายประเทศในยุโรป โดยน้ำทับทิมสามารถหาซื้อได้ตามแบรนด์ต่างๆ และมักพบในส่วนของอาหารเพื่อสุขภาพ
ประโยชน์อย่างอื่นของทับทิม เช่น ในประเทศญี่ปุ่นใช้เป็นสีย้อมสำหรับเส้นใยธรรมชาติ ถึงแม้จะไม่ได้ปลูกทับทิมอย่างแพร่หลาย แต่ก็ได้นำต้นทับทิมมาประดับตัดแต่งเป็นบอนไซ ด้วยเหตุผลที่ทับทิมให้ดอกที่สีแดงสดสวย
จากประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาทั้งคุณค่าทางโภชนาการ คุณค่าทางการรักษาโรค และคุณค่าทางการตกแต่ง จะพบว่าต้นทับทิมเป็นพืชที่มีประวัติมาช้านานและเป็นพืชที่มีคุณค่า ดังเช่นชื่อ ทับทิม
น้ำทับทิมช่วยผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ ทับทิมเป็นผลไม้ที่ถูกนำมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ในตำราแพทย์โบราณ ของเปอร์เซีย (ซึ่งเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ระบุว่า ทับทิมมีประโยชน์ในทาง การแพทย์มากมาย และได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำทับทิมในการรักษาและป้องกันโรค มะเร็งเต้านมของคนว่าสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในคน และยับยั้งเซลล์มะเร็งในคนที่ ป่วยแล้วได้จริงแต่ไม่ได้รักษาโรคมะเร็งให้หายขาด โดยหลักการทำงานของน้ำทับทิมในการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมคือ :-
- ในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (อนุมูลอิสระคือตัวการที่ทำให้คนแก่ง่ายและเป็นมะเร็ง) โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกาย (โดยเฉพาะเซลล์ไขมันที่เต้านม) มีความแข็งแรง เกิดภูมิคุ้มกันขึ้นภายในเซลล์ ทำให้เซลล์มีความต้านทานต่อพิษของสารก่อมะเร็ง จึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้
- ในกรณีที่คนป่วยเป็นมะเร็งเต้านมแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมจะช่วยยับยั้งเซลล์ มะเร็งไม่ให้แพร่กระจายลุกลามมากขึ้นดังนี้
|