Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14020939  

กระดานแสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ    

K.Chang

ตั้งกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ดัชนีชี้ชนวน

    
บิ๊กจิ๋ว เปิดใจไทยรัฐ เชื่อความขัดแย้งใกล้สุกงอม 2 ฝ่ายสะสมกำลังพล ใกล้ถึงการต่อสู้ถึงขั้นแตกหักครั้งใหญ่แบบสงครามกลางเมือง จะสร้างความหายนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์...บรรยากาศการเมืองเขม็งเกลียวหนักขึ้นทุกที เมื่อสัปดาห์นี้ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดประชุมไต่สวนฝ่ายผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง หรือพิจารณาคำร้องพร้อมมีคำวินิจฉัยทันทีโดยไม่ต้องไต่สวนในคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขัดต่อรัฐธรรมนูญเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาแล้ว มีวัตถุประสงค์นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549 ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ถ้วนหน้า แต่คนเสื้อแดงคัดค้านที่จะไปนิรโทษกรรมคนฆ่าประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เห็นด้วย เพราะเปิดช่องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศอย่างไร้มลทิน สถานการณ์ความขัดแย้งจะพัฒนาลื่นไหลไปถึงจุดไหน เริ่มต้นติดตามนับตั้งแต่วินาทีนี้ กับอดีตนายกฯ มีผลงานอันลือชื่อแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองด้วยนโยบาย 66/33 สร้างความเป็นปึกแผ่นให้ประเทศ ถนัดงานด้านความมั่นคง “ขงเบ้งแห่งกองทัพไทย” ฉายาของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในวัยครบรอบ 81 ปี ดีกรีเป็นผู้ใหญ่ใกล้ชิดระดับบิ๊กทั้งสองขั้วอำนาจ เคยอาสาเป็นโซ่ข้อกลางไกล่เกลี่ยคู่ขัดแย้ง แม้แท้งไปไม่เป็นท่า มาวันนี้ “พล.อ.ชวลิต” เสนอทางออกให้ประเทศอีกครั้ง โดยกล่าวกับ “ทีมข่าวการเมือง” พร้อมฉายภาพประเทศไทยเปรียบเป็นขวานทอง 14 จังหวัดภาคใต้เป็นขวานทองด้ามเพชร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเพชรเม็ดใหญ่ ต้องนำความสงบสันติสุขกลับมาและการพัฒนา ถ้าไม่มีสันติก็ไม่มีการพัฒนา ที่ผ่านมาไม่เคยพูดว่า “นครรัฐปัตตานี”
(การแบ่งแยกดินแดน) ผมจะบอกเฉพาะ “นครปัตตานี” “มหานครปัตตานี” ส่วนจะเป็นอย่างไรต้องไปถามประชาชนในพื้นที่ให้มีส่วนร่วม ปัญหาความไม่สงบน่าจะจบได้ดี ไม่อยากให้มองปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาเฉพาะภาคใต้ ปัญหานี้เป็นภาพสะท้อนของชาติ ต้องมองเป็นภาพใหญ่ทั้งประเทศจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นในโลกยุคเป็นหนึ่งเดียว เกิดอะไรขึ้นที่ไหนปุ๊บปั๊บอ่านความรู้ถึงกันหมด จะไปเกิดที่ จ.เชียงใหม่ แม่สอด ภูเก็ต สังเกตที่ จ.เชียงใหม่มีการประชุมหารือกัน มีร่างหลุดออกมาคนก็มาด่าเราหาว่าไปชี้แนะ เขารู้อยู่แล้วจะไปอย่างนี้ แบบอาหรับสปริงอำนาจเป็นของประชาชน วันนี้เรามัวไปยุ่งเรื่องอำนาจประชาธิปไตยโดยประชาชน จึงเกิดเป็นลัทธิรัฐธรรมนูญ จะต้องสร้างรัฐธรรมนูญที่ดีถึงจะสร้างประชาธิปไตยได้ เสื้อแดง เสื้อเหลืองก็ต้องการประชาธิปไตย ผู้นำมวลชนทั้งหมดไปอยู่ในสภา ต่อสู้กันมา 80 กว่าปีเพื่อต้องการประชาธิปไตยด้วยวิธีเดียวคือสร้างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย จึงเกิดปรากฏการณ์ร่ำรวยรัฐธรรมนูญ แต่ยากจนประชาธิปไตย เลือกตั้งผ่านไประยะหนึ่ง มีการโกงกิน คนยากจน ไม่เป็นประชาธิปไตย ทหารก็ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 18 ฉีก 18 ร่างแล้ว ขณะนี้กำลังถกเถียงยกร่างฉบับที่ 19 ชนิดเอาเป็นเอาตาย ทุกคนกลัวกันหมด ถามว่ายกร่างกันเพื่อจะไปฉีกใช่หรือไม่ ก็ช่วยกันบอกหน่อยว่าไหนๆจะยกร่างแล้วก็ยกร่างฉบับที่ 19 และฉบับที่ 20 ไปเลย “เพราะเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างประชาธิปไตย เป็นเพียงตัวบันทึกการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากประชาชน หรือพี่น้องเสื้อแดง หรือพี่น้องเสื้อเหลืองไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่เป็นอำนาจรัฐสูงสุด หรือไม่ได้เป็นเจ้าของผลประโยชน์ของชาติ อำนาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อยหรือเป็นระบอบเผด็จการรัฐสภา ที่ยังคงกดขี่ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชนส่วนใหญ่ต่อไปไม่รู้จบ แม้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้แก้ไขการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย เราก็จะมีรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย แต่การปกครองเป็นระบอบเผด็จการรัฐสภาอยู่เช่นเดิม ประชาชนยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือและเป็นเหยื่อรักษาและสังเวยให้แก่ระบอบเผด็จการรัฐสภาตลอดไป เพราะระบอบเผด็จการรัฐสภาจะทำให้เกิดการหลอกลวงประชาชนว่า ให้ประชาชนได้ทุกอย่างยกเว้นแต่อำนาจเท่านั้น การรักษาอำนาจไว้ในกำมือของเผด็จการรัฐสภาได้แนบเนียนแยบยลที่สุด คือ หลอกประชาชนว่าอำนาจเป็นของประชาชนแล้ว หรือเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้วดังเช่นปัจจุบันนี้เอง” ตรงนี้เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งที่ “พล.อ.ชวลิต” ระบุไว้ในหนังสือปกขาว เรื่อง “วิกฤตการณ์ศาลรัฐธรรมนูญ...ล่มสลายเผด็จการรัฐสภา” “ปัญหารัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมาตรการแก้ไข” ออกมาในจังหวะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับเรื่องที่มีประชาชนยื่นคำร้อง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมีคำสั่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติรอลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ในวาระที่ 3
ในหนังสือปกขาวของ  “พล.อ.ชวลิต”  ยังระบุไว้ด้วยว่า ปรากฏการณ์ในช่วงนั้นที่เริ่มจะมี “ม็อบชนม็อบ” ทำให้ต่างฝ่ายต่างเร่งระดมสรรพกำลังทั้งประเทศมาแสดงกำลังกันขนาดใหญ่ และขยายวงออกไปอย่างกว้างขวางในทุกกลุ่มการเมือง ทุกพรรค การเมือง รวมถึงข้า– ราชการ ทหาร ตำรวจบางส่วนเพื่อมุ่งไปสู่การต่อสู้ขั้นแตกหักครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้ นี่คือการส่งสัญญาณว่า “สงครามกลางเมือง” (Civil War) ใกล้ปะทุขึ้นแล้วจะรุนแรงก่อความวิบัติหายนะกว่าแต่ก่อนหลายเท่านัก“พล.อ.ชวลิต” กล่าวกับ “ทีมข่าวการเมือง” ถึงทางออกของประเทศว่า ต้องสร้างประชาธิปไตย ใครก็ได้ขึ้นมาแล้วสร้างประชาธิปไตย โดยยึดหลักคือ 1.อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่คนกลุ่มหนึ่งใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของมันเอง ประชาชนถึงยังยากจนอยู่ ข้อนี้สำคัญที่สุด จะต้องดำเนินการก่อน 2.เสรีภาพของบุคคล 3.ความเสมอภาค 4.หลักนิติธรรม และ 5.การเลือกตั้ง ต้องเกิดขึ้นลำดับสุดท้าย "สมัยผมเป็น รมว.มหาดไทย รัฐบาลคุณชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มีการกระจายอำนาจโดยออกกฎหมายตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อฝึกประชาชนให้เป็นประชาชน และกระทรวงมหาดไทยขยับขึ้นมาคุมกลุ่มจังหวัด ตอนนั้นแบ่งเป็น 11 กลุ่ม พอผมออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทยก็มาแบ่งออกเป็น 18 กลุ่มจังหวัด ทำไปทำมาหายไปหมด กลายเป็นรวมศูนย์อำนาจ ไม่แก้ปัญหาเรื่องประชาธิปไตยปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองแก้โดยการสร้างประชาธิปไตยตามลำดับ 5 ข้อที่เสนอไป วิธีการพัฒนาประชาธิปไตยควรศึกษาสมัยก่อนปี 2475 แต่หลังปี 2475 เป็นการศึกษาประชาธิปไตยในเรื่องรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว ซึ่งมันไม่ได้อะไร รัฐธรรมนูญก็สำคัญ แต่ไม่ใช่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย ก่อให้เกิดความขัดแย้งมาตลอด"

“ทีมข่าวการเมือง” ว่าขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องนิรโทษกรรมหรือยัง “พล.อ.ชวลิต” ตอบว่า เลิกแล้วต่อกัน จับมือกันใหม่จะได้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนใหญ่อยากจะปรองดองก็ปรองดอง ไม่ต้องไปมีหลักการมากมาย ก่ายกอง นิรโทษกรรมก็ทำไปโดยไม่ต้องไปเขียนร่าง อยากปรองดองก็ปรองดองกันเลย คนไทยมันต้องอย่างนี้ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ เชื่อเถอะไม่มีอะไร จบ แต่หากจะตีกันก็เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เหลือ ให้มันฟัดกันไป จะฆ่ากันตายหรือจะแบ่งประเทศว่ากันไปเลย แต่พวกเรายังอยู่ เชื่อเถอะจะยอมให้แบ่งได้อย่างไรกลไกตุลาการภิวัฒน์ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยน จุดนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร ตลอดการให้สัมภาษณ์ “พล.อ.ชวลิต” พยายามพูดโดยไม่แตะต้องตัวบุคคล แต่เน้นพูดถึงเฉพาะโครงสร้างประเทศไทย คำถาม นี้ก็เน้นว่า อย่าไปสนใจเรื่องนี้ต้องเอาปัญหาหลักของประเทศ โดยสร้าง ประชาธิปไตยคือคำตอบสุดท้ายคือมหาชน ความขัดแย้งทางการเมือง สุดท้ายต้องให้กองทัพเข้ามาปฏิวัติอีก “พล.อ.ชวลิต” บอกว่า นี่เป็นประวัติศาสตร์มันจะกลับมาครบวงรอบแล้ว รุนแรง รุนแรงขึ้น อันนี้เป็นประวัติศาสตร์ แต่ทางวิทยาศาสตร์มี 3 สถาบันที่แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง คือ
1.สถาบันพระมหากษัตริย์
2.สถาบันทหาร แก้มา 30-40 ปีแล้วก็ไม่สำเร็จ
3.สถาบันพรรคการเมือง มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ที่ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เพราะประชาชนยังยากจนอยู่ ฉะนั้นต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน ถ้าไม่ยอมแก้ สถาบันที่ 4 ประชาชนจะลุกขึ้นแบบออโตเมติก เมื่อประชาชนไม่มีอำนาจ มันต้องต่อสู้กันแรง ฉะนั้นถ้า 3 สถาบันไม่มีใครแก้ ก็ใกล้ครบวงรอบประวัติศาสตร์“ทีมข่าวการเมือง” ถามว่ามีโอกาสเกิดสงครามมวลชนปะทะกัน “พล.อ.ชวลิต” บอกว่า “มันต้องเป็นอย่างนั้น จะกลับมาอีก เพราะขัดแย้งกัน คนสองฝ่ายสะสมกำลังกันอุตลุด...สถาบันทหารที่มีอำนาจมีหน้าที่ในการออกมาจัดการตามปกติ แต่ออกมาไม่ถูกสักที ก็เลยบอกว่าอย่าออกเลย มีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 ก็จะแย่อยู่แล้ว ยังจะมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 19 อีก ไม่ไหว ปล่อยให้คนอื่นทำผิดบ้าง
 
ที่มา : http://www.thairath.co.th


ครูพันธุ์แท้

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 1

ขวานไทยใจหนึ่งเดียว



Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 2
ทางออกของประเทศ ต้องสร้างประชาธิปไตย ใครก็ได้ขึ้นมาแล้วสร้างประชาธิปไตย โดยยึดหลักคือ
1.อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่คนกลุ่มหนึ่งใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของมันเองประชาชนถึงยังยากจนอยู่ ข้อนี้สำคัญที่สุด จะต้องดำเนินการก่อน
2.เสรีภาพของบุคคล
3.ความเสมอภาค
4.หลักนิติธรรม และ
5.การเลือกตั้ง
 
พายเรือในอ่างแท้ๆเลย มีข้อไหนบ้างที่รัฐยังไม่ได้พยายามทำ
ถึงวันนี้ ประเทศไทยก็ติดปลัก ร่ำรวยรัฐธรรมนูญ แต่ยากจนประชาธิปไตย จริงด้วย


ตะแหน่ว

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 3

ท่านขงเบ้งกำลังให้ข้อเสนอแนะ ปรามหรือกระตุ้นกันแน่ หางเสียงที่รอดมาจากฟัน"อย่าออกมาเลย"นั่นจริงใจหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผลไม้รวมมันสุกงอมเกินกว่าจะเอาไปดองแล้วจริง ท่านหายไปกบดานตีขิมอยู่ไหนมา วัย 80 ของท่านกับราคาคุยว่าใกล้ชิดบิ๊กทั้งสองขั้วทำได้แค่พยากรณ์แล้วหลบเข้าถ้ำปล่อยปัญหาไว้กับประโยคทิ้งท้าย ปล่อยให้คนอื่นทำผิดบ้าง  ไม่สวยมั้ง เกรงใจบรรพบุรุษ  



K.Pim

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 4
คนชั่วได้ชัยชนะ เพราะคนดีนิ่งดูดาย วาทะของใครนะตะนอย
 


k.juy

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 5
คนชั่วได้ชัยชนะ เพราะคนดีนิ่งดูดาย?
คนดีศรีอยุธยากำลังดูดาวกับขงเบ้งบนหอดูดาวของนาซ่า เหอะๆ
แม้แต่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพยากรณ์อนาคตโลกกลมๆนี่ได้เลย
อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ชั่วพลิกลิ้น
เตรียมตัวเตรียมใจรับอะไรที่มันจะมาถึงดีกว่า
..เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง..
 
 


บัวบก

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 6
อยากอ่านหนังสือปกขาว ของพล.เอก ชวลิต
ใครมีส่งมาให้อ่านหน่อย
แผนเขาโปรโมทหนังสือหรือเปล่าล่ะนี่


บ่าวรัฐ

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 7
ข่าวครั้งสุดท้ายว่าท่านป่วยด้วยอัลไซเมอร์
สมัยหนึ่งหนังสือปกขาวมันหมายถึงหนังสือโป๊
"รัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างประชาธิปไตย
เป็นเพียงตัวบันทึกการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย"
ท่านกำลังย้อนประวัติศาสตร์ ท่านเขียนหนังสือโป๊


สปศ.

ตอบกระทู้เมื่อ
27 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 8
โลกสีขาว ของ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
โดย บิสิเนสไทย [12-7-2004]

ชื่อหนังสือโลกสีขาว แต่พื้นของหน้าปกกลับเป็นสีแดง
รวบรวมประวัติและผลงานของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ครบรอบ 72 ปี เมื่อ 15 พ.ค. 47 ก่อนประกาศล้างมือจากทุกตำแหน่ง

ผลงานเขียนและเรียบเรียงของบุญกรม ดงบังสถาน อดีตนักข่าวสายทหารที่คลุกคลีกับ “บิ๊กจิ๋ว” มานานค่อนชีวิต ผลงานฮือฮายุคฟองสบู่แตก ครั้ง “บิ๊กจิ๋ว” เป็นนายกฯ หลายคนคงจำได้กับการลอยตัว“ค่าเงินบาททำให้เศรษฐกิจทรุดจนต้องเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ อย่างสะบักสะบอม ก่อนจะมาล้างหนี้หมดในยุค “ทักษิณ” หนังสือเล่มนี้มีรายละเอียด อ่านแล้วมองเห็นภาพ ที่สำคัญ ยังยกตัวอย่างกรณีเดียวกันเมื่อ  พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ ประกาศ “ลดค่า”เงินบาทมาเปรียบเทียบ โดย ขณะนั้น “บิ๊กจิ๋ว” เป็นนายทหารที่ได้รับความไว้วางใจจาก “ป๋าเปรม” มากที่สุด และอยู่เบื้องหลังการ “ลดค่า” เงินทุกขั้นตอน
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขียนคำนิยมว่า

พี่จิ๋วเป็นคนเก่ง ได้รับฉายาขงเบ้งของ กองทัพ ถนอมน้ำใจผู้คน ไม่ทำร้ายจิตใจใคร ท่านจะมองโลกในแง่ดีเสมอ โลกของพี่จิ๋วจึงเป็นโลกของความดีงาม เป็นโลกสีขาวที่ไม่มีปัญหาและน่าอยู่”


Resource:
http://www.businessthai.co.th/content.php?data=408339_VIP%20Varieties


ครูทะเล

ตอบกระทู้เมื่อ
28 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 9
หนังสือปกขาวของพล.อ.ชวลิต คงเป็นหนังสือแจกไม่มีวางขายทั่วไปในในร้านสะดวกซื้อหรือแผงหนังสือครับ เนื่องในครบรอบ 81 ปีั่นละมัง 
ประวัติศาสตร์ไม่ได้มีไว้ให้ซ้ำรอย มีไว้ให้ค้นหาคำตอบต่างหาก และถ้าค้นกันอีกรอบเราจะเห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เคยทอดทิ้งแผ่นดินไทยเลย เจริญสัมพันธ์ไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านกันมาตลอด ส่งส่วยรับส่วยกันมาเป็นทอดๆทุกยุคทุกสมัย


witjung

ตอบกระทู้เมื่อ
28 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 10
การรักษาอำนาจไว้ในกำมือของเผด็จการรัฐสภาได้แนบเนียนแยบยลที่สุด คือ หลอกประชาชนว่าอำนาจเป็นของประชาชนแล้ว

สุดยอดวาทะหรือเปล่าตะนอย


Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
28 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 11
วิดจัง
หน้านี้โหวตให้วาทะประเทศไทย
ร่ำรวยรัฐธรรมนูญ แต่ยากจนประชาธิปไตย ไปแล้วนิ
โหวตแล้วโหวตอีกผิดกติกา แต่ชอบเนอะ ชอบ ผิดเป็นชอบหรือเปล่า
การรักษาอำนาจไว้ในกำมือของเผด็จการรัฐสภาได้แนบเนียนแยบยลที่สุด คือ หลอกประชาชนว่าอำนาจเป็นของประชาชนแล้ว เหนื่อย!

อันนี้ก็สุดยอดกว่า 
สถาบันทหารที่มีอำนาจมีหน้าที่ในการออกมาจัดการตามปกติ แต่ออกมาไม่ถูกสักที ก็เลยบอกว่าอย่าออกเลย         555++



พี่จิ๋วเป็นคนเก่ง ได้รับฉายาขงเบ้งของ กองทัพ ถนอมน้ำใจผู้คน ไม่ทำร้ายจิตใจใคร ท่านจะมองโลกในแง่ดีเสมอ โลกของพี่จิ๋วจึงเป็นโลกของความดีงาม เป็นโลกสีขาวที่ไม่มีปัญหาและน่าอยู่”าทะจากโลกสีขาวปกสีแดง

ฟังเพลงดีกว่า

 ..ขวานที่ไม่มีด้ามนำไปใช้ย่อมไร้พลัง...

..ลูกเอยหลานเอยรวมไทย  มาสร้างขวัญวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว




เรือกระดาษ

ตอบกระทู้เมื่อ
29 พ.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 12
คำถามนี้มีคำตอบแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลย
ขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องนิรโทษกรรมหรือยัง?
“พล.อ.ชวลิต” ตอบว่า เลิกแล้วต่อกัน จับมือกันใหม่จะได้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนใหญ่อยากจะปรองดองก็ปรองดอง ไม่ต้องไปมีหลักการมากมาย ก่ายกอง นิรโทษกรรมก็ทำไปโดยไม่ต้องไปเขียนร่าง อยากปรองดองก็ปรองดองกันเลย คนไทยมันต้องอย่างนี้ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ เชื่อเถอะไม่มีอะไร จบ แต่หากจะตีกันก็เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เหลือ ให้มันฟัดกันไป จะฆ่ากันตายหรือจะแบ่งประเทศว่ากันไปเลย แต่พวกเรายังอยู่ เชื่อเถอะจะยอมให้แบ่งได้อย่างไรกลไกตุลาการภิวัฒน์ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยน
 
เพลงนี้เพราะดี
..ขวานที่ไม่มีด้ามนำไปใช้ย่อมไร้พลัง...คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง..
..ลูกเอยหลานเอยรวมไทย มาสร้างขวัญวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว..


สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved