Neric-Club.Com
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14323250  

กระดานแสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ    

KROOPAD

ตั้งกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ปลาติดเบ็ด 119 เขตพื้นที่ ถูกคำสั่งแบล็คลิสต์ตลอดชีวิต

     นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่าหลังจากที่สำนักงานก.ค.ศ.ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษา 119 เขต ให้แจ้งผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งหมายถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ดำเนินการตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 สั่งให้ผู้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยออกจากราชการ ตามหนังสือที่ก.ค.ศ.ได้รับจากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอนั้น ขณะนี้แต่ละอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯน่าจะได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าวหมดแล้วและภายในเดือนนี้จะมีการประชุมพิจารณากัน ซึ่งสำนักงานก.ค.ศ.กำลังรอผลแจ้งกลับมาจาก 119 เขตพื้นที่การศึกษาว่าได้ดำเนินการสั่งให้ครูผู้ช่วย 344 รายออกจากราชการไปกี่คน รวมทั้งให้แจ้งผลในส่วนของผู้ที่มีรายชื่ออยู่ใน 344 รายแต่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยมาด้วย ทางสำนักงานก.ค.ศ.จะได้ทราบว่ามีใครบ้าง ทั้งนี้ผู้ที่ไม่ได้รับการบรรจุทางอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯไม่ต้องไปยกเลิกเพราะกลุ่มนี้ได้คะแนนสูงจริงแต่อยู่ในลำดับที่ไม่ได้รับการบรรจุ อย่างไรก็ตามในกรณีของนายภานุวัฒน์ ไชยวงค์ ที่ได้คะแนนลำดับที่ 1ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ซึ่งที่ประชุมก.ค.ศ.ในกาประชุมเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีมติให้ชะลอการบรรจุแต่งตั้งและหากพบว่ามีการทุจริตให้บรรจุในลำดับถัดไปแทนนั้น ในกรณีนี้ทางดีเอสไอได้แจ้งมาแล้วว่ามีการทุจริต


" ครูผู้ช่วยที่ถูกให้ออกจากราชการไม่ต้องคืนเงินเดือนที่ได้รับไประหว่างที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเพราะมาตรา 49 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครฯ ระบุว่าการออกจากราชการจะไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่และการรับเงินเดือน หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับหรือมีสิทธิจะได้รับจากทางราชการก่อนมีคำสั่งให้ออกจากราชการ " เลขาธิการก.ค.ศ.กล่าวและว่าผู้ที่มีรายชื่อใน 344รายแต่ยังไม่ได้รับการบรรจุ และครูผู้ช่วยที่ถูกให้ออกจากราชการจะถูกขึ้นบัญชีดำตลอดชีวิตไม่สามารถสมัครสอบบรรจุหรือรับราชการเป็นข้าราชการครูได้อีกตามคุณสมบัติในมาตรา 30 (13) ที่กำหนดว่าจะต้องไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ทางคุรุสภาจะต้องมีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูด้วยทำให้ไม่สามารถรับราชการครูที่ไหนได้ ส่วนการเป็นครูโรงเรียนเอกชนก็ไม่น่าจะได้เพราะไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่จะสอนหนังสือ



witjung

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 1

ถ้าเป็นเด็กในครอบครัวจะเค้นให้ได้ว่า มันเป็นมายังไง อ่านข่าวไม่เห็นมีรายละเอียด เฉลยได้แสดงว่า มีข้อสอบ มีข้อสอบก็ต้องมีที่มา ปิดเงียบเลยนะต้นตอ กลัวเสียรูปคดีหรือ เจอตอเข้าล่ะ



Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 2

เค้ากลัวจะชี้โพรงให้กระรอกมากกว่ามั้ง แบบที่ไม่รู้ก็เลยรู้ ที่ไม่เคยทำก็จะทำมั่ง อีกอย่างนึงมันยังโฟกัสไม่ได้ทัศนวิสัยไม่ดี ต้องดูทิศทางลมอ่ะนะ ลมแรง



ครูทะเล

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 3
วิดจังคิดเหมือนผม เหมือนจะเบี่ยงเบนประเด็นหรือต้องหาแพะให้ได้ไงงั้น ห่วงแต่อนาคตเด็กเพิ่งจบ เพราะความอยากได้ อยากมี อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆนั่นแหล่ะ นึกถึงสภาพความเป็นจริง ในภาวะการแข่งขันสูงและความเบียดเสียดในการดำรงชีพ โชคร้ายที่มือมารหันขวับมาเจอเด็กกลุ่มนี้ก่อน ว่าแล้วก็หันมาเจอตัวน่าเกลียดตัวเดิมอีกแล้ว โชคชะตา!  นึกถึงคดีอื่นๆมากมายรวมทั้งปล้นชาติที่ฟอกเขียวกันอยู่นั่น บาปกรรมจริงๆ ตลอดชีวิตเลยหรือ เหมือนเด็กเคราะห์ร้ายถูกรังแก กลุ่มรับจ้างทำผลงาน กลุ่มจ้างทำผลงานลอยนวล


K.ET

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 4
กฎหมายต้องเป็นกฏหมาย มีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ทุจริตในการสอบ ก็สมควรถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่ผู้ร่วมขบวนการก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน เป็นกำลังใจให้ DSI และคณะกรรมการสืบสวน สอบสวนทุกคณะ กฏหมายคือกฎหมายไม่ได้ใช้ความรู้สึก และสงสัยว่าหากพิสูจน์ได้ว่า บางคนที่พลอยติดร่างแหไปด้วยไม่ได้ทุจริต ก็ต้องมีอะไรชดเชยให้คนกลุ่มนี้ด้วยใช่หรือเปล่า


คลื่นใต้น้ำ

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 5

ทำท่าจะยาว หวังว่าจะไม่มีมือปืนรับจ้างนะ ถ้าไม่ถูกตัดตอนด้วยฉากใดฉากหนึ่งก็สาวกันต่อไป ช่วงนี้รู็สึกว่า ศธ.มาแรง มีข่าวมาเล่ากันได้ทุกวัน แต่ละข่าวทอดยอดทั้งนั้น



ครูถึก

ตอบกระทู้เมื่อ
25 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 6
ใช่แล้ว กฎหมายว่ากันด้วยความรู้สึกไม่ได้ แต่สักห้าปีก็พอแล้ว ให้สังคมลงโทษ และเป็นอุทาหรณ์สำหรับการสอบสนามอื่นๆ ว่าแต่หลักฐานชัดเจนแน่นอนครอบคลุมถึงต้นตอแท้ๆหรือเปล่า


โอ้ละหนอ

ตอบกระทู้เมื่อ
26 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 7
นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมกำลังได้นำหมายศาลจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่340 ซอย 2 หมู่บ้านอรวรรณคันทรี หมู่ 1 ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ของนายประจักษ์ คงแหลม หัวหน้าส่วนโยธา อบต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ พบนายถนอมศักดิ ตรีสารศรี อายุ 41 ปี น้องชายภรรยาของนายประจักษ์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
นายธานินทร์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนปรากฏพยานหลักฐานเชื่อว่านายประจักษ์ เป็นกลุ่มบุคคลที่มีส่วนในการทรุจริตนำเฉลยข้อสอบไปขายให้กับผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2556 และจัดการให้ผู้อื่นเข้าสอบแทน นอกจากนั้นยังเป็นผู้จัดการฝึกอบรมการใช้โทรศัพท์เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้เข้าสอบ โดยมีการเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้สมัครสอบรายละ 4 แสนบาทด้วย ซึ่งในการตรวจค้นครั้งนี้พบเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือ 21 อัน พร้อมปลั๊กไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง โดยหลังจากนี้ทางดีเอสไอจะได้ออกหมายเรียกผู้ที่เข้าสอบ 344 รายมาให้ถ้อยคำ แต่เบื้องต้นจะเรียกผู้ที่สอบได้ในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา 48 ราย มาสอบสวนให้ถ้อยคำก่อน อย่างไรก็ตามจะได้ติดหมายเรียกไว้ที่ อบต.วังตะเฆ่ เพื่อเรียกตัวนายประจักษ์ ไปสอบสวน ถ้าภายในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ยังไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกก็จะออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป
 
การเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้สมัครสอบรายละ 4 แสนบาท
 


เรือกระดาษ

ตอบกระทู้เมื่อ
29 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 8
สพฐ.ถูกลูกล้วงจากองค์กรท้องถิ่นเสียแล้ว
นี่ขนาดงานระดับส่วนกลาง ยังมีสอบกันอีกหลายสนาม
รัฐบาลต้องออกธนบัตรใบละหมื่นแล้ว
หรือไม่ก็เร่งส่งเสริมหัตถกรรมสานกระบุงไว้หาบเงินร้อนกัน
เงินร้อนสะพัดไปทั่วระแหง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ลอยนวลอีกเย๊อะ
ว่าแต่มันจะจบอย่างไรล่ะนี่


K.Pim

ตอบกระทู้เมื่อ
02 มิ.ย. 2556
  ความคิดเห็นที่ 9
คดีความบ้านเราไม่จบง่ายหรอกค่ะ เดี๋ยวก็หลุดหน้าจอ คนไทยลืมง่าย


บ่าวรัฐ

ตอบกระทู้เมื่อ
05 มิ.ย. 2556
  ความคิดเห็นที่ 10

หลุดหน้าจอไปแล้วจริงๆครับ DSI มีงานใหม่เร่งด่วนกว่า



Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
12 มิ.ย. 2556
  ความคิดเห็นที่ 11
ตกจอหรือตกข่าวกันแน่ 
แต่ว่าตกลงมันจบยังไงคะ ต้องสอบใหม่ทั่วประเทศหรือเปล่า 
DSN สรุปว่ายังงัย
ใครก็ได้มาแจงรายละเอียดหน่อยยย..อย่าปล่อยให้งง
200 ล้านอยู่บัญชีใครแล้ว..ฮ่วย..


k.juy

ตอบกระทู้เมื่อ
18 มิ.ย. 2556
  ความคิดเห็นที่ 12

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายอดิศร เนาวนนท์ ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 7 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วยในพื้นที่จ.นครราชสีมา ว่า ภายหลังจากที่กรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ก.ค.ศ. ได้มีมติให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ทั้ง 119 เขต ทั่วประเทศ เพิกถอนบรรจุครูผู้ช่วยจำนวน 344 ราย โดยเฉพาะในสังกัด อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ 1–7 ใน จ.นครราชสีมา ซึ่งมีจำนวน 48 ราย และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ นครราชสีมา เขต 7 ได้ปฏิบัติตามมติของ ก.ค.ศ. โดยการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งเพิกถอนบรรจุครูผู้ช่วยจำนวน 6 ราย ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เสียสิทธิ์ทั้ง 6 รายมาชี้แจงภายใน 15 วัน นั้น วันนี้ครบกำหนดแล้ว ปรากฏว่ามี 5 รายที่มาชี้แจงและเซ็นรับใบคำสั่งเพิกถอน

 นายอดิศรกล่าวว่า ส่วนอีก 1 ราย ไม่ยอมเซ็นรับและมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก อ.ก.ค.ศ. เพื่อตั้งทนายยื่นฟ้องกลับต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งเพิกถอนบรรจุครูผู้ช่วยในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าจะฟ้องตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียน, อ.ก.ค.ศ., ก.ค.ศ., สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ไปจนถึงกระทรวงศึกษาธิการ

 นายอดิศรกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังทราบว่าในเขตพื้นที่อื่นๆ ก็มีผู้ที่จะฟ้องกลับเช่นนี้เหมือนกัน จึงรู้สึกเป็นห่วงผู้อำนวยการโรงเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการออกข้อสอบ หรือการจัดสอบ แต่ต้องมาถูกฟ้องด้วย เพราะเป็นผู้ใช้อำนาจสั่งเพิกถอนโดยตรง ดังนั้นตนจึงขอให้ ก.ค.ศ. และ สพฐ. เข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะยังเหลือผู้ที่ถูกเพิกถอนบรรจุครูผู้ช่วยอีกจำนวนมากในจำนวน 344 ราย เตรียมที่จะฟ้องกลับเหมือนกัน
 
เหอะๆ


บ่าวรัฐ

ตอบกระทู้เมื่อ
18 มิ.ย. 2556
  ความคิดเห็นที่ 13
เก็บข่าวนี้ไว้ติดตามดีกว่า
 
 ดร.ประแสง มงคลศิริ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนป่าตาล และโรงเรียนกอสะเลียม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน และ 120 คน ซึ่งในปีการศึกษา 2555 ทั้ง 2 โรงเรียน ได้ทดลองควบรวมกันเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพและการบริหารจัดการ แต่จากการตรวจเยี่ยมทำให้ทราบว่าในปีการศึกษา 2556 ทั้ง 2 โรงเรียนไม่ได้ควบรวมกันแล้ว ถ้าพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็คือหย่าร้างกันเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากชุมชนของทั้ง 2 โรงเรียนไม่ต้องการให้มีการควบรวมกัน เพราะผู้ปกครองจากโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีเด็กมากกว่าไม่ต้องการให้ลูกหลาน ต้องเดินทางไปเรียนในโรงเรียนที่มีจำนวนเด็กน้อยกว่า และในเชิงการบริหารผู้บริหารของทั้ง 2 โรงเรียนก็มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารโรงเรียนยังมองว่าตัวเองอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเมื่อเด็กป.1-3 ที่เรียนในโรงเรียนเดิม หากย้ายมาเรียนป.4-6 ในอีกโรงเรียนหนึ่ง ถ้าเด็กกลุ่มนี้ทำคะแนนไม่ดี ก็อาจมีผลเสียกับผู้บริหารโรงเรียน เมื่อสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เข้ามาประเมิน อีกทั้งสมศ.ยังใช้เกณฑ์ประเมินผลเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กคงจะสู้โรงเรียนขนาดใหญ่ได้ยาก ที่สำคัญโรงเรียนที่มีเด็กมากกว่าจะต้องเกลี่ยทรัพยากรต่างๆเข้าไปอุ้มโรงเรียนที่มีเด็กน้อยกว่า ซึ่งกรณีต่างๆ เหล่านี้ยังเป็นความคลางแคลงใจของผู้ปกครองโรงเรียนที่มีเด็กเยอะกว่า จึงมีการจัดประชุมประชาคมผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษา และในที่สุดก็เห็นสมควรให้หย่าขาดทั้ง 2 โรงเรียนออกจากกัน
เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังพบว่าโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหากับโรงเรียนขนาดเล็กมากขึ้น เพราะโรงเรียนในสังกัด อปท.นับวันจะขยายมากขึ้น โดยเริ่มจากศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียน จนทุกวันนี้ขยายถึงระดับประถมศึกษา ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือเกิดการแย่งชิงตัวป้อน คือ เด็กที่จะเข้าเรียนกับโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำให้ขณะนี้หลายโรงเรียนพยายามรักษาจำนวนเด็กให้เกินเกณฑ์ของโรงเรียนขนาดเล็ก ด้วยการไปดึงเด็กไร้สัญชาติเข้ามาเรียนแทน ซึ่งเราเองก็ยังไม่มีมาตรการรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้
“โมเดลต่างๆ ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเฉพาะการยุบรวมโรงเรียนเข้าด้วยกัน ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทั้งหมด และที่ผ่านมาสพฐ.ก็ไม่เคยพูดถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้น หากผมไม่ไปตรวจเยี่ยมแบบนี้ก็คงไม่รู้ข้อเท็จจริง และเชื่อว่าปรากฏการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่ ซึ่งก็มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว ดังนั้นผมจะสรุปข้อมูลรายงานให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ได้ทราบ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือโรงเรียนที่ไม่สามารถควบรวมเข้าด้วยกันได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพการศึกษา” ดร.ประแสง กล่าว
 
คนเก่งเมืองไทยยังมีเยอะแยะ แต่ส่วนใหญ่จะถนัดการคุ้ยหาปัญหา แต่ไม่ถนัดกำจัดเหมือนเทศบาลเก็บขยะไปกองทิ้งกลางเมือง  ขอเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจส่งความเห็นที่มีประโยชน์ลงกล่องความคิดเห็นแห่งชาติครับ


สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved