********************************
สรณะ (สะระณะ) แปลว่า ที่พึ่ง ที่ระลึก ที่ยึดเหนี่ยว ที่เหนี่ยวรั้งใจ สรณะ อาจจะเป็นบุคคล หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สามารถเป็นหลักสำหรับเหนี่ยวรั้งไว้มิให้เคว้งคว้าง เป็นที่พึ่งพิงอาศัย เป็นที่ให้ความอุ่นใจ แม้เพียงแค่ระลึกถึง ก็ทำให้สบายใจ เกิดความอบอุ่นได้
ท่ามกลางความไม่สงบของบ้านเมือง ทั้งกรุงเทพฯ และในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวที่เป็นพุทธศาสนิกชน ต่างก็มีพระเครื่องและเครื่องรางของขลังเป็นสรณะ สุดแล้วแต่ใครจะมีศรัทธาต่อสิ่งใด
พลังศรัทธานี่เองจึงมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่หลายครั้ง เช่น
เมื่อช่วงเช้าวันที่ ๑๕ มกราคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นบนรางรถไฟช่วงระหว่างสถานีรถไฟตันหยงมัส-สถานีรถไฟบ้านบูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ ร.ต.อ.อิสรพงษ์ พิมพ์สุวรรณ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า หูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย ด.ต.ทองใบ วิชัยแสง ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา บาดเจ็บเล็กน้อย และ ส.ต.อ.ประชา ตุ่ยชัย ถูกสะเก็ดระเบิด ทำให้แขนขาถลอก
สิ่งที่ทำให้ ร.ต.อ.อิสรพงษ์ รอดปลอดภัย ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากระเบิดเพียง ๓ เมตรเท่านั้น เจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะพระเครื่องกว่า ๒๐ องค์ ที่คล้องคอ และใส่กระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ในขณะที่รอบเอวมีตะกรุดและผ้ายันต์ ส่วนพระที่นับถือมากคือ หลวงพ่อเกษม เขมโก ที่พี่สาวให้มาจาก จ.ลำปาง เหรียญพระธาตุพนม ปี ๒๕๓๙ พระหลวงพ่อเพชร ที่เพื่อนให้มา ก่อนจากบ้านมาอยู่ จ.นราธิวาส หลวงปู่ทวดที่ลูกน้องให้มาขณะมาปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ และตะกรุดที่ญาติให้มาพกติดตัวป้องกันภัย
ในขณะที่ ด.ต.ทองใบ ตำรวจอีกนายที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดครั้งนี้ บอกว่า ทันทีที่ได้ยินเสียงระเบิด ก็นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยขอให้คุณพระคุ้มครองตลอดเวลา ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยมีเหรียญฉลองครองราชย์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ติดตัวเป็นประจำ และระลึกอยู่เสมอว่า มีพระองค์ท่านแล้วทำให้อุ่นใจมากขึ้น รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และสร้างความมั่นใจให้อย่างมาก พระบารมีของพระองค์ท่านทำให้เราปลอดภัยตลอดมา
"นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลที่ศรัทธานับถือคือ พระปิดตาพังพระกาฬ องค์พ่อจตุคามรามเทพ พระหลวงปู่ทวด และตะกรุดผ้ายันต์ที่ทางญาติให้มาก่อนจะเดินทางลงมาปฏิบัติหน้าที่ที่ภาคใต้ วันนี้ดีใจที่ไม่เป็นอะไรมาก ที่แคล้วคลาดมาได้ ผมเชื่อมั่นว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระบารมีในหลวงคุ้มครองพวกเรา ให้รอดพ้นจากอันตรายครับ" ด.ต.ทองใบ กล่าว
ทางด้าน ส.อ.บุญเลิศ ไชยถา ทหารจากชุดเฉพาะกิจที่ ๓๔ ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เล่าว่า เดินทางมาจาก จ.อุดรธารนี มาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในพื้นที่ อ.ระแงะ ประมาณ ๑๐ เดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบ้าง ซุ่มยิงทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง และชุดคุ้มครองความปลอดภัยให้ครูในพื้นที่เสี่ยง หลายครั้งที่ฝ่ายทหารได้รับบาดเจ็บจากเหตุร้ายที่ฝ่ายตรงข้ามได้สร้างสถานการณ์ ทำให้เพื่อนทหารได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะต้องทำงานหนัก แต่ก็พร้อมที่จะรับศึกทุกด้าน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมคือ ขวัญและกำลังใจที่สร้างขึ้นมา นั่นคือ พระเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ทุกครั้งที่จะออกไปปฏิบัติหน้าที่ จะนำพระที่เคารพบูชา แขวนติดห้อยคอไว้กว่า ๓๐ องค์
ในจำนวนพระเครื่องกว่า ๓๐ องค์นั้น ส.อ.บุญเลิศ บอกว่า ที่ขาดไม่ได้ ต้องอาราธนาติดตัวด้วยเสมอ คือ ๑.พระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ๒.หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ๓.พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร ๔.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ๕.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ๖.หลวงปู่จันทรา วัดทุ่งสว่างตะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
ส.อ.บุญเลิศ บอกด้วยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแต่ละวัน เมื่อกลับถึงฐาน ทั้งทหารและตำรวจทุกนายจะสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน บางคนก็นั่งสมาธิ ในขณะบางคนก็แผ่เมตตาด้วย นอกจากเป็นการสร้างสมาธิ สร้างขวัญให้ตัวเองแล้ว ยังต้องการให้คุ้มครองตนเอง และเพื่อนผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้ปลอดภัยด้วย
"ถ้าวันไหนผมลืมอาราธนาติดตัวออกไปปฏิบัติหน้าที่ รู้สึกขาดความมั่นใจ และขาดอะไรไปบางอย่าง จึงต้องรีบกลับไปนำพระมาทุกครั้ง ผมเชื่อเรื่องพระเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นความรู้สึกด้านจิตใจของแต่ละคน ผมเคยประสบอุบัติเหตุมาแล้ว และก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งเชื่อว่าพระคุ้มครองผม และถ้ามีใครเอาพระมาให้ ผมก็จะเอาอีก เพราะผมชอบมาก จะมีใครหาว่าผมบ้า ผมไม่สนใจ เพราะผมชอบของผมอย่างนี้" ส.อ.บุญเลิศ กล่าว
คม ชัด ลึก หน้าพระเครื่อง ๓๐ มกราคม ๒๕๕๐