คนข้างกล่อง
ฝนพรำ..อากาศสลึมสลือ..ฉันปิดปากหาวกว้างกว้างอย่างมีกิริยา
เดือนที่สามของการการเป็นคนกล่อง สามเดือนแล้วสำหรับชีวิตคนตึกแถว..เบื่อแล้ว..
อะไรก็พอทนไหว กลิ่นอาหารสารพัน ควันบุหรี่..
เสียงบ่นด่าลูกเรื่องเดิมเดิม สำนวนซ้ำซาก รันทดแทนกระถินอ่อน (นามสมมุติ)
"พี่สาว"จะพยายามเสนอที่พักให้ใหม่ไกลกว่าเดิมนิด สงบอย่างใจ
แต่ฉันล้ากับการขนย้ายถ่ายเท ฉันขยาดกับการอพยพแล้ว
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีเลย ฉันเหนื่อยกับการเปลี่ยนแปลง
หรือฉันเริ่มกลัวความเงียบก็ไม่รู้ซี กลัวความคิดตัวเองมากกว่ามัง
ความคิดของคนเราน่ากลัวนะ
ความคิดในคืนวันที่ว่างเปล่า.. น่ากลัว.. บางทีฉันกลัวใจตัวเอง..
อั้ยที่ฉันทนไม่ได้ ไม่ใช่รูปเสียงกลิ่นรส ฉันทนจิตวิญญานตัวเองไม่ได้ต่างหาก
วันนี้ฉันรู้สึกอยากกลับบ้าน "บ้านของฉัน"
ดัดจริตอะไรขึ้นมา ? ไม่รู้ซี ตลอดชีวิตที่ผ่านมาฉันไม่เคยเห็นใครสำคัญเท่าตัวเอง
ฉันคนรักคนอื่นไม่เป็น
เอ่อ..หรือวันนี้ฉันพบใครบางคนที่ทำให้ฉันอยากมีบ้าน
บ้าไปแล้วมั้ง..ขับรถกลับบ้านอย่าง "ถวิล"
อยากกลับไปนั่งไปนอนในมุมเดิมเดิมที่เป็นเคยเป็นเจ้าของ
ห้องของฉันถูกจัดไว้ให้ใหม่งดงาม พร้อมเสมอสำหรับการคืนรังของฉัน
รักพี่กลางกับน้องน้อยจัง แต่ฉันกลับไม่พร้อม..ฉันใช้ชีวิตอิสระจนเคยตัว
เพราะที่พักใหม่ทำให้ฉันเหงากลางฝูงชน
เลยต้องยกเครื่องเสียงและรีเสริฟเวอร์สัญญานโทรทัศน์ไปด้วย
เข็ดจากคราวก่อนเอา pentax z1 วางเบาะหลัง
เลี้ยวโค้งที่สามสิบแปด เจอท้ายรถส่งน้ำแข็งเบรคกระทันหัน
ส่งเจ้ากล้องตัวโปรดเปล่าเปลือยร่วงไปกระแทกพื้นเดี้ยงซ่อมไม่เสร็จ
คราวนี้เลยต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ทุกอย่างส่งเข้าหีบห่อแพคอย่างดี
หันมาดูรถแล้วสังเวชตัวเอง..เต็มไปหมดเลย ..
โทรทัศน์ รีซีบเวอร์ เครื่องเล่น DVD โน้ตบุ้คตัวใหม่
เอ่อ..ย้ายบ้านระลอกที่สิบนั่นแหล่ะ..บ้าหอบอิเล็คทรอนิค..!
!
กับสายฝนจากฟ้าผืนเดียวผืนเดิม ฉันห่วงของมากกว่าห่วงเวลา
ย่องมาต้วมเตี้ยม..ต้วมเตี้ยม
ถนนเสี่ยงความลื่นเพราะยังซ่อมไม่เสร็จ ซ่อมมันไม่มีวันเสร็จ!
กันยายนนอกจากจะเป็นเดือนละลายทรัพย์แล้ว
ฉันยังพบว่ามันเป็นเดือนละเลงทุกข์คนเดินถนน
ขุดขุดถมถมกันอยู่นั่นแหล่ะ วัยรุ่นเซงงเรยย
ถึงที่พักต้องถอยหลังเข้าเพราะฝนตกน้ำเจิ่งนองไม่มีที่วางของ
ตั้งอกตั้งใจจอดแบบเปิดท้ายก็จะทะยอยส่งของเข้าบ้านได้เลย
ลงมาเปิดประตู ประตู..ประตู..อ่..าต้องไขกุญแจ กุญแจ
ยุ่งแล้วซี ฉันวางพวงกุญแจไว้ที่เดิมเดิมที่เคยเป็นเจ้าของ..
58 กิโลเมตรที่เพิ่งต้วมเตี้ยมต้วมเตี้ยมจากมา ฉันวางกุญแจดอกสำคัญไว้ที่นั่น!
รู้สึกเหมือนมีควันออกมาจากจมูก ทั้งที่อากาศเย็น
มันกี่ครั้งแล้วเนี่ยที่ฉันต้องกลับหลังหัน หันหลังกลับไปหยิบนั่นหยิบนี่จากที่ที่เพิ่งจากมา
ไม่ใช่หลงลืมนะ ไม่แก่นะ ..อย่านะ..อย่าห้าหาวนะ
ฉันกำลังห่ามห่าม ไม่แก่นะ..อย่าหยาบคาย ฉันห่ามห่าม รอเวลาสุกงอม..หอมหวาน..
คนข้างบ้านเข้ามาด้อมด้อม สงสัยฉันคิดอะไรมั๊ง
เห็นฉันจอดอยู่นานไม่เข้าบ้านสักทีเดินมาถามได้ความแล้วเดินหายไป
กลับมาอีกครั้งพร้อมไขควงเล็กเล็กและอุปกรณ์น่าตาแปลก
เขาเปลี่ยนกุญแจบ้านให้ฉัน คนหน้าตาดำดำ ผิวกร้านแดด
พูดเหน่อเหน่อไม่มีคำลงท้าย ที่มาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่ เขาแก้ปัญหาให้ฉัน
จริงจริงแล้ว ถ้าตัดเรื่องความรำคาญจุกจิกกับเรื่องเล็กน้อย
ที่ตรงนี้ก็นับว่าฉันยังมีเพื่อนบ้านที่ดี อย่างน้อยมีคนสอดส่องดูแลฉันตามธรรมชาติมนุษย์
นับเป็นเรื่องดีทีเดียวสำหรับฉัน เอาเถอะนะ
เพียงที่ซุกหัวนอนของหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้จะแตกดับลงวันไหน
ฉันยืดเวลาอยู่ที่ทำงานอีกนิด ลดเวลาอยู่ที่พักอีกสักหน่อยก็ลงตัว
อยู่นานไปก็คงชินไปเอง คิดได้อย่างนี้สบายใจ..
สุภาษิต คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก ยังใช้ได้เสมอ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทำอะไร ให้ใจเราร่มเย็นก็เป็นพอ .
"We are all travelers in the wilderness of this world, and the best we can find in our travels ia an honest friend." - - R.L.Stevenson - - เราทั้งหมดนี้เป็นนักเดินทางที่ท่องไปในที่รกร้างรอบโลก และสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้ค้นพบคือเพื่อนที่ซื่อสัตย์
|