สายหมอก ดอกไม้บาน
๑ เคยมีความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมดง่ามตัวจ้อยที่อยู่ในสายตาอาละดิน วันที่เหมือนอยู่ในสายตาของใครบางคน ที่พร้อมเสมอที่จะหยิบยื่น วันที่อยากทำบทเรียนแอนนิเมชั่น อยากต่อยอดเว็บไดนามิค วันที่อยู่ๆก็มีหนังสือแจ้งเข้ารับการอบรม Macromedia Flash วันนั้นฉันได้ทำบทเรียนอิเล็กทรอนิกผ่านเว็บไซต์เหมือนฝัน
วันที่ขับรถผ่านสถาบันเดิม..มองจากภายนอกสวยสง่างาม เป็นเกียรติภูมิยิ่ง.. อยากเข้าไปเดิน ไปนั่ง ไปยืน ที่ที่เคยเป็นถิ่นของตัวเอง .. กลับไปเจอหนังสือแจ้งเปลี่ยนสถานที่อบรมมาที่ที่ฉันกระสันถึง.. ประมาณว่า..ปู่กระสันถึงไก่ไก่ก็มา..สามวันนั้นบนตึกไอทีกับบรรยากาศเก่าๆ
กลิ่นอายอดีตยังหอมอวลใจ ต้นไม้ริมสระบัว นนทรีย์ กฐินณรงค์ เสลา แคฝรั่ง แนวสักที่เคยเก็บดอกเล็กๆสีขาวร้อยก้านดอกหญ้าคา มงกุฎช่อชัยพฤกษ์ แหวนดอกหญ้า อินทนิลน้ำดอกโตสีม่วงแกมขาวอ่อนหวานเหมือนกล้วยไม้ ที่เคยวิ่งไล่ทัดหูกันหลังเรือนพยาบาล
บางใครที่คอยส่งขึ้นรถกลับบ้านที่ป้ายรถเมล์ บางใครที่มาตามหาทุกเวลาพักเที่ยง บางคนที่ให้ข่าว"รุ้งเหรอ..ไม่แคนทีนก็หอสมุด" แล้วเธอก็ตามหาฉันจนเจอ..
๒
เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นั่น ทำไมฉันมองเห็นตัวเองชัดเจนนัก หรือเพราะทองหลางด่าง..ปาริชาติที่กล่าวกันว่าใครได้กลิ่นก็จะระลึกชาติ .. ฉันพยายามระลึกชาติ..ใครอีกคนที่ปล่อยให้รอนานนักหนานั้นเล่าอยู่ไหนกัน.. ฉันมองทะลุสำนักหอสมุดที่มีป้าแก่ๆผมขาวโพลนเดินเข็ญรถจัดเก็บหนังสือ ป้าคนที่บอก"ไม่ต้องอายหรอกหนู ป้าหกล้มกลางตลาดป้ายังไม่อายเลย" วันที่ฉันทำหนังสือเล่มใหญ่ร่วงจากชั้นเสียงดังโครมคราม.. เข้าใจแล้วค่ะ..หลายวันต่อมาคนสวยทำโก๊ะได้แบบไม่อายออกจะบ่อยไป..
เวลานั้นยิมนาสติคมาแรงมาก แต่คงไม่มีใครใช้ท่าร่างได้งดงามเท่าฉัน.. วันที่ถลาร่วงจากฟุตปาทเพราะเหยียบขวดกลมกลิ้งบนพื้น แรงโน้มถ่วงของโลกในระติจูดนั้นเล่นเอาคนสวยหน้าคะมำเลย มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร ค่อยยังชั่ว..ใครว่าความลับไม่มีในโลก.. หลังจากวันนั้นฉันเลิกใช้รองเท้าส้นตึก หันมาใช้รองเท้าส้นแหลม!
แล้ววันดีคืนดีระหว่างเดินลงบันได ส้นแหลมนั่นก็มีอันแหย่พรวดเข้าชายกระโปรงบานพริ้ว หากคว้าราวบันไดไม่ทันฉันคงบินลงมาสบายๆเลยห้าขั้นรวด ไม่เจ็บ! แต่เกรงใจน้องคนนั้นจัง.. เธอต้องวิ่งเก็บลูกเทนนิสสำรองที่ร่วงจากกระเป๋าแล้วเด้งดึ๋ง..ดึ๋ง..ไปบนพื้นเกือบลงคู.. แล้วยังต้องรีบมาดูฉันที่นั่งพับเพียบแปร้บนพื้น แกะส้นรองเท้าออกจากชายกระโปรงที่พันม้วน "เป็นอะไรมั้ยครับ?" อ๊อย ..อยากเป็นนินจา..
วันนั้นเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นาน กลิ่นความหลังยังกรุ่นอยู่ทุกหนแห่ง.. ที่ต่างไปจากเดิมนอกจากอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อมสวยงาม ความสงบเงียบเรียบง่ายหายไป ครูบาอาจารย์เปลี่ยนชุดไปเกือบหมด บางท่านที่ยังเดินสวนอยู่ก็พร้อมจะเกษียณตัวเอง อาจารย์บางท่านเหมือนจะแก่กว่าฉันไม่กี่ปี ก็ได้เวลาปลดประจำการแล้ว ฉันคงต้องใช้ประโยคเดิมๆที่เคยฟังมาตลอดชีวิต"เวลาผ่านไปเร็วจัง" บุคลากรคุณภาพกลุ่มนี้มีผลงาน เกียรติประวัติมากมาย สร้างทรัพยากรบุคคลมารุ่นแล้วรุ่นเล่า มาถึงวันหนึ่งก็จะได้เวลาหยุดทุกอย่าง(หรือเปล่า)
๓ ฉันค้นบันทึก "ปลายฝน..ต้นหนาว" นี้มารื้อใหม่ในบ่ายจัดวันร้อนกลางเดือนเมษา เพียงแค่คิดถึงคนวัยเปลี่ยนเส้นทาง ฉันคิดถึงคนวัยเกษียณมากมาย ฉันคิดถึงตัวเองด้วย อีกสักสิบปีข้างหน้าฉันจะลำบากไหม เมื่อชีวิตการทำงานหยุดลง แต่ชีวิตประจำวันยังคงดำเนินต่อไป ถึงวันนั้นแล้วฉันจะเหงาไหม "คนเหงาคือคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง" ก็ฟังมาอย่างนี้ แล้วถ้าอย่างนั้นฉันจะคิดถึงอะไรได้เล่า .. อะไรทำให้ฉันคิดถึงพ่อ..
ถ้าพ่อยังอยู่ป่านนี้พ่อจะทำอะไร ในวัยเกษียณของพ่อม่ายรูปหล่อ? ถ้าพ่อยังอยู่ป่านนี้พ่อจะมีผู้จัดการชีวิตแล้วมั้ย? เธอจะดีและเหมาะสมเหมือนที่พวกเราวาดไว้หรือเปล่า? ฉันนึกไม่ออกสุภาพบุรษแสนดีของฉันจะใช้วิชาอะไรเลือก"คู่ชีวิต"? พ่อที่แสนจะคลาสิคของฉันจะเลือกศิลป์และศาสตร์แขนงไหนมาคัดสรรนางแก้วที่จะมาดูแลกัน ในบั้นปลายชีวิตของพ่อน่าจะมีชีวิตที่สะดวกสบายมีคุณค่า เป็นดอกผลที่ตรากตรำมาค่อนชีวิต ฉันคิดไปถึงคนอื่นๆในกรณีเดียวกัน คนวัยเกษียณ..
ขณะที่วงจรชีวิตของคนเรายืนยาวขึ้นจากพัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันอย่างเพียงพอในบั้นปลายของชีวิต คนส่วนหนึ่งจะทำอย่างไร ชีวิตจริงไม่ได้จบลงที่การเกษียณอายุ ทำนองเดียวกับชีวิตจริงไม่เหมือนนิยาย ชีวิตจริงไม่ได้จบลงด้วยการแต่งงานเหมือนนิยาย เช่นเดียวกับการเกษียณอายุราชการ หากนั่นคือการเริ่มต้นในอีกเส้นทางหนึ่งต่างหาก ฉันกำลังจินตนาการถึงชีวิตหลังเกษียณ ฉันพบเส้นทางหลังเกษียณของผู้ใหญ่หลายๆคน และมองเห็นความแตกต่างของการดำเนินชีวิต
ในมุมมองของฉันแล้วฉันคิดว่า ในช่วงที่เรายังมีเรี่ยวแรง ยังมีหน้าที่การงานทำ ยังมีสังคม เราก็น่าจะมีโอกาสได้สร้างรากฐานให้ตัวเอง สร้างกุศล บารมี สร้างมิตรมากกว่าศัตรู รู้จักที่จะเลือกให้อย่างจริงใจ ไม่ใช่ให้เพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า รวมถึงคนเคยมีอำนาจจะรักษาสภาพไว้อย่างไรไม่ให้เสื่อมตามกาลเวลา ที่สำคัญสร้างภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านได้สารพัดโรคสายพันธุ์ต่างๆทั้งจากจุลินทรีย์ ชีวภาพและกายภาพ
การดำเนินชีวิตในทุกวันคงไม่ใช่การใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วละมัง วันนี้ได้เวลาฉันต้องคิดวางแผนเพื่อชีวิตหลังเกษียณของตัวเองแล้วซี หากฉันจะใข้ชีวิตท่องไปในโลกกว้างจำเป็นต้องมีเงินก้อนเอาไว้ใช้ ฉันจะต้องประหยัด.. สไตล์การเก็บออมเพื่อใช้ในยามเกษียณของฉันหน้าตามันเป็นอย่างไร ฝนหยุดๆตกๆอย่างนี้มันจะไปถึงปลายฝนมั้ย ? ฝนจะตกรางไปก่อนหรือเปล่า!
แต่ไม่ว่าฤดูกาลจะเปลี่ยนไปอย่างไร สุดท้ายของต้นทางก็คือปลายทาง ฤดูฝน จะช้าเร็วก็มีปลายทางที่ปลายฝน ฤดูหนาวมีปลายทางที่ปลายหนาว มนุษย์น้อยมีอำนาจเหนือธรรมชาติเสียที่ไหนกัน ทุกชีวิตยังดำเนินไปตามวัฎรจักร เธอ..คนดีของฉัน..เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทุกฤดูกาลหรือยัง?
๔ เขียนถึงเธอ..คนดี..อีกครั้งวันที่เดินอยู่บนเส้นทางสายหมอก ฉันกำลังปฏิบัติการวางผังชีวิต ใช่.. ฉันกำลังวางแผนชีวิตหลังเกษียณ.. ไม่ใช่เตรียมเกษียณแบบฝึกการปลดเกียร์ว่าง..เธอไม่ได้คิดอย่างนั้นใช่มั้ย? ก็เธอคนออกจะรอบคอบขนาดนั้น..เธอกำลังเตรียมตัวเกษียณเหมือนกันใช่หรือเปล่า.. คนดีของฉัน..ในช่วงที่เรายังมีเรี่ยวแรง ยังมีหน้าที่การงาน มีสังคม เราก็น่าจะได้สร้างรากฐานให้ตัวเอง สร้างกุศล บารมี เธอทำได้ไหม? สร้างมิตรมากกว่าศัตรูอย่างที่แปลนไว้ เธอทำได้ใช่ไหม? รักษาความเชื่อถือศรัทธาไว้ไม่ให้เสื่อมตามกาลเวลา เธอทำได้อยู่แล้ว..สร้างภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านได้สารพัดโรคสายพันธุ์ต่างๆ
วันนี้..ฉันจะใช้ชีวิตสุขก่อนเกษียณอย่างที่ประกาศไว้วันปฐมนิเทศ วันนี้..ฉันกำลังดำเนินชีวิตระหว่างวันอย่างที่ได้รายงานตัวและตั้งปณิธานไว้ โชคดีของฉันเสมอที่พบเจ้านายแสนดีท่ามกลางบริบทงดงาม สุขของคนเรามีอะไรยิ่งไปกว่าทำทุกอย่างได้ตามความปราถนา อีกครั้งที่พบอาละดินจากตะเกียงวิเศษโดยไม่ต้องถูทา วันนี้ความรู้สึกยังคงเหมือนเดิมฉันยังอยู่ในสายตาของอาละดิน เพียงแต่ไม่ใช่มดง่ามตัวจ้อยอีกต่อไปแล้ว
ฉันในสายตาอาละดินเป็นอะไรแล้วไม่รู้ รู้แต่เราสบตากันจังจัง ทุกเรื่องราวในทุกมุมมองของฉันยังมีความหมาย ฉันมีมือที่มองไม่เห็นอยู่รอบตัวและโอบอุ่่นมาเสมอ ฉันมีห้องทำงานเป็นวิมานแก้วมองทะลุถึงสระบัว กลางลานพักผ่อนร่มรื่นประดับกล้วยไม้สารพัดสี ฉันมีเพื่อนร่วมงานที่มีความคิดอ่านไปในทิศทางเดียวกัน มีผู้จัดการชีวิตที่เข้าใจอยู่รอบรอบตัว
ฉันกำลังเรียนรู้วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของคนต่างความเห็น ไม่กังวลเลยกับคนหน้าสวยหยาดเยิ้มแต่พฤติกรรมหยาดหยอง เมื่อความคิดได้รับการสนับสนุนได้ทำงานทุกงานที่ออกแบบเอง ชีวิตฉันสุขเกินเหตุหรือเปล่านี่? ชีวิตเธอสุขเกินเหตุไหม? นะ..การดำเนินชีวิตในทุกวันไม่ใช่การใช้ชีวิตไปวันๆ วันนี้ฉันเริ่มคิดวางแผนเพื่อชีวิตหลังเกษียณของตัวเอง ฉันเตรียมตัวใข้ชีวิตท่องไปในโลกกว้าง ฉันจะต้องประหยัด.. สไตล์การเก็บออมเพื่อใช้ในยามเกษียณของฉันชัดเจนแล้ว ไม่มีปลายฝน ไม่มีต้นหนาว ทุกวันชีวิตยังดำเนินปกติ ข้างนอกหมอกควันจากฝีมือมนุษย์ทำให้บรรยากาศอึมครึม แต่รอบตัวฉันเย็นฉ่ำ มีดอกไม้บาน เธอสัมผัสได้ถึงความสุขของฉันแล้วไหม? นะ..ฉันแบ่งให้เธอ..
เพลงประกอบ เส้นทางนี้ : เจี๊ยบ วรรธนา
|