Neric-Club.Com
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14328321  

กระดานแสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ    

ADMIN

ตั้งกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  เชิญชวนทุกฝ่ายหาทางออกประเทศ
 
 
ยิ่งลักษณ์" แถลงออกทีวี ย้ำแนวคิดสภาปฏิรูปจ่อเชิญทุกฝ่ายหาทางออกประเทศ ชี้จำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ อ้างมีบุคคลบางกลุ่มมีท่าทีไม่ยอมรับประชาธิปไตย เพื่อนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และใช้ความรุนแรง.
 
เมื่อเวลาประมาณ 20.15 น. วันที่ 2 ส.ค. มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงออกอากาศทางโทรทัศน์ ใจความสำคัญดังที่มีการเผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนี้ วันนี้ ดิฉันขอรบกวนเวลาของพี่น้องประชาชน  เพื่อจะได้มีโอกาสอธิบายถึงความคิดและแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินการ  อันเป็นไปตามแนวนโยบายที่ได้แถลงไว้กับพี่น้องประชาชน  ตั้งแต่ที่ดิฉันได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้ได้เข้ามาทำงานเมื่อ 2  ปีที่แล้วดิฉันตระหนักเสมอว่าที่พี่น้อประชาชนได้ให้ความไว้วางใจกับดิฉันและพรรคเพื่อไทยนั้นคือการที่ พี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ต้องการเห็นความสงบ สันติ  และความปรองดองเกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อที่ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  ดิฉันและรัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อให้เกิดการปรองดองขึ้นในชาติด้วยความพยายาม  อย่างจริงใจที่จะเดินหน้า อดทน ไม่ตอบโต้  เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง สร้างสรรค์และความไว้วางใจ รวมทั้ง  การเปิดพื้นที่ให้กับทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง และรัฐบาลพร้อมที่จะประนีประนอมกับทุกฝ่าย  และพยายามผลักดันให้มีการใช้เวทีรัฐสภามากกว่า  ท้องถนนในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง  แต่ในขณะเดียวกันดิฉันก็เข้าใจ เช่นกันว่า ความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่อง  เราจะคาดหวังให้เกิดความปรองดองที่แท้จริงนั้น  ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งทุกคนก็เห็นแล้วว่าในบางช่วงเวลา  มีความขัดแย้งปะทุขึ้นจนเป็นเหตุแห่งความรุนแรง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ใดๆ  ต่อสาธารณชน สังคมและเศรษฐกิจโดยรวมเลย ที่น่าเสียใจที่สุดคือ  การที่มีบุคคลบางกลุ่มต้องการการเคลื่อนไหวบนท้องถนน  ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ  แต่การแสดงออกกลับมีท่าทีที่ไม่ยอมรับกติกาของประชาธิปไตย มีการยั่วยุ  กระตุ้นเพื่อนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และใช้ความรุนแรง  ภายใต้สภาวะดังกล่าว รัฐบาลจึงจำเป็นต้องปกป้องและรักษาระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ทั้งตต้องป้องกันเหตุร้ายและความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้ง  คุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ราชการ และเอกชนทั่วไป  ตลอดจนผู้ชุมนุม  ที่สำคัญคือเป็นการดูแลให้ผู้ที่ใช้สิทธิและเสรีภาพอยู่ในกรอบกติกา  ประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมา  คณะรัฐมนตรีจึงมีมติประกาศใช้มาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ ดิฉันขอยืนยันว่า ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้ จะมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร  แต่ดิฉันเชื่อเสมอว่าในระบอบประชาธิปไตย  ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่และต้องให้เกียรติและรับฟังเสียงส่วนน้อยควบคู่กันไป  เพราะประชาธิปไตยเป็นของทุกคน  ไม่ใช้เป็นของเฉพาะผู้ประสบชัยชนะทางการเมืองจากการเลือกตั้ง  โดยการคงกติกาการรักษาความเสมอภาคและเท่าเทียมกันแก่ทุกคน ดังนั้น  จึงเห็นได้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง  และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา  ตลอดจนยังดำเนินการที่จะรับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ  อย่างเช่นจากโครงการประชาเสวนาในการหาทางออกของประเทศ  ทั้งในประเด็นแนวทางการปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ  หรือการเสนอพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาค  และการรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ นิติธรรม  ที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลทั่วโลกยอมรับ  ภายใต้ความพยายามทั้งหมดนี้  ดิฉันเข้าใจดีว่าหลายกลุ่มหลายฝ่ายยังมีปัญหาที่ค้างคาใจอยู่  และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะมีความเชื่อที่แตกต่างไม่ลงรอยกัน  แต่ดิฉันเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในขณะนี้  ในฐานะเพื่อนร่วมชาติที่ต่างต้องการเห็นลูกหลานของเราทุกคนมีความสุข  อยู่ในสังคมที่มีความสงบและมีความมั่นคงทางการเมืองและความก้าวหน้าทาง  เศรษฐกิจ ซึ่งเราจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ  เหล่านี้ให้บรรลุความสำเร็จ หลายคนบอกกับดิฉันว่า  สิ่งที่ดิฉันคิดนั้นคงไม่มีวันเป็นไปได้  แต่ดิฉันกลับมีความเห็นในทางตรงกันข้าม โดยมองว่าทุกครั้งที่มีปัญหา  เราต้องมองให้เป็นโอกาส เพราะเมื่อครั้งที่เกิดมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554  ดิฉันได้เห็นความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคนในการที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและ กัน ร่วมกันแก้ปัญหา จนในที่สุดเราสามารถที่จะฟันฝ่าอุปสรรค  และหยุดยั้งภัยพิบัตินั้นไว้ได้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ ดิฉันอยากให้คนไทยกลับไปคิดถึงความรู้สึกดีๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว 
ถึงแม้จะเป็นสถานการณ์ แต่คนไทยทุกคนได้แสดงให้เห็นว่า  ไม่ว่าจะเสื้อสีใด ชนชั้นใด หากเรารวมตัวกัน สมัครสมานสามัคคีกัน  เราจะสามารถแก้ปัญหาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้  สำหรับภายใต้ภาวะปัจจุบัน ที่มีความสับสนทางการเมืองเกิดขึ้นอีกครั้งในขณะนี้  และหลายคนกังวลว่าความขัดแย้งจะบานปลาย เกิดความไม่สบายใจ ดังนั้น  ดิฉันจึงขอเสนอแนวทางเพื่อหาทางออกให้กับประเทศอย่างยั่งยืน  โดยการวางทิศทางข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ มีส่วนร่วม  ทิ้งความขัดแย้งไว้ในใจเพื่อประเทศของเรา โดยเปิดเวทีการระดมความคิดเห็น  ที่จะขอเชิญชวนตัวแทนจากกลุ่มบุคคลทั้งฝ่ายรัฐบาล พรรคการเมือง  แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ เอกชน  และนักวิชาการ มาร่วมโต๊ะพูดคุย ออกแบบประชาธิปไตยของประเทศไทย  เพื่อหาทางออกให้กับอนาคตของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย  และเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ  โดยในสัปดาห์หน้า  รัฐบาลจะเชิญตัวแทนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง  และมีความเห็นที่หลากหลายในมุมมองให้มาหารือร่วมกัน  และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ร่วมกันคิดว่าเราจะวางอนาคตบ้านเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน  อันจะเป็นพื้นฐานของความร่วมมือในการพัฒนาชาติ สร้างความไว้วางใจ  และความเปลี่ยนแปลงที่ออกจากวงจรแห่งความขัดแย้ง ดิฉันต้องการเห็นบรรยากาศของความร่วมมือ ไม่ใช่การจ้องจับผิด  แต่การเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ละเว้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  และเมื่อหารือกันแล้ว ดิฉัน ใคร่เสนอให้มีการวางกลไกที่ชัดเจน  ซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของคณะทำงานหรือเรียกชื่ออื่นตามความเหมาะสมเพื่อเป็น กลไกที่ทำหน้าที่ในการปฏิรูปทางการเมือง  โดยกลไกดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญในการวางรากฐานอนาคตในโครงสร้างทางการเมือง  กำหนดแนวทางปฏิรูปกฎหมาย  และวางพื้นฐานระบบการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง ยั่งยืน 
 
   ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจถึงความปรารถนาดีของดิฉันในครั้งนี้  และวันนี้ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะให้ทุกท่านลืมอดีต  แต่เราต้องนำอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน เพื่อทำให้ประเทศของเราเดินหน้า  ก้าวพ้นความขัดแย้ง  เราต้องเปิดโอกาสให้เปลี่ยนจากความขัดแย้งมาเป็นบรรยากาศของความคิด สร้างสรรค์และไว้ใจกัน เพื่อเป็นการมุ่งสร้างระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม  เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าให้กับอนาคตลูกหลานของเรา  และไม่ควรทิ้งมรดกของความขัดแย้งให้เป็นภาระของรุ่นต่อไป


Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 1
 
มัลลิกา" ปูดข่าว คนตระกูล "ชินวัตร" วงศ์ญาติบินออกนอกประเทศ ชี้สัญญาณไม่ปกติ ด้าน ครม.เงา ปชป.มีมติจี้รัฐทบทวนก่อนสังคมแตกหัก ชี้รัฐใส่เกียร์ 5 วิ่งชนเป้าหมาย 100 ม.สุดท้ายทิ้ง ปชช.เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคฯ กล่าวว่า จากการที่ติดตามข้อมูลพบว่า หลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ กลับจากภารกิจที่ต่างประเทศ ได้มีการเตรียมการเดินทางไปต่างจังหวัดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะที่คนในตระกูลชินวัตร และวงศ์เครือญาตินายกรัฐมนตรี ก็เตรียมเดินทางไปต่างประเทศในระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. ยิ่งสะท้อนบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเป็นการปลุกเร้าสถานการณ์ความไม่ปกติ ส่วนที่ตำรวนครบาลประเมินว่า จะมีผู้ชุมนุมคัดค้านการเสนอร่างกฎหมายล้างผิดนี้ ราว 5,000 คน แต่กลับมีการเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ใช้กำลังตำรวจมากถึง 30,000 นาย ในการควบคุมผู้ชุมนุมนั้น มากกว่าที่จะใช้รักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุม จึงอยากให้นายกฯ ชี้แจงในเรื่องเหล่านี้ต่อสังคมด้วยด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมเป็นห่วงสถานการณ์การประชุมสภาที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1-10 ส.ค. 56 ที่รัฐบาลจะนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ และมีประชาชนออกมาชุมนุม เพราะรัฐบาลนี้ ไม่จัดลำดับความสำคัญของปัญหาหลักในชาติที่เกิดขึ้น ยิ่งในการประชุม ครม. ระบุจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อจัดการกับผู้ชุมนุม ถือเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนในการชุมนุมที่ถูกต้องตามกรอบกฎหมาย ทั้งที่ยังไม่ได้ชุมนุม ต่างจากกลุ่มเสื้อแดงที่ขณะนี้ได้ชุมนุมยึดพื้นที่หน้ารัฐสภา แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้กฎหมายสองมาตรฐานของรัฐบาล และขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายว่า อย่าใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีเช่นกัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนสิ่งที่ทำนายชวนนท์ กล่าวต่อว่า พรรคยินดีที่จะเข้าร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อหาคำตอบให้ทุกฝ่ายยอมรับในการนำไปสู่ความปรองดองที่แท้จริง หากรัฐบาลถอนร่างกฎหมายนิรโทษฯ ออกจากสภาฯ ทั้งหมด ทั้งที่ประชาชนครึ่งประเทศไม่เห็นด้วย รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาด้านสังคมเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาเฉพาะหน้า กรณีน้ำมันดิบรั่วในทะเลระยอง ที่บอกสามวันแก้ไขเสร็จแต่จะครบสัปดาห์แล้วปัญหาก็ยิ่งบานปลาย ไม่รวมปัญหาน้ำท่วมทั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเดินหน้าล้างผิดคนโกง คนผิดคดีอาญาเป็นเป้าหมายแรกและสุดท้ายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ใช้นโยบายประชานิยมหาเสียงจนชนะการเลือกตั้ง เหลือระยะร้อยเมตรสุดท้าย รัฐบาลใส่เกียร์ห้า ละทิ้งปัญหาทุกอย่าง โดยไม่สนใจประชาชนครึ่งประเทศ ที่ยืนขวางเส้นชัย โดยหลังจากการประชุม ส.ส.พรรคในบ่ายวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะนำ ส.ส.ของพรรค ร่วมเดินทางไปที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซอยอารีย์ เพื่อเดินทางไปร่วมปราศรัยที่เวทีเดินหน้าผ่าความจริง ที่บริเวณลานสกายวอล์กช่องนนทรี ในช่วงเย็นนี้ด้วย.


ครูทะเล

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 2
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาให้ข่าวว่าคนในครอบครัวชินวัตร และคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เหตุการณ์ส่อเค้ารุนแรง จากที่ได้สอบถาม ตรวจสอบ ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เป็นการให้ข่าวที่มั่ว เลอะเทอะ ไร้สาระ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน คนในครอบครัวชินวัตรไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีกำหนดลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามสถานการณ์น้ำมันรั่วทันทีที่กลับจากปฏิบัติภารกิจในแอฟริกา จึงไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองลักษณะกุข่าวเพื่อหวังผลควบคู่ไปกับการปลุกระดมประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล ถ้ามีหลักฐานให้นำมาแสดง อย่ากล่าวหาลอยๆ จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไฟเขียวให้ ส.ส.ของพรรคร่วมชุมนุม พร้อมปราศรัยปลุกระดมล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย เข้าลักษณะความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในสัปดาห์หน้า
 
อย่าเสนอข่าวหน้าเดียว เดี๋ยวเค้าไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง คนอ่านก็อย่าอ่านหน้าเดียวเหมือนกัน


K.TC

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 3

ครม.ไฟเขียวกฏเหล็ก สกัดม็อบ คุมเข้ม10วันอันตราย

ครม.ไฟเขียวงัด พ.ร.บ.มั่นคงฯ คุมม็อบ 10 วัน 3 เขตดุสิต-พระนคร-ป้อมปราบฯ อ้างป้องปราม-ยับยั้งเหตุการณ์ หวั่นมือที่ 3 ป่วน เน้นคุมเข้ม สภา-ทำเนียบ-เขตพระราชฐาน พร้อมผุดวอร์รูม “ศอ.รส.” จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด มอบ “อดุลย์” นำทีม สั่งระดม ตร. 224 กองร้อยวางกำลังคุมเข้ม ขณะที่ “ม็อบ อพส.” ไม่สนรัฐงัด พ.ร.บ.มั่นคงฯ ลั่นเดินหน้าชุมนุม 4 ส.ค.ต่อ เตรียมปรับแผนรับมือ กร้าว สู้ไม่ถอย ด้าน “แกนนำ พธม.” กั๊กเคลื่อนไหวร่วมม็อบ อพส. อ้างติดเงื่อนไขคำสั่งศาล ขอตัดสินตามสถานการณ์ แต่ประกาศจุดยืนต้าน กม.นิรโทษฯ พร้อมจี้ถอนทุกร่างพ้นสภาฯ ส่วน “สนธิ” เปลี่ยนไป ฝันเปลี่ยนแปลงการเมืองทั้งระบบ อ้างถึงคุ้มค่านำมวลชนลุกสู้ ถาม อพส.ล้มรัฐบาลชุดนี้ได้แล้วไง แค่เปลี่ยนพรรคการเมืองครองประเทศ ขณะที่ “ปชป.” อัดรัฐเหิมเกริม-ลุอำนาจ ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ พร่ำเพื่อ ชี้ยิ่งทำขัดแย้งยิ่งรุนแรง วอนถอนร่างนิรโทษฯ ดับไฟขัดแย้งก่อนลาม ด้าน “โจกแดง” นัดระดมพลแกนนำถกประเมินสถานการณ์ 3 ส.ค.นี้ วอนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้งหวั่นเข้าทางกลุ่มต้านหวังปะทะนองเลือด



k.juy

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 4
"การเดินหน้าของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมชี้ชัดว่าไม่ได้นำไปสู่การสร้างความปรองดองอย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้าง หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมคัดค้านของประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งสะท้อนว่ารัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องมากกว่าความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และชี้ชัดว่านายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งหากเกิดความเสียหาย นายกรัฐมนตรีจะเป็นบุคคลแรกที่ต้องเข้ามารับผิดชอบ จุดยืนของฝ่ายค้านคือการคัดค้านกฎหมายอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภา ซึ่งยืนยันว่าการเคลื่อนไหวเปิดเวทีผ่าความจริงเพื่อคัดค้านกฎหมายล้างผิดนั้น เป็นการดำเนินการที่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนด และถือเป็นหน้าที่ที่จะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแก่ประชาชนได้ จึงไม่กังวลกับกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมีการฟ้องร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะยุยงให้ประชาชนขัดขวางการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ สำหรับกรอบเวลาในการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม วิปฝ่ายค้านยังไม่มีการหารือว่าจะจัดสรรเวลากับวิปรัฐบาล แต่ยืนยันที่จะอภิปรายคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมถึงยังไม่ได้หารือถึงการกำหนดตัวบุคคลที่จะเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมาย
ปรองดองแต่ปาก (บทสัมภาษณ์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายแค้น)


บ่าวรัฐ

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 5

ปชป.สับนิรโทษไม่ปรองดอง

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า การที่รัฐบาลระบุว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะนำไปสู่ความปรองดองนั้น แค่นับหนึ่งก็ไม่จริงแล้ว เพราะรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ เท่ากับเป็นการชี้ชัดว่า หากสถานการณ์กำลังนำไปสู่ความปรองดองจริงนั้นแล้วรัฐบาลจะประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯ ไปทำไม รัฐบาลพยายามเดินหน้าทำเรื่องนี้เพราะคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องมากกว่าความสงบของบ้านเมือง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นคงไม่ได้ เพราะข่าวก็ปรากฏชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว รวมทั้งมีส่วนในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ด้วย เพียงแต่ไม่เข้าไปแสดงว่ามีส่วนร่วมโดยตรง ปัดว่าเป็นเรื่องของสภาฯ ดังนั้น คนที่ต้องรับผิดชอบเป็นคนแรกหากเกิดความเสียหายขึ้นก็คือนายกรัฐมนตรี



K.TC

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 6

“40 ส.ว.” จวกรัฐลุอำนาจงัด พ.ร.บ.มั่นคง

กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ในฐานะคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล ร่วมแถลงคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งอาจมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่เป็นไปตาม มาตรา 55 เนื่องจากการชุมนุมยังไม่เกิดขึ้น และยังไม่มีแนวโน้มว่า จะใช้เวลานาน ขณะเดียวกัน มีเพียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพียงหน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุม ดังนั้น ในวันที่ 8 ส.ค. คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นผู้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง พล.ต.อ.อดุลย์ เข้าชี้แจง อยากย้ำให้ประชาชนทราบว่า ประชาชนมีสิทธิ์ตาม มาตรา 63 ที่จะชุมนุมอย่างสงบโดยปราศจากอาวุธ ซึ่งจะต้องไม่ถูกจำกัดสิทธิ์ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกลิดรอนสิทธิ์ของรัฐบาล ย่อมมีสิทธิ์ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนการประกาศดังกล่าวได้



Krootanoi

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 7
"ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะให้ทุกท่านลืมอดีต  แต่เราต้องนำอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน เพื่อทำให้ประเทศของเราเดินหน้า  ก้าวพ้นความขัดแย้ง  เราต้องเปิดโอกาสให้เปลี่ยนจากความขัดแย้งมาเป็นบรรยากาศของความคิด สร้างสรรค์และไว้ใจกัน เพื่อเป็นการมุ่งสร้างระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม  เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าให้กับอนาคตลูกหลานของเรา  และไม่ควรทิ้งมรดกของความขัดแย้งให้เป็นภาระของรุ่นต่อไป"

 
สัปดาห์หน้า  รัฐบาลจะเชิญตัวแทนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง  และมีความเห็นที่หลากหลายในมุมมองให้มาหารือร่วมกัน  และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ร่วมกันคิดว่าเราจะวางอนาคตบ้านเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลานนะคะ ขอประชาชนอย่าได้กระดุกกระดิกเคลื่อนไหวนะคะ 


Mayjung

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 8
สำนวนดี อยากเห็นคนเขียนโพยเนอะ
ตะนอย สุดยอดวาทะบอร์ดนั้นว่าไงนะ
คนชั่วเหิมเกริมเพราะคนดีมัวตีขิมดูดาว ใช่มั้ย
ขงเบ้งรอดูดาวตกแล้วใครจะจุดพลุขึ้นฟ้า
ประเมินกันว่าชุมนุมโดยธรรมชาติจะไม่เกินหมื่น
แล้วทำไมเตรียมการยังกับจะเกิดสงครามกลางเมือง
เหอๆๆๆ


คลื่นใต้น้ำ

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 9

ยันควบคุมม็อบตามหลักสากล

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลหลังประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คือป้องกัน ปราบปราม และยับยั้ง ซึ่งในการใช้กำลังครั้งนี้มีการใช้กำลังจาก 2 ส่วน ส่วนแรกจำนวน 112 กองร้อย และส่วนที่สองอีก 112 กองร้อย แต่ในการใช้จริง คงใช้ไม่หมด จะดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนการใช้กำลังทหารก็เป็นไปตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะดูแลทั้ง 3 เขตที่มีการประกาศพื้นที่ความมั่นคงอย่างเข้มงวด ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษนั้น จะประกอบด้วย ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา โดยเฉพาะในส่วนของรัฐสภานั้น จะต้องมีหลักการว่า ต้องปลอดภัย เมื่อมีการบุกเข้าไปในสภา นอกจากนี้ ส.ส.และ ส.ว.จะต้องเข้า-ออกได้ด้วยความปลอดภัย สำหรับกำลังปราบจลาจล นั้นก็มีขั้นตอน และเป็นไปตามหลักสากล อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมที่เขาท้าทาย เป็นสิ่งที่มีการประเมินมาก่อนหน้านี้แล้ว เราจึงไม่ประมาท และบทเรียนในอดีตก็ถูกนำมาปรับแก้ไขในครั้งนี้ ส่วนกลุ่มมวลชนอาจไม่ฟังและต้องการบุกเข้าไปในรัฐสภานั้น จะมีการสกัดไม่ให้เข้า



ครูพันธุ์แท้

ตอบกระทู้เมื่อ
02 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 10
"ดิฉันเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในขณะนี้  ในฐานะเพื่อนร่วมชาติที่ต่างต้องการเห็นลูกหลานของเราทุกคนมีความสุข  อยู่ในสังคมที่มีความสงบและมีความมั่นคงทางการเมืองและความก้าวหน้าทาง  เศรษฐกิจ ซึ่งเราจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ  เหล่านี้ให้บรรลุความสำเร็จ หลายคนบอกกับดิฉันว่า  สิ่งที่ดิฉันคิดนั้นคงไม่มีวันเป็นไปได้  แต่ดิฉันกลับมีความเห็นในทางตรงกันข้าม โดยมองว่าทุกครั้งที่มีปัญหา  เราต้องมองให้เป็นโอกาส"
 
ประทับใจนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย เธอสวย สมาท กล้าหาญและน่าเห็นใจที่งานหนักเกินกำลัง( ) เราฃ่วยกันลุ้นดีกว่า เพราะทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ยังงมหากันไม่เจอ  สงสารประเทศไทยจริงจริง


Tanaew

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 11
รัฐบาลนี้ ไม่จัดลำดับความสำคัญของปัญหาหลักในชาติที่เกิดขึ้นเลยในการประชุม ครม. ระบุจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อจัดการกับผู้ชุมนุม ถือเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนในการชุมนุมที่ถูกต้องตามกรอบกฎหมาย ทั้งที่ยังไม่ได้ชุมนุม ต่างจากกลุ่มเสื้อแดงที่ขณะนี้ได้ชุมนุมยึดพื้นที่หน้ารัฐสภา แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้กฎหมายสองมาตรฐานของรัฐบาลขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายว่า อย่าใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีเช่นกัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนสิ่งที่ทำก่อนที่จะลุกลาม


คลื่นใต้น้ำ

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 12
เลขาฯ สมช.เผย “นาจิบ” นายกฯ มาเลเซีย ยกเลิกเดินทางร่วมละศีลอด ที่ จ.นราธิวาส แล้ว อ้างติดภารกิจสำคัญ ยันไม่เกี่ยวสถานการณ์ 3 จว.ชายแดนใต้ของไทย
ฟันธง! วางระเบิด 6 จุด ฝีมือวัยรุ่นต้านเจรจา


Big See

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 13
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 08.15 น. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 มอบหมายให้นายไพบูลย์ โคนทรงแสน ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมทบทวนเตรียมความพร้อมหลักสูตรยุทธวิธีป้องกัน และควบคุมการจลาจลของตำรวจรัฐสภา เพื่อป้องกันและเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา จำนวน 114 คน และให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลโดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการแบ่งฝ่ายทางการเมืองด้วยการใช้ความรุนแรงให้ได้มา ซึ่งอำนาจรัฐ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาต้องฝึกฝนให้มีความเชี่ยวชาญทั้ง ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้บุคคลสำคัญที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่และมั่นใจใน มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณรัฐสภา ทั้งนี้ งานดังกล่าวมีการเชิญวิทยากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาฝึกอบรมให้ตำรวจรัฐสภา
 
สภาฯ เพิ่งตื่นสั่งอบรมเข้ม "ตำรวจรัฐสภา" หวังเพิ่มมาตรฐานตำรวจรัฐสภาเทียบสากล อ้างการเมืองแบ่งแยกแรง...


nanfahthai

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 14

"ยิ่งลักษณ์" ถือโพยชิงเปิดเกม "วูแมนทัช" ออกแถลงการณ์เชิญทุกฝ่าย เสื้อทุกสี ร่วมโต๊ะ ออกแบบประชาธิปไตยในสัปดาห์หน้าภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่แท้แสแสร้ง ไฟแลบ! ตำหนิฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหวบนถนน ไม่ยอมรับกติกา ยั่วยุล้มล้างรัฐบาล ร้องหาปฏิวัติ

ปาหี่ตลบม็อบ!
 
 
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.), พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ในฐานะเลขาธิการ ศอ.รส., พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ในฐานะรอง ผบ.กองกำลัง, นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ออกประกาศคำสั่ง ศอ.รส. 3 ฉบับ พร้อมโชว์อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เช่น ปืนยิงกระสุนยาง, แก๊สน้ำตา และอุปกรณ์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ เพื่อรองรับการชุมนุมคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ในนามกลุ่ม "กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ"  รวมถึงกลุ่มแนวร่วมต่างๆ ในช่วงวันที่ 4-10 ส.ค


ขุนด้วยทอง

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 15
เมืองไทยเข้าสู่วิกฤติหน้าข้าว หน้าน้ำมัน ไม่ต้องตกใจไม่ใช่หน้าสิ่ว หน้าขวาน ไม่มีคม อย่างมากก็เปียกน้ำลาย มีบทความให้เข้าไปอ่านกัน อ่านแล้วคิดเอาเอง โตโตกันแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะเข้าสู่สังคมอาวุโสท่วมเมืองให้ผจญปัญหากันต่อไป ไปจับจองถ้ำตั้งสำนักอยู่กันดีกว่าพี่น้อง ปะเหมาะจะได้มีเจ็ทส่วนตัว  วาทะวันนี้ ใครเค้าจะเอากะเมิ้งง หุหุ
 


บ่าวรัฐ

ตอบกระทู้เมื่อ
03 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 16
ปชป.จวกเหวงใส่ร้ายม็อบ
 

นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษก หนึ่งในทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ วางแผนจับตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา และรองประธานสภาอีก 2 คน เพื่อไม่ให้มีการประชุมสภา ในวันที่ 7 ส.ค.นั้น เป็นการพูดแบบไม่อยู่กับร่องกับรอย หวังทำให้ประชาชนชนเข้าใจผิด เพราะถ้ามีคนที่คิดทำเช่นนั้นจริง รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้าในการจับกุมคนที่วางแผนได้อยู่แล้ว คงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทั้ง ผบ.ตร. ผบช.น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นบุคคลที่รัฐบาลสั่งให้ดำเนินการได้อยู่แล้ว ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ขู่ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ฐานปลุกระดม เป็นการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตยนั้นขอยืนยันว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการปลุกระดมในลักษณะที่เป็นการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย อยากฝากนายพร้อมพงศ์ ว่า หากจะยื่นยุบพรรคควรยื่นยุบพรรคเพื่อไทย เพราะตั้งแต่เป็นรัฐบาลมีเสียงข้างมากปฏิบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญแทบทั้งสิ้น ทั้งนี้ตนอยากเตือนว่าการใช้เสียงข้างมากในรัฐสภา ไม่เหนือไปกว่ารัฐธรรมนูญ จุดจบของการออกกฎหมายล้างผิดเป็นอย่างไรเสียงข้างมากทราบดี บ้านเมืองทุกวันนี้ที่วุ่นวายก็เพราะลูกน้องโจรจำเป็นต้องทำตามคำสั่งหัวหน้าโจร แล้วบ้านเมืองจะสงบได้อย่างไร



ไฮบริด

ตอบกระทู้เมื่อ
04 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 17
ประกาศคณะปะติดปะต่อให้คนเขียนสคริปวางอาวุธประจำตระกูล ชิน-นะ-วัด เข้ามอบตัวกับพรรคฝ่ายแค้นแล้วเข้าปฎิญานตนที่แกรนแคนยอน เพื่อรับตำแหน่งโคสกรัฐบานนน ในโอกาสเฉลิมฉลองสะไภ้ในม่านหมอกไอซิ่ง 5555555+++++
Go so big!


แววระยัม

ตอบกระทู้เมื่อ
04 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 18
แขวนนกหวีด
“ผมขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ปลุกระดมคนล้มรัฐบาล หากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จนประชาชนได้รับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ต้องรับผิดชอบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เป็นพาหะนำคนออกมา จะมาโยนให้เป็นความผิดรัฐบาลไม่ได้ ท่านต้องรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์ โทรศัพท์ลับ หรือโปรแกรมสนทนาไลน์ มายังรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ตลอด 24 ชั่วโมง”- นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ขึงผืดแกนนำปชป.!!!!


ครูทะเล

ตอบกระทู้เมื่อ
04 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 19

พร้อมพงศ์วอน"อภิสิทธิ์-สุเทพ"หยุดตั้งเวทีนอกสภา

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ตั้งโต๊ะพูดคุยทุกฝ่ายเพื่อออกแบบปฏิรูปประเทศ แก้ปัญหาความขัดแย้ง ว่า เรื่องดังกล่าวถือว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ได้แสดงความจริงใจอย่างมาก โดยนำปัญหาของประเทศเป็นที่ตั้ง พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้งนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเป็นตัวแทนเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาล แกนนำพันธมิตร แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำประเทศ รวมถึงนักวิชาการและตัวแทนทุกภาคส่วน ในการร่วมกันออกแบบเพื่อยุติความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อวาน(3 ส.ค.) ที่ผ่านมา ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับและพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการตั้งโต๊ะพูดคุยทุกฝ่ายเพื่ออกแบบปฏิรูปประเทศอีกด้วย
" การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่าการที่รัฐบาลดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการซื้อเวลา เป็นการเตะถ่วง ขอปฏิเสธว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เตะถ่วง และซื้อเวลาแต่อย่างใด เพราะได้ยึดเอาปัญหาของประเทศเป็นที่ตั้ง แต่ในทางกลับกันนายอภิสิทธิ์ และสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเวทีทั้งในสภาและนอกสภา เพื่อเดินสายผ่าความจริง นำข้อมูลที่อ้างว่าเป็นความจริงไปบอกพี่น้องประชาชนนั้น มองว่านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ น่าจะนำข้อมูลเหล่านี้มาพูดคุยกันในโต๊ะพูดคุยเพื่อออกแบบปฏิรูปประเทศจะดีกว่า อย่าปล่อยให้ความขัดแย้งกลายเป็นมรดกบาปของประเทศ ดังนั้น ขอเชิญให้ทุกฝ่ายร่วมกันคิดร่วมกันแก้ไขประเทศ เอาปัญหาของประเทศและปัญหาของประชาชนเป็นหลัก ขอให้นับหนึ่งในการก้าวสู่ความปรองดองต่อไป " นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มคณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ออกจากการพิจารณาของสภาไปก่อนนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ส.ส. จะมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีถอนร่างออกไปนั้น เชื่อว่าทำไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นอำนาจสภา อย่าโยนบาปให้นายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีเคารพสิทธิของส.ส. อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะมีการสอดไส้นั้น ไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะฝ่ายค้านก็ร่วมพิจารณาด้วย ทั้งในชั้นของสภา และในชั้นของกรรมาธิการ ยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ทำเพื่อประชาชนทุกสีเสื้อ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แน่นอน
ไม่มีอะไรใต้โต๊ะ นอกจากถังขยะ


k.juy

ตอบกระทู้เมื่อ
04 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 20
 
กรณ์แว๊บบบได้เวลาพอดีเลย
 
 
"ผมป่วยเป็นไข้เลือดออกมา ๑๐ วันครับ เพิ่งได้ออกจากโรงพยาบาล นํ้าหนักลดลงไปตํ่ากว่า ๙๐ กิโลเป็นครั้งแรกในรอบ ๓๐ ปี ผมขอขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ตอนนี้ค่อยๆเริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว น่าจะทันเปิดสมัยประชุมสภาฯพอดี

ทางโรงพยาบาลบอกว่าโรคนี้กำลังระบาด ระมัดระวังกันด้วยนะครับ ผมเจอเข้าไปรอบสองเลยหนักกว่าปกติ
บ่ายวันนี้กลับมาอยู่ที่เดิมครับ หลังจากฟื้นจากไข้เลือดออกปรากฏว่า 'ไตวายเฉียบพลัน' หมอเลยให้นอนโรงพยาบาลทันที จริงๆไม่ได้รู้สึกป่วย แต่รู้ว่าไม่ปกติเลยเดินเข้ามาให้หมอตรวจ น่าจะเกี่ยวเนื่องกับไข้เลือดออกนั่นแหละครับ คราวนี้คงต้องขอลาพักจนหายขาดจริงๆ
 




ครูทะเล

ตอบกระทู้เมื่อ
04 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 21
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “เพื่อชาติและราชบัลลังก์ มีอะไรมั้ย เป็นไงเป็นกัน” ทางเอเอสทีวี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่พันธมิตรฯ ยังไม่ออกไปชุมนุมต่อต้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดและใช้เวลา ตามปกติประชุมเสร็จก็แถลงทันที แต่คราวนี้เราประชุมเสร็จแล้วไปแถลงอีกวันหนึ่ง โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ซึ่งพันธมิตรฯ เรายึดมั่นมาตลอดว่าเราจะไม่หนี เราเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยต่อว่าศาล แม้บางครั้งเราจะรู้สึกว่าได้รับความยุติธรรมน้อย แต่ก็ไม่เคยนำประชาชนไปกดดันศาล เราเคยแถลงว่าถ้ามีการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือ พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภา เราจะชุมนุมใหญ่ แต่หลังจากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 พิธีกร ศิลปิน จำนวน 96 คนก็ถูกดำเนินคดีก่อการร้าย และศาลให้ประกันตัวในวงเงินประกันคนละ 6 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามยั่วยุปลุกระดมประชาชนก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งแค่นี้ก็เห็นแล้วว่า ถ้าออกไปชุมนุมก็ถือว่าเกิดความวุ่นวายทั้งนั้น และอีกข้อคือห้ามทำให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าอออกไปขัดขวางการจราจรก็ถือว่าทำผิดกฎหมายแล้ว เรื่องนี้ตนได้หารือกับอัยการชั้นผู้ใหญ่ที่เคยเอาใจช่วยพวกเรามาตลอด ท่านก็ลงความเห็นว่า ถ้าพิจารณาตามคำสั่งศาล ตีความได้อย่างเดียวว่า เราทำอะไรไม่ได้ ถ้าทำ ศาลสั่งถอนประกันและพวกเราก็จะเข้าคุกแน่นอน เพราะเราไม่หนี และได้ถามผู้พิพากษาอีกท่านก็ให้ความเห็นเหมือนกัน ถ้าเราออกมาชุมนุมต้องติดคุกแน่นอน เพราะเราเคารพกระบวนการยุติธรรมที่กระทำในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า นอกจากนั้นเราได้พิจารณาอีกหลายเรื่องรวมกัน และเห็นว่าเราจำเป็นต้องอยู่กับที่ในช่วงนี้ และที่ต้องตัดสินใจแบบนี้ เราได้พิจาณาอย่างรอบคอบ เพราะถ้าคิดแค่จะเอาใจประชาชนตอนนี้ก็ต้องออกมาชุมนุม แต่การที่พันธมิตรฯ ไม่ออก ก็มีแง่ดี ทำให้ประชาชนเห็นว่าบ้านนี้เมืองนี้เป็นของทุกคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่ว่ามีปัญหาอะไรก็มารอว่าเมื่อไหร่พันธมิตรฯ จะออก แต่เราอยู่นิ่งๆ คอยติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ตลอด เพราะเราไม่ต้องการผูกขาดการรักบ้านรักเมือง หรือไปชิงมวลชนของใคร
       
       นอกจากนี้ ถ้าเราออกไปแล้วต้องเกิดประโยชน์ แต่ออกไปแล้วศาลถอนประกัน เราเข้าคุก มวลชนก็กลับบ้าน เท่ากับว่าหลอกให้มวลชนออกมาเพื่อกลับบ้านเฉยๆ เพราะฉะนั้นเราคิดอย่างรอบคอบแล้ว
       
       ส่วนกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ใครก็ตามที่รู้สึกว่าบ้านเมืองแย่ลงก็ออกมา และเห็นว่าทุกกลุ่มที่ไม่ใช่พรรคการเมืองไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อหมู่คณะ แต่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ พี่น้องพันธมิตรฯ คนไหนจะไปร่วมชุมนุมก็ไปได้เลย เพียงแต่ขอให้ระมัดระวัง
       
       พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ท่าทีของรัฐบาลขณะนี้ ตนไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนกลัวเท่ากับช่วงนี้ คงเป็นเพราะกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเพราะเคยถูกไล่มาแล้ว 3 คน จึงเตรียมการทุกอย่างไว้เกินกว่าเหตุหรือเปล่า ตำรวจมีไว้สำหรับดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน แต่กลับเอามาทำอย่างนี้ โจรผู้ร้ายก็สบาย เหมือนเอามาข่มขู่ประชาชน แทนที่จะไปจัดการกับนักการเมืองทื่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
       
       กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอ่านแถลงการณ์เชิญชวนให้ฝ่ายต่างๆ เข้าไปร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกให้ประเทศนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุ นั่นคือการที่รัฐบาลเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา ประชาชนกลุ่มต่างๆ จึงออกมาประท้วง การที่รัฐบาลเชิญไปคุยก็เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างที่จะบอกว่าได้หารือทุกฝ่ายแล้ว และจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทางแก้ง่ายนิดเดียว คือรัฐบาลต้องถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปให้หมด แล้วนายกฯ ก็เอาเวลาไปแก้ไปัญหาให้ประชาชน แต่นี่เอาเวลาไปแก้ปัญหาให้พี่ชายอย่างเดียว เพราะฉะนั้นถ้าเชิญมา ตนก็จะไม่ไป มีแต่จะว่าเอาเท่านั้น



บัวบก

ตอบกระทู้เมื่อ
05 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 22
ขอเชิญอ่านบทพระราชนิพนธ์  ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระมหากษัตริย์รัชาลที่ 6  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 
                     ชาติใด  ไร้รัก  สมัครสมาน
               จะทำการ  สิ่งใด  ก็ไร้ผล
               แม้ชาติ  ย่อยยับ  อับจน
               บุคคล  จะสุข  อยู่อย่างไร
                       ..................
   ฉะนั้นเราคนไทยทุกคนควรรักกัน "เรารักเมืองไทย"
บทความ  “คนรักชาติ”
ประเทศไทย...ดำรงเอกราชความเป็นชาติไทยมานาน
ประเทศไทย...มีศาสนาพุทธ
ประเทศไทย...มีพระมหากษัตริย์
ประเทศไทย...เป็นแผ่นดินที่มีอุดมสมบูรณ์
ประเทศไทย...นับถือเคารพกันแบบญาติพี่น้อง
ประเทศไทย...มีสภาพภูมิอากาศดี  น่าอยู่
ประเทศไทย...มีเพลงชาติไทย เพลงเดียวเท่านั้น
ประเทศไทย...สามัคคี ปรองดอง รักสงบ
ประเทศไทย...มีอัธยาศัยน้ำใจดีงาม สยามเมืองยิ้ม
ประเทศไทย...คนเปลี่ยนไป...
     ถึงอย่างไรเราก็คนไทยด้วยกัน  รักกันไว้สามัคคีกันไว้ดีกว่า  ประเทศไทยมีแค่ประเทศเดียวในโลก  เป็นประเทศเล็ก ๆ  เรามีกันแค่นี้ แค่หกสิบกว่าล้านคน  บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ  ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า  เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา  หน้าที่เรารักษาสืบไป  ก็ทะนุบำรุง รักชาติไว้  เราทุกคนคือญาติพี่น้องกัน   อย่ามองเห็นกันและกันเป็นอื่นไกล   เพราะเราทุกคนในวันนี้คือลูกหลานของบรรพบุรุษในอดีต  สังเกตพฤติกรรมคนไทยด้วยกัน  คนไทยนี้รักสงบตรงเพลงชาติไทย อย่าไปเอาอะไรของชาติอื่น พฤติกรรมของคนอื่น  ค่านิยมของคนอื่นมาทำลายความเป็นไทยในตัวของเรา  เราต้องรัก สามัคคี กันไว้ทะเลาะกันทำไม   คิด ๆ สิเราเป็นญาติพี่น้องกันจริง ๆ
      รักชาติ หมายความว่าการเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ของชาติ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ทำงานอะไรก็ทำเพื่อส่วนรวม ไม่ทำเพื่อส่วนตัว ไม่คิดถึงตัวเองเป็นใหญ่ การทำอะไรต่าง ๆ เพื่อหวังสิ่งตอบแทน  ตัวจะได้อะไรจากการกระทำนั้น นั่นคือการกระทำที่มีแต่ความโลภ  มีแต่ความอยากได้ ไม่มีความเสียสละ  ทำงานใดก็เกิดการทุจริตงาน  งานนั้นก็เสียหาย  การคอรัปชั่น คดโกง กินสินบาทคาดสินบน  เกิดขึ้นเพราะอะไร  ก็เพราะคนไม่รักชาติแท้จริง  แต่รักตัวเองมากกว่ารักชาติ  ทำอะไร ๆ  ก็เพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อชาติ   เพื่อประเทศไทยของเราควรจะเปลี่ยนแนวคิดกันเสียใหม่ว่า  ตัวเรานี้มันเล็กน้อย ชาติไทยใหญ่กว่า เราทำอะไรก็ต้องนึกถึงชาติไทยของเรา  นึกถึงประเทศไทยของเรา  เวลานี้ เราต้องการคนรักชาติ รักประเทศอย่างแท้จริง  เสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง  โดยเฉพาะผู้ทำงานในการบริหารประเทศชาติ เช่น ข้าราชการก็ต้องทำงานเพื่องานอย่างแท้จริง  เห็นแก่ส่วนรวม  พึงทำงานนั้นด้วยใจบริสุทธิ์ยุติธรรมสม่ำเสมอ  อย่าทำอะไรด้วยความลำเอียง  เพราะรัก  เพราะชัง  เพราะกลัว  เพราะหลง  อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว  อย่าเอาตำแหน่งหน้าที่ไปหาผลประโยชน์เข้าข้างตัว  อย่าเอาความรู้ความสามารถไปหาผลประโยชน์แต่เฉพาะตัว  พระพุทธเจ้าทรงติไว้ว่า "อัตตัตถะปัญญา  อะสุจีมนุสสา" บุคคลใดใช้สติปัญญา ความสามารถเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว  เป็นคนสกปรก  เป็นคนใช้ไม่ได้  เราอย่าอยู่อย่างคนสกปรก  ให้อยู่อย่างคนสะอาด ปราศจากสิ่งชั่วร้าย จึงจะเป็นการถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางพระพุทธศาสนา  อันนี้เรียกว่า รักชาติ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม  ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
     ใครที่รักชาติเพื่อท้องเพื่อกระเป๋าของตัว  ก็เลิกรักชาติแบบนั้นเสีย   เลิกกอบโกย   จงเริ่มเสียสละเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขส่วนรวม  ขอให้มีหลักปรัชญาประจำจิตใจไว้สักหน่อยว่า  คนเราเกิดมามือเปล่า  ตัวเปล่า  ตายไปก็มือเปล่า  ไม่ได้เอาอะไรไป  เราจะโลภโมโทสันอะไรนักหนา
                เมื่อเจ้ามา   มีอะไร  มาด้วยเจ้า   
         เจ้าจะเอา  แต่สุข  สนุกไฉน   
         เจ้ามามือเปล่า   เจ้าจะเอา  อะไรไป   
         เจ้าก็ไป  มือเปล่า  เหมือนเจ้ามา  
เราควรจะเกิดมาเพื่อเสริม  เพื่อเติม  เพื่อแต่ง  ให้ชาติไทยของเราเจริญก้าวหน้าต่อไปดีกว่าที่จะอยู่ด้วยความมักมากอยากได้   จะเป็นประวัติศาสตร์ในทางร้ายไว้ในบ้านเมืองต่อไป  อันนี้คือการพิจารณาตัวเอง ตักเตือนตัวเอง ตนเตือนตน ไม่ได ้ใครจะเตือน   แก้ไขตัวเอง เราก็เอากระจกธรรมะมาส่องดูตัวเราดู  เพื่อให้เห็นว่าเรามีอะไรไม่ดี  ไม่เหมาะไม่ควร  จะได้แก้ไขปรับปรุง กระทำให้มันดีมันงามขึ้น การใช้ธรรมะเป็นหลักปฏิบัติในความเป็นไทย เป็นหน้าที่ของคนไทย คนไทยไม่มีหน้าที่จะเป็นทาสของใคร ๆ  เพราะความเป็นทาส  มันขัดกับหลักของความเป็นไทย  เราเป็นคนไทย  ก็ต้องมีหน้าที่แทนคุณแผ่นดิน  ต้องทำตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็น “คนไทย”   คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่  บัดนี้เราทั้งหลายในปัจจุบัน  ต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป 
         บรรพบุรุษ  ของไทย  แต่โบราณ 
         ปกบ้าน  ป้องเมือง  คุ้มเหย้า 
         เสียเลือด  เสียเนื้อ  มิใช่เบา 
         หน้าที่เรา  รักษา  สืบไป
    
 ฉะนั้นเราเป็นคนไทย  เราต้องรักเมืองไทย  รักชาติ  รักศาสนา ...รักพระมหากษัตริย์
                                          
      พี่น้องไทย ... ประเทศไทยกว่าจะเป็นขวานทองในวันนี้  บรรพบุรุษของเราต้องเสียเลือด เสียเนื้อมาเท่าไหร่  เสียแผ่นดินมาเท่าใด  ลองคลิกชมดู
 

http://www.watpakhaochonglom.com





Mayjung

ตอบกระทู้เมื่อ
06 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 23
 
 
วิจารณ์หนัก “แกรนด์ เดอะสตาร์” ทวีตซัด “ทักษิณ” ?! หลังเจ้าตัวอัดอั้นลุกขึ้นมาทวีตจวกใครคนหนึ่งว่า คุณคนเดียวสร้างความเดือดร้อนให้แผ่นดินมาหลายปีจนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อย่ากลับมาอีก ผิดจนเกินอภัย ก่อนจะลบข้อความทั้งหมดทิ้ง พร้อมบอกที่ตนพูดมาทั้งหมดเพราะรักในหลวง ไม่อยากให้ ในหลวง ต้องทุกข์อีก แมนโคตรบอกถ้าจะเกิดผลเสียอะไรตามมาขอยอมรับเอง
      
       หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ บริเวณสวนลุมพินี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางเข้าร่วมมากมาย แต่ก็มีบางคนที่ได้แสดงพลังผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างล่าสุดนักร้อง-นางเอกสาว “แกรนด์ พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า” หรือ “แกรนด์ เดอะสตาร์” ก็ได้ออกมาทวีตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @grand_thestar จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากในขณะนี้ โดยมีเนื้อหาใจความบางช่วงบางตอนว่า…
      
       “เราสูญเสียชีวิต สูญเสียกำลังใจ สูญเสียทุกอย่าง เสียจนไม่มีอะไรจะให้เสียอีกแล้ว คุณจะเอาอะไรอีกเหรอคะ หลายปีมานี้เกิดสิ่งเลวร้ายกับแผ่นดินของเราเยอะมากมายเหลือเกิน เราสูญเสียอะไรไปมาก มากเกินกว่าที่จะให้อภัยคุณได้ อย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยค่ะคุณ คุณจะกลับมา จะเอาอะไรจากพวกเราอีกเหรอคะ สิ่งที่คุณได้ไปทั้งหมดยังไม่เพียงพอเหรอคะ คุณคนเดียวสร้างความเดือดร้อนกับแผ่นดินเรามาหลายปี คุณต้องการทำลายแผ่นดินเราให้สิ้นซากเลยใช่มั้ยคะ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าอยู่บนผืนแผ่นดินของใคร”
      
       ซึ่งข้อความดังกล่าว แม้ว่าแกรนด์จะไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่คนที่อ่านก็ต่างตีความว่าหมายถึงนักโทษหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความนี้ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยนางเอกสาว รวมถึงให้กำลังใจที่กล้าหาญเกินตัว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนที่เจ้าตัวจะลบข้อความดังกล่าวทิ้ง พร้อมกับขึ้นข้อความขอโทษถ้าข้อความนี้ทำให้ใครไม่พอใจ ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกแบบแมนๆ ว่าถ้าจะเกิดผลเสียอะไรตามมาขอยอมรับเอง แต่ที่ทำไปเพราะตนรักในหลวง อย่าทำให้ในหลวงต้องทุกข์อีกเลย ยอมรับว่าเป็นคนหัวรุนแรงเรื่องชาติบ้านเมือง ที่กล่าวมาทั้งหมดมีเหตุผลข้อเดียวคือตนรักในหลวง และโปรดอย่าดูถูกเยาวชนรุ่นใหม่ว่าไม่รู้จักคุณในหลวง เพราะตนเป็นคนนึงที่ไม่ใช่ ใครจะว่าอะไรก็ว่ามา จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ก็ช่างเพราะนี่คือสิ่งที่ตนอยากพูด อยากพูดในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่ง พร้อมขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
      
       ทั้งนี้ นอกจากแกรนด์จะทวีตขอโทษแล้ว ความเคลื่อนไหวล่าสุดเจ้าตัวยังได้โพสต์ขอโทษลงในอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองอีกครั้ง


KET

ตอบกระทู้เมื่อ
23 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 24

 "ป๋าเปรม" วอนคนไทยรัก-สามัคคีกัน

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานต้อนรับเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศ จำนวนกว่า 100 คน ที่เดินทางมาเข้าร่วมโครงการ "เยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน" รุ่นที่ 2 โดย พล.อ.เปรม กล่าวกับเยาวชนที่มาร่วมโครงการว่า เยาวชนคนไทยทุกคน ทั้งที่นับถือศาสนาพุทธ และนับถือศาสนาอิสลาม ล้วนเป็นเจ้าของประเทศไทยเหมือนกับคนไทยทุกคน ซึ่งมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน และได้รับความเป็นธรรมเท่ากัน ดังนั้น ทุกคนจะต้องสำนึกในความเป็นคนไทย ที่มีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง มีหน้าที่รักษาปกป้องประเทศไทย
        จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวถึงกรณีที่จะครบรอบวันคล้ายวันเกิด 94 ปี ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ว่า อยากได้ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ และอยากให้คนไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม ส่วนเรื่องการปฏิรูปเวทีการเมืองของรัฐบาลนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด และหากได้รับเชิญ ยังตอบไม่ได้ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
        ทั้งนี้ วันครบรอบวันคล้ายวันเกิดนั้น ไม่ได้เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้เข้าร่วมอวยพรเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังมีความขัดแย้งกันอยู่ และจะเปิดให้เพียงผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าอวยพรวันเกิดเป็นภายใน โดยไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด

http://www.manager.co.th
 



หนอนไซเบอร์

ตอบกระทู้เมื่อ
28 ส.ค. 2556
  ความคิดเห็นที่ 25

มิคสัญญีกลียุคในอียิปต์(ในเรา)

ที่อียิปต์กำลังเกิดมิคสัญญีกลียุคประชาชนล้มตายจำนวนมากและยังไม่มีทีท่าว่าจะ ยุติลงได้อย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสลดสังเวช

เราควรเรียนรู้เหตุการณ์เขาเพื่อให้เราฉลาดขึ้น

(๑) ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ปกครองประเทศด้วยเผด็จการมานาน ประชาชนไม่พอใจพากันลุกฮือขึ้นโค่นล้มอำนาจ ปรากฏการณ์นี้เกิดในหลายประเทศอาหรับจนมีผู้เรียกว่าเป็น “ฤดูใบไม้ผลิแห่งอาหรับ” (Arab Spring)
(๒) มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี มูร์ซีแห่งภราดรภาพมุสลิมชนะการเลือกตั้ง
(๓) ประธานาธิบดีมูร์ซีบริหารประเทศมาได้ ๑ ปี พวกนิยมเสรี(Liberals) ไม่พอใจ เพราะพรรคภราดรภาพแห่งมุสลิมซึ่งเรียกกันว่าเป็นพวกอิสลามิสต์ มีแนวทางการบริหารประเทศโดยใช้กฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด เป็นความขัดแย้งระหว่างอิสลามิสต์กับฝ่ายนิยมเสรีซึ่งพบทั่วไปในโลกอิสลาม
(๔) ในโลกอิสลามมีอิสลามิสต์จำนวนมากกว่าพวกเสรีนิยม เมื่อมีการเลือกตั้งฝ่ายอิสลามิสต์ก็จะชนะ ฝ่ายนิยมเสรีทนไม่ได้ก็ไปร่วมกับกองทัพทำการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
(๕) รัฐประหารก็แก้ปัญหาไม่ได้ ประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลเก่าที่มาจากการเลือกตั้งก็ทำการประท้วง เกิดการปราบปรามผู้คนล้มตายจำนวนมาก ดังที่กำลังจะปรากฏอยู่ แล้วจะทำอย่างไรในเมื่อประชาธิปไตย(เลือกตั้ง)ก็แก้ปัญหาไม่ได้รัฐประหารก็แก้ปัญหาไม่ได้

บทเรียน
(๑) เผด็จการทุกรูปแบบนำไปสู่ปัญหา
(๒) เผด็จการเสียงข้างมากก็นำ ไปสู่ปัญหาได้ การเลือกตั้งเป็นกระบวนการให้ได้มาซึ่งผู้ที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศแต่ในการบริหารประเทศ ต้องคำนึงถึงคนทั้งหมดที่มีความหลากหลาย ไม่ใช่เพื่อใช้อำนาจเผด็จการเสียงข้างมากดังกรณีของประธานาธิบดีมูร์ซีและภราดรภาพมุสลิม ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงจากผู้ไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การที่กองทัพเข้ามาทำรัฐประหาร
(๓) ไม่ควรทำรัฐประหาร เพราะแก้ปัญหาไม่ได้ และก่อให้เกิดความยุ่งยากตามมาอย่างสางไม่ออก ดังที่กำลังเกิดกับอียิปต์
ขยายความ
(๑) การคิดแบบตายตัว นำไปสู่การแยกส่วน นำไปสู่ความสุดโต่ง นำไปสู่ความรุนแรง คนส่วนใหญ่ในโลกคิดแบบนี้ รวมทั้งชาวพุทธไทยด้วย ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าสอนวิธีคิดแบบอื่น ในประโยคแรกของปฐมเทศนาก็ทรงตรัสแล้วว่า “เทฺวเม ภิกขเว อันตา...” (ส่วนสุดทั้งสองภิกษุไม่ควรเสพ) เทฺว อ่านว่า ทะเว=ทวิ=สอง ; อันตะ=ส่วนสุด (extremes) ทางพุทธศาสนาสอนการคิดแบบความเป็นเหตุปัจจัยหนุนเนื่อง ไม่แยกข้างแยกขั้ว บางครั้งทรงเรียกการคิดแบบนี้ว่าเป็นทางสายกลางหรือ มัชฌิมาปฏิปทา โลกล้วนคิดแบบตายตัวจึงเข้าไปสู่การแยกส่วนสุดโต่งและรุนแรง ต้องปรับวิธีคิดจึงจะเกิดสันติภาพ

(๒) สังคมสมัยใหม่เต็มไปด้วยความหลากหลาย การอยู่ร่วมกันด้วยสันติจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อยอมรับเห็นคุณค่าและความงามของความหลากหลาย การครอบงำด้วยลัทธิใดลัทธิหนึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรง

(๓) การเปิดพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวางจะลดความตึงเครียดในสังคม สร้างความสมานฉันท์ และการเพิ่มสมรรถนะในการพัฒนาประเทศ การคืนอำนาจไปให้ชุมชนจัดการตนเอง ท้องถิ่นจัดการตนเอง จังหวัดจัดการตนเอง จะทำให้แก้ปัญหาต่างๆในสังคมไทยไปได้เกือบหมด รวมทั้งลดความรุนแรงของการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อกินรวบการบริหารประเทศ All Muslim United AMU Power (พลังอำนาจแห่งการรวมตัวของมุสลิมทั้งหมด)

AMU จะสามารถแก้ปัญหาอียิปต์และปัญหาอื่นๆในโลกได้ คนมุสลิมทั่วโลกมีประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านคน มีจุดร่วมกันคือความรักใน พระอัลเลาะฮ์ เช่นเดียวกับสรรพสิ่งทั้งหลาย ประชาคมมุสลิมก็มีความหลากหลาย เช่นหลากหลายในนิกาย หลากหลายทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ท่ามกลางความหลากหลายเหล่านี้หากคนมุสลิมทั้งหมดสามารถรวมตัวกัน จะเป็นพลังอำนาจอันมหาศาลเพื่อสันติภาพและความเจริญของโลก AMU ควรยอมรับความหลากหลายในประชาคมมุสลิม รวมตัวกันพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา วิชาการ สันติวิธีและสันติภาพ พัฒนา Islamic Perspective of Development หรือการพัฒนาตามกระบวนทัศน์อิสลาม ให้โลกเห็นว่าเป็นโมเดลการพัฒนาที่ดีกว่าโมเดลการพัฒนาแบบบริโภคนิยมของตะวันตกที่กำลังประสบสภาวะวิกฤตอยู่ในขณะนี้ โดยมุ่งแสดงตัวอย่างวิถีชีวิตที่ดี มากกว่าการมุ่งโค่นล้มแบบคอมมิวนิสต์เคยทำ ซึ่งทำให้แพ้ภัยตัวเอง วิถีชีวิตที่ดีที่แสดงให้โลกเห็น อีกหน่อยใครๆก็อยากทำตาม ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม
โลกมุสลิมที่เศรษฐกิจดี การศึกษาดี สังคมดี เหนียวแน่นในพระอัลเลาะห์และรักสันติภาพ จะเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในโลกอย่าว่าแต่ปัญหาแค่ในอียิปต์เลย ปัญหาอื่นๆของโลกที่โลกกำลังป่วยอยู่อย่างหนัก AMU ก็จะสามารถช่วยเยียวยาโลก (Heal the World) ได้ ถ้าชาวมุสลิมทั้งหมดรวมตัวกัน

กรุงเทพธุรกิจ



สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเว็บบอร์ด คลิกที่นี่ /  เข้าสู่ระบบ


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved