ในวันหนึ่งที่ได้รับเมล์ เชิญชวนไปบริจาคโลหิต
กรุ๊บเลือดตรงกับเลือดของฉัน.. แต่ทำได้แค่ถอนใจ
หลายปีที่ผ่านฉันระทมทุกข์อยู่กับความเข้าใจผิด..
หลงโทษตัวเองมาตลอดว่าทำบาปโดยไม่รู้ตัว
เลือดที่ฉันบริจาคมาหลายต่อหลายครั้ง มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี!!
ฉันเพิ่งรู้ในวันที่ธนาคารเลือดปฏิเสธการรับเลือดครั้งสุดท้ายของฉัน
ฉันไม่มีความสุขอีกเลยหลังจากวันนั้น ความภูมิใจใน"บุญ"หมดไป
จนกระทั่งวันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกับน้องพยาบาลคนหนึ่งในคิวคิว
เธอเหมือนเทพธิดาในใจของฉัน แม้เราจะไม่เคยรู้จักกันเลย
แต่จากการคุยกันวันนั้น ทำให้ฉันได้รู้ว่า เลือดของฉันไม่ถึงผู้ป่วย
เพราะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบก่อนนำไปใช้
ไม่ว่าสภาพความเป็นจริงจะคืออย่างไร..
หลังจากวันนั้น ฉันปลิดปลงทุกข์ทั้งมวล
และบอกตัวเองว่า บาป-บุญอยู่ที่เจตนา
สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจของเรานี่เองจริงจริง..
ในวันที่ฉันประสบอุบัติเหตุปางตายคราวนั้น ฉันพบแล้วปาฏิหารย์
ศุกร์ที่ 28 เมษายน .. วันที่มฤตยูเฉียดกรายระยะเผาขน!!
ปีสุดท้ายของการเรียน ทั้งวิทยานิพนธ์ ทั้งโปรเจคทรานสเลชั่น..
ฉันนอนดึกติดกันหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะกับงานวิจัยที่ทุ่มเท
ในชีวิตการเรียนแล้ว..วิชาคณิตศาสตร์กับฉันเป็นอริกัน
ฉันไม่ชอบคิดคำนวณ..เห็นตัวเลขอย่างเดียวก็วิงเวียน
นี่ตัวเลขใส่สูทเดินมาเป็นแถวกับภาษาอังกฤษ..โอ้ยอยากเป็นมดง่าม!!
น้องน้อยและ'คณะ' อาสาติวให้ (ก้อติวมาตลอดแหล่ะ จนติวเตอร์เอือมระอา)
นัดพบสี่โมง สามโมงฉันยังเม้าส์กระจายอยู่ตึกสีอิฐห่างจุดนัด 195 กม.
วันนั้นเป็นวันศุกร์ก่อนหยุดยาว รถทั้งขาเข้าขาออกเป็นแนวยาวเหยียด
ฉันอาศัยเป็นเจ้าถิ่น(รู้ว่าตรงไหนมีจราจรไม่มีจราจร)
แซงซ้ายแซงขวามาอุตลุต
ผ่านเขาคดโค้งออกมาถึงทางตรงได้ก้อเหยียบสุดสุด..
ช่วงนั้นเป็นทางต่างระดับ ล้อหลังซ้ายตกไหล่ทางขรุขระเสียหลัก
สมองคงล้าเต็มที ฉันบังคับรถไม่ได้ ข้ามลู่ปาดหน้าสิบล้อลิ่วๆ
ลงสวนสักข้างทาง เหมือนได้ยินเสียงใครสักคน
"เวลารถวิ่งเร็วๆอย่าแตะเบรคกระทันหัน จะพลิกคว่ำ"
ฉันไม่แตะอะไรสักอย่าง คุมสติไม่อยู่แล้ว
นึกถึงพระพุทธคุณ พระธรมคุณ พระสังฆคุณ
และท้ายสุด...พ่อขา...ลูกไม่ไหวแล้ว..
มาสด้า 626 คันนั้นฝ่าดงมะขาม ยูคาลิปตัส ไปหยุดสนิทที่เสาไฟฟ้าแรงสูง
มีมะขามหนึ่งต้นติดไปกับหลังคาที่ยับเยิน
กระจกแตกละเอียด ยกเว้นด้านหน้ากับด้านคนขับ
เสาไฟฟ้าแทบจะเข้ามาจับมือแสดงความยินดีกับฉันในเวลานั้น
โชคดีที่มีคัดซี แกร่ง..เสาไฟฟ้าหัก ทว่าไม่ล้มเพราะสายไฟหลายเส้นมีโยงอยู่
ไฟฟ้าดับทั้งแถบชาวบ้านละแวกนั้นถูกหวยกันทั้งหมู่บ้านจากเลขท้ายรถฉัน !!!!
น้องน้อยบอกมีพวงมาลัยดอกไม้สดดอกไม้แห้งเต็มซากรถในวันรุ่งขึ้น..
ฉันไม่ลืมคุณมาโนชญ์ เจ้าของโตโยต้า ไทเกอร์ ออพโรด สีบรอนซ์ใหม่เอี่ยมคันนั้น
คุณมาโนชญ์ขับรถตามฉันลงไปถึงข้างล่าง และพาฉันไปโรงพยาบาล
"นึกว่าผู้ชาย" เขาบอก รถฉันคันนั้นติดฟิลม์ค่อนข้างมืด
"คุณโชคดีที่รอดตาย แต่โชคร้ายที่หลบเสาไฟฟ้าไม่พ้น"
เขาชวนฉันคุยมาระหว่างทางคงกลัวฉันใจเสาะสละร่าง
ขอบคุณคุณมาโนชญ์ในวันนั้นเหลือเกิน
เขาทำท่าเหมือนพาเด็กหกล้มหัวเข่าแตกไปล้างแผล
ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด จนกระทั่งเห็นตัวเองเลือดท่วมตัวในกระจก
พี่ใหญ่กับพี่รองขำฉัน ตอนไป"เคลียร์พื้นที่" ทั้งตำรวจ และการไฟฟ้า
"ไม่มีร่องรอยการเบรคเลย ลุยจริงจริง"
โธ่ แค่เห็นสิบล้อผ่านมาไหวๆฉันก้อจะแปลงร่างเป็นลิงลมแล้ว!!
น้องน้อยบอกโชเฟอร์สิบล้อบอกตำรวจ "เขาปาดหน้าผมไปนิดเดียว"
หลังจากวันนั้น พี่กลางกับน้องน้อยบังคับฉันฟังเพลงมิวสิคบ๊อกซ์
โชคดีหน่อยที่เป็นเพลงโปรด " รื้อฟื้นความทรงจำ" เธอว่างั้น
คงกลัวฉันกระทบกระเทือนทางสมอง โอ้ว.บางอย่างฉันไม่อยากจำนิ..
เดี๋ยวนี้ฉันพอใจฟังเพลงบรรเลงมากกว่า เพราะรู้สึกสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน
(บางทีพบว่าตัวเอง "อิน" กับเพลงก้อออกจะบ่อยไป)
เพลงมีอิทธิพลกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง
นักพฤกษศาสตร์จึงได้พยายามที่จะโน้มน้าวให้คนรักต้นไม้ทั้งหลาย
บำรุงรักษาต้นไม้ด้วยเสียงเพลง (เปิดเพลงให้ต้นไม้ฟัง)
เรามักได้ยินเสมอๆว่า เสียงเพลงทำให้ดอกไม้ผลิดอกงามสะพรั่ง
ผลไม้ติดดอกออกผลน่าพอใจ แผ่รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงที่มีสุขอนามัยที่ดีด้วย
เพลงมีอิทธิพลต่อเด็กในทารกในครรภ์มารดา
เพลงในวันนี้ มีอิทธิพลครอบงำจิตใจ และสมองของฉันด้วยเช่นเดียวกัน
ปกติฉันจะชอบฟังเพลงแนวโรแมนติค..แต่หลังจากอุบัติเหตุคราวนั้นแล้ว
ฉันเปลี่ยนมาชอบฟังเพลงมิดี้ประเภทมิวสิคบ๊อกซ์..
เพลงหลายเพลงอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกแทนเธอ
เพลงบางเพลงส่งกำลังใจมาให้เธอแทนใครสักคน
แต่เพลงบางเพลงก้ออาจถอนกำลังใจของเธอได้ทั้งหมดเช่นเดียวกัน
เพลงมีกำหนดเวลา เพลงมีตอนจบ เราเลือกที่จะฟังเพลงได้
เลือกที่จะให้กำลังใจตัวเองเถอะนะ เพลงชีวิตยังไม่จบ..
|