|
|
ตอนที่ 7: เพื่อนตาย -----------------------------
น้ำในสระหลังบ้านเริ่มขอดแห้งเมื่อเข้าแล้ง
ปลายฝนต้นหนาวน้ำในสระจะตกตะกอนใส มุมนั้นเป็นอีกมุมหนึ่งที่รักมาก
ใต้ต้นขี้เหล็กเหลืองสะพรั่งอ่อนหวานเหมือนกล้วยไม้ นกกระจอกครึ่งโหลขลุกกันอยู่ตรงนั้น เวลาแดดอ่อนอ่อนหลังเลิกเรียน |
ลูกของพ่อว่ายน้ำกันเป็นจากสระนี้เองยกเว้นน้องน้อย
วิธีการฝึกว่ายน้ำของพ่อทันสมัยมาก..ใครเผลอก้อผลักลงไปเลยเรียนรู้ด้วยตัวเอง..แต่ข้างล่างจะมีพี่ใหญ่กับพี่รองลอยคออยู่แล้วกับห่วงยางรถยนต์
น้องน้อยศิษย์ว่ายน้ำคนล่าสุดรู้แกวกอดขาพ่อแน่นดูพี่พี่เล่นน้ำกัน...
เลยว่ายน้ำไม่เป็นมาจนป่านนี้ท้ิงวีรกรรมไว้ในความทรงจำ
วีรกรรมที่แทบทำให้เกือบกอดกันตายมาแล้วในวังน้ำวนที่ริมน้ำยม..
วันนั้นเรา ฉัน น้องน้อยและจอมสหายวัยเยาว์เล่นก่อเจดีย์ทรายกัน
กลางหาดทรายขาวยาวเหยียดของแม่น้ำยมเมืองแม่ย่า
ชายฝั่งด้านหนึ่งจะเป็นกอใผ่กอใหญ่ใต้กอไผ่เป็นวังน้ำเรียกว่าคุ้งน้ำ
น้องน้อยนั่งดูฉันกับจอม"ก้านปลาซิว"
( เอาทางมะพร้าวลากจากชายน้ำขึ้นบนหาดทราย ปลาซิว ปลาสร้อย
ปลาเข็ม ปาเจโร อ่า.. ไม่ใช่ ไม่มี..กุ้งฝอย..จะติดมากับทางมะพราวนั้น )
เหยื่อประจำวันกระโดดหยองแหยงให้เราวิ่งตะครุบกันมันส์มาก
ถ้ารอดตายก้อจะได้ไปอยู่ในขวดแก้ว
ถ้าตายก้อถือว่าหมดกรรมทำพิธีฝังให้!
น้องน้อยตั้งข้อสังเกตว่าอะไรๆที่ลอยเข้าคุ้งน้ำ มักจะหมุนวนแล้วหายลงไปในน้ำความอยากรุ้อยากเห็นของเธอมีเท่าเท่ากับฉัน
ฉันกับน้องน้อยจะเข้าไปดูกันตามลำพัง แต่จอมเพื่อนแสนดีไปด้วย
จำแม่น จำแม่น เราหมุนกันคว้างเลย น้องน้อยตกใจกอดฉันแน่น
ฉันคว้าได้คอเสื้อยืดจอม(.นี่ดี..ที่จอมบ้าลงเล่นน้ำทั้งกางเกงขาสั้นเสื้อยืด)
จอมพาเราเข้าฝั่งได้ ตกใจเงียบกันไปหมดเลย ชีวิต.แขวนไว้กับคอเสื้อ..
อ่าไม่ใช่..ฝากไว้กับจอมต่างหาก คุณป้ารู้ตกใจมาก จอมโดนด่า!ข้อหาพากันไปซน ..โธ่คุณป้าขา..ถึงอย่างไร..จอมก้อไม่ทิ้งเพื่อนหรอก..
วันที่ฉันแอบไปปีนมะปรางต้นใหญ่แล้วลงไม่ได้ จอมยังให้ฉันขี่คอลงมาเลย
หากบังเอิญเข้ามาอ่านพบ..ขอบอกว่าบุญคุณใหญ่หลวงนี้ไม่เคยลืม
บ้านสวนริมน้ำนั้นเป็นอีกสนามรบของทะโมนทั้งหก
พ่อจะส่งพวกเราไปที่นั่นในช่วงปิดเทอม
วัยเด็กของเราอยู่กับบ้านสวนริมน้ำ
อยากเล่นน้ำก็เฮโลกันลงน้ำ
กลับมาแต่ละครั้งแป้งนมบอก "ตัวดำเป็นเหนี่ยง"กันถ้วนหน้า
ท้ายสวนมีทางเล็กเล็กที่ทะลุออกหลังสวนร่มครึ้ม
ที่นั่นมีของเล่นมีชีวิตเร้าใจหลายอย่างให้ผจญภัย
นกสารพัดชนิดบนยอดมะปราง กระรอก กระแตบนต้นละมุด
ที่ตื่นเต้นมากก็ผีเสื้อตัวใหญ่และ แมงมุมตัวเขื่องที่ขึงด่านคร่อมเส้นทางเดิน
ที่สุดยอดเลยก็ม้าก้านกล้วยที่มีคนขี่ทำเสียงประหลาดดังเอ็ดอึงป่าแทบแตก
บางทีก็มีกายกรรมลงไปกลิ้งตีแปลงกับพื้น ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
เมื่อเริ่มเบื่อแล้วก็จะแอบย่องไปดูผีเสื้อตัวเล็กสีเหลืองที่บินเป็นเส้นสูงต่ำข้างตลิ่ง
พี่ใหญ่นำขบวนเจ็ดซุปเปอร์เปี๊ยกรวมทั้งจอมไปผจญภัยใน "ซาฟารี"
กลางทุ่งโล่งๆแดดเปรี้ยงนั้นเราวิ่งกันเจี๊ยวจ๊าวที่โน่นที่นี่ เก็บมะกล่ำตาหนู ตาควายเราเก็บเม็ดสีแดงเล็กเล็กนั่นใส่ขวดใสรออวดเพื่อนที่โรงเรียนวันเปิดเทอม
ซึ่งแน่ละ มีเรื่องราวมากมายที่ฉันส่งผ่านถึงเพื่อนอย่างไม่รู้จบ
ฉันเล่าเรื่องของผีเสื้อและหิงห้อย การทำท๊อฟฟี ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฉันมีเรื่องการทำน้ำอ้อยเพราะท้ายสวนนั้นมีโรงหีบอ้อยแบบอุตสาหกรรมครัวเรือนพวกเราได้ชิมน้ำอ้อยสดจากโรงงานขนาดเล็กนั่น
แค่เรายื่นหน้าแหลมๆเข้าไปถามว่า "มันอร่อยมั๊ย"
เจ้าของใจดีให้เราชิมเป็นถัง และยิ้มกว้างเมื่อเห็นเราทำหน้าปูเลี่ยนๆ
แม้ไม่คุ้นเคยกับรสชาดและภาชนะไม้ที่ตักส่งให้
แต่หนึ่งในพวกเราก็อุตส่าห์บอกว่า "อร่อยดีนะ"
แก้วใสได้หยอดน้ำอ้อยเคี่ยวข้นลงในขดไม้ไผ่เพื่อทำน้ำอ้อยงบ
ได้ทำท๊อฟฟี่ด้วยตัวเอง แล้วยังได้บอกคุณลุงใจดีนั้นว่า "ชอบจัง"ด้วย
คุณลุงให้ท๊อฟฟี่ที่เราทำกันเองกลับมากินที่บ้านอย่างไม่กลัวฟันผุ
พี่รองบอกว่ากว่าจะเป็นท๊อฟฟี่ให้เรากินต้องใช้เวลาเป็นปี
เพราะฤดูเก็บเกี่ยวของอ้อยมีแค่ปีละครั้ง ฉันว่ามันเหมาะสำหรับพวกเรา
ไม่อย่างนั้นนอกจากฟันจะไม่เป็นระเบียบจากการงัดผลไม้สดจากต้นกินทั้งเปลือกแล้ว
ฟันชุดที่สามคงมาก่อนกำหนดเวลากันทั้งแก๊งค์
ฉันไม่เห็นการหีบอ้อยด้วยเฟืองไม้นั้นอีกเลย
อ้อยในแต่ละปีถูกส่งเข้าโรงงานโดยรถบันทุกลากอ้อยคันโตรับน้ำหนักน่าเวทนา
อุตสาหกรรมขนาดย่อมนั่นเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว
น้ำอ้อยเคี่ยวข้นจากตะบวยกะลามะพร้าวที่หยดลงวงไผ่หมดไป
วันนี้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติจางหาย
ฉันมองเห็นควันสีดำลอยจากปล่องโรงงานน้ำตาล
ฝอยเขม่าควันคว้างตามแรงลมข้ามลำน้ำกว้างใหญ่ลงบ้านเรือนแม้แหล่งชุมชน
เสียงอีดออดของเฟืองไม้กลายเป็นหวูดโรงสี เสียงรถลากอ้อยดครมครืนยามดึก
และเสียงพร่ำบ่นของหลายชีวิตที่มีผลกระทบโดยตรง
ป่านนี้เพื่อนวัยเยาว์ที่เคยตะโกนเรียกขานกันข้ามลำน้ำยมยังสบายกันดีไหม
ลูกกระสุนดินเหนียวกับหนังสติ๊กนั่นยังอยู่ดีหรือเปล่า
ฉันไม่อยากได้สะพานโค้งคอนกรีตกับถนนแอสฟัสนั่นเลย
คิดถึงเพื่อนทีไร ฉันรู้สึกเกลียดถนน
ฉันยังพบทางเดินเล็กเล็กนั่นสงบนิ่งอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ต่างไปแค่วันนี้เหลียวหาไม่พบเพื่อนเก่าเลยสักคน.
เพ็ญเดือนเพื่อนดิน สิ้นหา
เพ็ญเดือนเพื่อนฟ้า หาง่าย
หาเดือนแดนดิน นิลพราย
เดือนฉายเวหาสน์ ปราศนิล