Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14022663  

ลมหายใจของใบไม้

ฤามิใช่..ความรัก..
 
 
 
 
ใกล้ถึงเทศกาลลอยกระทงอีกแล้วใครใครอาจมองแค่..งานรื่นเริง..วันหนึ่งในรอบปี..
แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นจุดเริ่มของชีวิตผมทีเดียว
บางคนมองเห็นเพียงดวงจันทร์ส่องสว่างอยู่บนผืนฟ้า
แต่สำหรับผม..มันสว่างมาทั้งชีวิต..

ผมเป็นผู้ชายคนเดียวหรือเปล่าในทศวรรษนี้ที่นั่งทำกระทงหยวกกล้วยประดับกลีบโกศล ใบตองกล้วย
หมดต้นกล้วยไปกี่ต้นไม่รู้ .. กระทงใบแรกใบเดียวของผม..
เพียงให้เธอ คนที่เคยเป็นนางแก้วของผม เห็นอุตสาหะ
และตอบรับไปลอยกระทงกับผม..
วันเวลาในคืนนั้นของผมผ่านไปนานแล้ว ทว่ายังสนิทแน่นในความจำของผมตลอดมา
ผมไม่ชอบการเขียนบันทึก.. .เพียงแต่ในเวลานี้ ..ขอเนื้อที่ตรงนี้ประทับอนุทินไว้เพื่อระลึกถึงเธอ

บันทึกถึงวันที่เราเดินเคียงกันฝ่าฝูงชน
ผมไม่ลืมภาพเธอแหงนหน้ามองดอกไม้ไฟที่โน่นที่นี่ เสียงหัวเราะหวานใสชี้ชวนผมดูพลุและโคมลอยฟ้า
ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของผม เราลอยกระทงใบเดียวกัน
กระทงใบนั้นลอยอ้อยอิ่งไปกลางแม้น้ำ เทียนสุกสว่างจนลับตา
ไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นเพราะดวงชะตาของใครหากผมเชื่อเสมอว่าดวงชะตาของเราเกื้อหนุนกัน
ผมเชื่อเสมอว่าสองมือกับหนึ่งใจของเธอผลักดันชีวิตผม

เพียงแต่ในวันนั้นเธอปฏิเสธผม..ชีวิตของเราทั้งสองคนคงไม่ลงเอยอย่างในวันนี้..วันที่ผมทำร้ายเธอ..
หากไม่มีวันนั้น จะไม่มีวันนี้.. วันที่ผมทำให้เธอร้าวราน ใครหนอลิขิตให้การเริ่มต้นมีปลายทางที่จุดจบ..

ธนูดอกที่ 1

คุณที่รักมองย้อนไปในวัยสิบเก้าปีของผม ผมไม่นับว่าด้อยเลยในรุ่นเดียวกัน
ผมรูปหล่อครับ ไม่ได้หลงตัวเองนะแต่ใครใครต่างพูดอย่างนั้น
อยากให้รู้จักความเป็นผม ผมมีรูปใบหน้าสี่เหลี่ยม คางเป็นรอนเล็กๆ
คิ้วดกดำเป็นปื้น รวมกับสายตาคมกริบสีเหล็ก ผมขี้เหร่ซะที่ไหนกัน
ผมชอบเล่นกีฬา กางเกงขาสั้นเสื้อยืดดำขลิบขาวชุดที่ใส่ประจำ
ทำให้ผิวขาวของผมยิ่งดูสว่างไสวเด่นในทีมเดียวกัน ต้องตาสาวๆ
ทุกนัดฟุตบอลของผมจะมีน้องๆต่างสถาบันมานั่งเชียร์ ทั้งที่บางคนไม่เคยรู้จักทักทาย
แปลกไหมที่ผมไม่ให้ความสนใจใครเป็นพิเศษในเวลานั้นนอกจากคนในใจของผม..
ทว่าในเวลานั้น ผมไม่เคยอยู่ในสายตาเธอ..เธอไม่เคยเห็นผมด้วยซ้ำไป
จนวันที่เราพบกันประจัญหน้า วันที่ 29 ธันวาคม ผมจำได้แม่น
เธอมองผมอย่างฉงนพร้อมกับคำถามที่ยิงมางง ๆ " มาทำอะไรอยู่ที่นี่."
คุณที่รัก..รู้ไหม กระทบใจผมอย่างจัง
เหมือนเธอพูดว่า "คอยอยู่ตั้งนาน ตามหาตั้งนาน มาอยู่ที่นี่เอง"ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ผู้ใหญ่เคยบอกว่ากามเทพมีตัวตน ผมเชื่อครับ..
จากวันนั้น กามเทพเริ่มทำงานแล้วเงียบๆ แต่สม่ำเสมอ..มั่นคง..
เธอไม่รู้สึกตัวแม้สักนิดว่ามีคนแอบชื่นชมเธอไม่ใช่คนสวยจัด แต่เธอน่ารักมาก เก่ง(ผมชอบผู้หญิงเก่งครับ)
ผมเฝ้ามองดูเธอทุกวัน เธออายุห่างผมหลายปี แต่ผมมองไม่เห็นความแตกต่าง
เปรียบมวยแล้วผมคุ้มครองเธอได้
เธอคล่องแคล่วร่าเริง เหมือนนกเล็กเล็กในไร่ส้ม คุยเก่งสนุกสนาน
พูดได้เต็มปาก เต็มใจ อยู่ไกล้เธอๆแล้วมีความสุขครับ
คุณรู้ไหม..บางวันผมนั่งฟังเธอเงียบเงียบคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนถึงเวลากลับโดยไม่รู้ตัว
ผมคิดถึงเธอตลอดเวลา ผมรู้..เราต่างกันเหลือเกิน
ต่างกันทุกฐานันดร ชื่อเสียง เกียรติยศ การศึกษาและชาติตระกูล ผมกลับไม่ย่อท้อเลย
นึกมาถึงตรงนี้ ผมเห็นแก่ตัวมากไปจริงจริง แต่ก็ผมรักของผมนี่นะ..
กามเทพเล็งธนูดอกที่หนึ่ง..ดอกที่พันผูกด้วยดอกไม้ขาวกลีบบาง
ร้อยระย้าด้วยดอกรัก..รัก..ผลิดอกที่ตา บานเบ่งที่ใจ
ใครจะรู้ว่าดอกไม้ปลายศรนั้นอาบยาพิษ..ผมเองยิ่งไม่อาจรู้ หากผมรู้ล่วงหน้าสักนิด..
เราคงไม่ปลายทางที่ลาจาก ทำไมคนที่รักกันเหลือเกินต้องจากลา
ทุกชีวิต ฟ้าดินลิขิตโชคชะตาไว้แล้วหรืออย่างไร
ธนูดอกที่ 2


คุณที่รักครับ นับจากวันที่พบดวงแก้วประจำใจของผมแล้ว
สายตาของผมไม่เคยมีใครอีกเลย เป็นความสัตย์จริง
แม้จะแอบได้รู้ว่ามีผู้หญิงหลายคนแอบมีความหวังในตัวผม
(ก้อรอยยิ้มเปิดโลกของผมนั่นสว่างไปถึงใจใครใครหลายคน)
คุณรู้ดีกระมังครับ ว่าผู้ชายฟันสวยยิ้มมีเสน่ห์แค่ไหน
แต่เปล่าหรอกนะ ผมไม่วอกแวกทุกวันผมต้องหาเวลาเข้าใกล้ชิดเธอ
งานหลายชิ้นของเธอสำเร็จได้เพราะฝีมือผม บอกแล้วไงว่าดวงของเราเกื้อหนุนกัน
คุณรู้ไหม ในวันที่หนุ่มสาวมีความรักโลกสวยไม่มีอะไรเปรียบ
ผมรู้ว่าเธอไม่ปฏิเสธผม แต่ในความเป็นกุลสตรี เธอค่อนข้างถือตัวครับ
นั่นยิ่งทำให้ผมเกิดมานะ ผมฝันที่ให้เธอรับผมเป็นคนในดวงใจของเธอ
ทุกวิธี.. วิถีทาง..

ผมไม่เคยลืมวันที่เราเดินเคียงกันวันฟ้าเป็นใจ วันที่มีสะพานรุ้งเป็นพยาน
รุ้งที่สวยที่สุดที่ผมเห็น ไม่ใช่อุปทานเลย รุ้งวันนั้นสีสดใส โค้งจรดฟ้าสองฟาก จริงจริงนะ
คุณที่รักครับเวลาผ่านไปเกือบปีผมเพิ่งจะได้ออกเดทครั้งแรกกับเธอวันลอยกระทง
กระทงที่ผมทำด้วมือของผมเองกับหัวใจรักทั้งดวง
กามเทพเล็งธนูดอกที่สอง ธนูที่อาบด้วยน้ำผึ้งและดอกไม้หอม
ผมรู้ว่าเธอมองหาผมในวันที่ผมห่างหายไป
เหมือนในวันนี้ ป่านนี้เธอจะเจ็บ จะร้าวสักเพียงไหน
(คนดีของผม รอก่อนได้ไหม ผมอยากให้โลกหมุนกลับมา
รอก่อนได้ไหม หยุดใจก่อนได้ไหม)
กามเทพเจ้ากรรม..ธนูดอกที่สองเคลือบยาพิษที่ฤทธิ์ร้ายกว่าเดิม
และมันเล็งเป้ามาที่ผมฝ่ายเดียว..
จึงในวันนี้..เธอคงไม่คิดย้อนกลับแล้ว คนใจแข็งอย่างนั้น
ต่อให้อกตรมอย่างไร ก้อคงเชิดหน้าชื่นหลอกตัวเอง คนหลอกตัวเอง..

ธนูดอกที่ 3

จากงานเทศกาลลอยกระทงในปีนั้น..ผมก้าวเข้าไปใกล้ใจเธออีกนิด ไม่มีวันไหนที่ผมไม่ได้พบ
ก็ผมจะอยู่ได้อย่างไรเล่า หากวันนั้นไม่ได้เห็นหน้าเธอ ?
วันเวลาที่ผมได้ใกล้ชิดเธอ..คุณที่รัก..เลือดในกายหนุ่มของผมพล่านจนกลัวเธอจะรู้สึก
ผมเองก็เหมือนคนหนุ่มทั่วๆไป อยากเป็นเจ้าของชีวิตเธอ ใช่..ผมหมายถึงอย่างนั้นจริงจริง..
ใจหนุ่มร่ำร้อง..ใจรักเร่งเร้า..อยากครอบครอง..แต่ที่ทำได้เพียงปลายสัมผัส.. ผมได้สัมผัสจากเธอเหรอ..
อย่างมาก.. ปลายศอกนุ่ม..ปลายนิ้วเนียน..แค่กลิ่นกรุ่นของเส้นผมหอมที่ปะทะหน้าผมยามลมพัด..
ใจทั้งใจของผมก็ไม่มีเหลือแล้ว ผมยกให้เธอ..
ผมไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ ตรงข้าม..ผมซื่อนะ..
ซื่อจนบอกเธอไปตรงตรงไม่อ้อมค้อมในวันหนึ่ง..ว่าผมรักเธอ..
คนซื่อคนนี้บอกเธอไปอย่างไม่หวั่นไหวกับปฏิกริยาที่จะย้อนกลับ..
ผมผิดเหรอ..ผมบังอาจเหรอ..หากเป็นคุณ..คุณจะทำอย่างผมไหม
คุณที่รัก..กามเทพเล็งธนูดอกที่สาม ธนูดอกนี้คันศรถักทอด้วยเถาวัลย์
ใช่..เถาวัลย์..เถาวัลย์เกี่ยวกระหวัดไพรพฤกษ์ เชื่อมความสัมพันธ์แน่นเฟ้นของเรา
บางที..จุดอ่อนของเธออยู่ตรงนี้..มองโลกในแง่ดีเกินไป เธอวางใจผมสนิท
"ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"
คุณคงคิดเหมือนผม..
"มดแดงแฝงพวงมะม่วงงอม เฝ้าไต่ตอมเต็มอยู่ไม่รู้รส"
ผมปองเธอ ผมเฝ้าเธอมากว่าปี
ผมเริ่มคิด..ข้าวสารเป็นข้าวสุกได้ ข้าวสุกเป็นข้าวสารไม่ได้
ผมเลือกจะทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุก..
ผมไม่ได้คิดทำอะไรผิด ก็ผมรักของผมนี่นะ
ผมไม่ใช่เทพบุตร..แค่ซาตาน ซาตานหลงทางรักเท่านั้นเอง.
กามเทพเอย..บัญชาสวรรค์ใช่หรือไม่..ที่ต้องถักทอคันศรด้วยเถาวัลย์..


ธนูดอกที่ 4

คุณที่รักครับ
แม้โลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน สังคมไทยจะหมุนตามโลกสักเท่าไหร่
วัฒนธรรมประเพณีจะถูกกร่อนกลืนไปกับช่วงเวลาอย่างไร
ในอีกมุมหนึ่ง......ยังมีสตรีอีกมากมายที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ
ถูกครอบงำภายใต้ม่านประเพณีที่ตีกรอบโดยผู้ชายเห็นแก่ตัว
คุณเองคงรู้ดีหญิงไทยอีกส่วนหนึ่งยังเคร่งครัดประเพณีไทย
รักนวลสงวนตัว ..ไม่ชิงสุกก่อนห่าม..
แน่นอนดวงแก้วของผม..เธอรักนวลสงวนตัว ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
ผมต่างหากซาตาน สอยเธอลงมาพร้อมพร้อมกับธนูดอกที่ 4
กามเทพเล็งธนูดอกที่ 4 ธนูดอกที่ร้อยด้วยสายใยจากหัวใจรักของผม
..ผมปล้นเธอ..

ทว่า..หลังจากวันนั้นแล้ว ผมตกนรกทั้งเป็น
คุณจะรู้สึกอย่างผมไหม คุณจะรู้สึกอย่างไร..หากคนที่คุณรักมองคุณเหมือนอากาศธาตุ
เธอมองผ่านผมว่างเปล่าและไม่เปิดโอกาสให้ได้ไกล้ชิดอีกเลย
คุณครับ
เคยหวังว่าผมจะได้เป็นเจ้าของชีวิตเธอ ผมผิดแล้ว..เธอต่างหากเป็นเจ้าของชีวิตผม
เดือนมีนาคมปีที่สองของเรา...ผมเพิ่งเรียนจบ
ในขณะที่เธอขมักเขม้นจะไปศึกษาต่อระดับสูงกว่า
อหังการ์ คุณคิดอย่างนี้ใช่ไหม..
บอกไว้ข้างต้นแล้วนี่ครับว่า เราไม่เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง
คุณที่รักครับ..กามเทพไม่สิ้นความพยายาม
ผมไม่เคยใช้ภาษิต"ตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก"
หากทว่าผมจะพิสูจน์ให้เธอเห็นความรักยิ่งใหญ่ของผม
ผมตัดใจไปทำงานไกลตา ผมจะสร้างฝันให้เธอ
คุณเข้าใจใช่ไหม ในวันที่ห่างตา ผมแทบขาดใจ
แต่ผมไม่ท้อเลยแม้สักวัน ขอเพียงได้รับฟังข่าวเธอบ้างเท่านั้น
ในระหว่างเวลานั้นยิ่งทำไห้ได้รู้ว่าชีวิตของผมขาดเธอไม่ได้แล้ว
หัวใจรักเรียกร้อง ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผม..
ผมกลับมาเสนอหน้าทุกสัปดาห์ด้วยระยะทางกว่า 500 กม.
เธอไม่อาจทนเห็นผมลำบาก (ผมเข้าข้างตัวเอง)
"ทำไมไม่ทำงานใกล้บ้าน.." ประโยคนั้นสลายทุกข์ทั้งมวลของผม
เธอออกปากชวนให้ผมกลับมาทำงานใกล้บ้าน ใกล้เธอ ใกล้ใจ! ใช่หรือไม่
ผมคิดไปเองหรือเปล่า..
คุณที่รัก
ผมประสบความสำเร็จด้วยกำลังใจจากเธอนี่เอง
อย่างน้อย..ผมรับรู้แล้วว่า..เธอไม่ได้เกลียดผมเสียเลยทีเดียว
ด้วยกำลังใจที่ผมประทับไว้ในชีวิตเสมอมา
ในสองร้อยสามสิบเจ็ดคน ผมเป็นที่หนึ่งครับ
ผมได้งานรัฐวิสาหกิจใกล้บ้าน ใกล้เธอ..ใกล้ใจ
ผมได้ไกล้เธออีกครั้ง ..ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
ผมสร้างฝันให้เธอ เราร่วมกันสร้างฝัน..
วันเวลาแห่งสุขนั้นหวานนัก เธอมอบชีวิตไว้กับผม
เราเป็นเจ้าของชีวิตซึ่งกันและกัน
แต่ทว่า...กามเทพยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ แผลงธนูดอกที่ 5 ..
ธนูดอกที่ 5 ร้อยด้วยรักซ้อนและกลีบนวลของลั่นทม
กามเทพเผลอเรอหรือไร..
ธนูดอกที่ 5

คุณที่รักครับ
ติดตามมาถึงตรงนี้..คุณคิดเหมือนผมไหม..
หาก"ราคี"ประทับไว้ที่หน้าผากเนียนของสตรีใดใดที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว
ผู้ชายทั้งโลกคงได้พบเรื่องมหัสจรรย์อีกเรื่องหนึ่งของโลกเป็นแน่แท้
หรือคุณคิดอย่างไรกับสังคมปัจจุบัน..
แต่สำหรับดวงแก้วของผม ดวงใจเธอบริสุทธิ์เสมอ แม้ในวันนี้..
ก็ผมรู้..ราคีใดใดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะจากความประพฤติผิดจารีตของเธอ
เป็นผมต่างหาก..แต่ผมก็ยอมรับแล้วนี่นะ..ไม่ใช่รับผิด..เพราะผมไม่ผิด..
ผมตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัว ในขณะที่เธอเองพยายามคลี่คลายสถานการณ์
คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
ในความที่เธอวางตัวดีมาตลอด..ไม่เคยประพฤติเสื่อมเสีย
ทางบ้าน ญาติพี่น้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ของเธอไม่รู้เรื่องราวของ "เราสองคน"
ในท่ามกลางญาติพี่น้อง ผมให้เกียรติเธอเสมอ
เราเป็น"เพื่อนต่างวัย" ในสายตาของผู้ใหญ่
นี่เองเปิดช่องว่างให้กามเทพแผลงศร ด้วยธนูดอกที่ 5
ธนูดอกที่ 5 ที่ร้อยรักทักทอด้วยรักซ้อนและกลีบลั่นทม
คุณที่รัก
ยิ่งเธอพยายามให้ผมคลุกคลีสนิทสนมกับญาติพี่น้องของเธอมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งเหมือนผลักดันให้ผมใกล้ชิด"เธอ"
"เธอ"คนที่ไม่รู้ว่าผมมีเจ้าของชีวิตแล้วมากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็นผมอีกมุมหนึ่ง ผมชอบช่วยเหลือคนอื่น และปฎิเสธไม่เป็น
กามเทพเอย.....ฟ้าลิขิตให้ผมทำร้ายดวงแก้วของผมโดยไม่ตั้งใจ..
ผมสอนคอมพิวเตอร์โปรแกรมแล้วโปรแกรมเล่าให้กับเธอคนนั้น
โดยลืมฉุกคิดถึงความรู้สึกของดวงแก้วของผมเสียสนิท..ก็ผมบริสุทธิ์ใจ..
คุณคิดอย่างไร..
ชายหนุ่มหญิงสาวตามลำพังในห้องคอมพิวเตอร์แม้ยามยามค่ำคืน
แต่ดวงแก้วของผมร้าวไปแล้วทั้งใจ.ผมฉุกใจคิดได้เมื่อเธอเงียบและเก็บตัว
วันแล้ววันเล่า เวลาล่วงผ่าน..เธอไม่เคยปริปาก จนถึงวันสุดท้าย
วันที่เธอพบเราสองคนอ่านหนังสือพิมพ์เล่มเดียวกันในห้องนอน
จริงจริงแล้ววันนั้นผมซ่อมพีซีให้เธอต่างหาก พอดีมีข่าวน่าสนใจ
เธอยื่นข้อเสนอให้ผมย้ายที่ทำงาน..ตัดไฟต้นลมเธอไม่อยากเสียทั้งสองคน
เราต่างเป็นที่รักของเธอ..ไม่ใยผมจะชี้แจงเท่าไหร่..เธอยืนกราน..
เธอถามผมว่าเราจะจากกันทั้งที่มีชีวิตอยู่หรือจะให้เธอตัดใจจากไปชั่วชีวิต
ผมรู้ว่าผู้หญิงใจเด็ดคนนั้นทำได้..
ผมคว้าร่างเธอไว้ก่อนที่จะทิ้งตัวลงผืนน้ำใต้สะพานโค้งในคืนเดือนมืด
ผมไม่อายที่จะบอกว่า น้ำตาลูกผู้ชายของผมตกกระทบผมของเธอเปียกชื้น
เธอในอ้อมกอดของผมยิ่งร่ำไห้ปิ้มจะขาดใจ เราจากกันทั้งที่ยังรักเหลือเกิน
กามเทพแผลงศร ธนูดอกที่ 6 ถักด้วยใบจากและน้ำตา
ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ใครหนอลิขิตให้จุดเริ่มต้นมีปลายทางที่จุดจบ..

ธนูดอกที่ 6

ใครที่ไหนกันเล่าจะได้รับทั้งทุกข์และสุขโดยอุณหภูมิชีวิตเดียวกัน
.คุณที่รักครับ..ในความรักนั้น..มีแสงสว่างให้อบอุ่นได้เสมอ.
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต.. ไม่คาดคิด..
..ในจังหวะนั้นของชีวิต ผมกลับได้ดวงแก้วคืนกลับมา..
..โชคชะตาคงเวทนาผมเต็มทีแล้ว ..
หลังจากดำเนินเรื่องการเปลี่ยนงานผมป่วยหนักด้วยมาลาเรียขึ้นสมอง
ผมเพ้อ ผมทุรนทุรายในทะเลทุกข์ สิ้นหวัง
ในความเวิ้งว้างของรอยต่อระหว่างความเป็นกับความตาย
ผมพบแต่หน้าของเธอลอยคว้างเชิงซ้อนหากไขว่คว้าไม่พบแม้เพียงกลิ่นไอ
หรือถึงเวลาต้องชดใช้แล้วด้วยชีวิต ?
ผ่านไปเนิ่นนาน ชีวิตแห้งผาก อ้างว้างปลายสัมผัสสุดท้ายของสติสัมปชัญญะ
เสียงเธอเหมือนลอยมาจากที่แสนไกล "อย่าเป็นอะไรไปนะ ..รักคุณนะ..
อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
ขอแต่ให้รู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่"
ผมรู้ ผมรู้เสมอ..ผมจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอ..
ผมป่วยอยู่เกือบเดือน ตลอดเวลานั้น..เธอไม่เคยห่างผมเลย..
..อ้อมกอดของเธออบอุ่นนัก ....จุมพิตของเธอหวานนัก..
หากยืดเวลาป่วยได้ ..อยากเห็นแก่ตัวจริงจริง
ผมออกจากโรงพยาบาลในเดือนกันยายนตุลาคมผมรับเงินเดือนของงบประมาณใหม่
ที่ทำงานใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ใจดวงเดิมแต่หนาวเหน็บ..ห่างไกลเหลือเกิน..
ป่านนี้..คนทางโน้นจะเป็นอย่างไร..
"ยามกินเห็นแต่จะกินน้ำตาร่ำ ยามค่ำก็จะนอนถอนใจใหญ่
จะซูบผอมตรอมตรมระทมใจ ใครเล่าจะบำรุงรักเอย"
ธนูดอกที่ 7
ดอกขจร
ความรักที่แสนไกล
ชีวิตในเมืองหลวง..
ผมใช้เวลาอยู่กับงาน งาน และ งาน
ในแต่ละช่วงวันของผมดำเนินไปเหมือนกันทุกๆวัน
กว่าจะได้พบได้คุยกับดวงใจของผมก็สี่ทุ่มไปแล้ว
เราคุยกันทาง ไอ ซี คิว
โดยปกติแล้วเธอจะใช้เวลาขลุกอยู่กับอินเตอร์เน็ท
เธอจะมีเรื่องเล่าแปลกแปลกส่งมาถึงผมทุกวัน
รวมถึงเรื่องเครื่องถูกแฮกเกอร์ อาละวาดด้วย
ครั้งแรกที่ผมฟัง ผมนึกขำความคิดของเธอ
แต่เธอยืนยัน "จริงจริงนะ มีมากกว่าสองคนด้วย"
เธอชอบค้นคว้า ชอบหาคำตอบ
เรื่องบางเรื่องผมอดประหลาดใจไม่ได้ คนช่างคิด..
ตอนนั้นเรื่องสปายแวร์เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ
เธอสงสัยว่า จะเป็น "ทีมงาน" เพราะแต่ละคนที่เข้ามาสไตล์แตกต่าง
แต่ทั้งหมดมาจากที่มาหรือสถานที่เดียวกัน
เธอบอกผมว่าเธอจำสไตล์ของแต่ละคนได้
"คนไอที มีประสาทสัมผัสพิเศษ เหมือนคนตาบอด"
เธอให้เหตุผล ผมเข้าใจ "สมองกล"
ในบางวันที่ผมทำงานดึกดื่นหรือแม้ในบางวันที่ผมไม่ได้นอน
(ผมดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทส่งสินค้า-เข้าออก)
จะพบเธอออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ผมรู้ว่าเธอไม่มีคนอื่น
และเธอจะไม่มีวันทำให้ผมเสียใจ ..
ผมเป็นคนลงโปรแกรมให้เธอเอง ใช้คำสั่งอัตโนมัติเมื่อคอนเน็คครับ
ใครใครที่พบเธอออนไลน์ตลอดเวลาอาจจะสงสัย
และใช้โอกาสนี้ทดลองวิชา ลองใช้ share ware และ remote access
รวมถึงการทดลองโปรแกรมใหม่อื่นๆด้วย
เธอสันนิษฐานของเธอ แต่ผมดูเธอไม่วิตกทุกร้อนเท่าไหร่
"..แปลกดี..เทคโนโลยีมีชีวิต."
เธอหยุดเล่นไอซีคิว หลังจากผิดใจกับใครสักคนหนึ่งในนั้น
ช่วงต่อมาผมได้เลื่อนตำแหน่ง งานแยะกว่าเดิม
ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเคย เวลามานั่งเล่นแชทหมดไป
แต่ก็ไม่เคยมีวันไหนที่จะห่างจากกัน อย่างน้อยก็คำถามประจำวัน
"เป็นอย่างไรบ้าง ..วันนี้"
ผมปล่อยให้เธอสนุกสนานกับโลกไซเบอร์ของเธอ
คอยฟังเรื่องเล่าสนุกๆ แปลกๆที่พบในคิวคิว..
เธอบอกว่าในนั้นได้พบบุคคลกลุ่มเดิมด้วย
เธอใช้เวลากับคิวคิวนานทีเดียวบอกว่า มีลูกเล่นเยอะดี
บางทีถ้ามีเวลาก็เข้าไปคุยกับเธอใน msn แต่ไม่บ่อยนัก
ชีวิตช่วงนั้นของเราเหมือนเพื่อนสนิทต่างแดน..
ดูเธอจะพอใจและมีความสุขกับชีวิต ณ จุดนั้น
..ทะเลสงบใช่จะไร้คลื่น
ฟ้าไร้เมฆใช่จะปลอดมรสุม
ชีวิตราบเรียบใช่จะไร้อุปสรรค..

มรสุมชีวิตตั้งเค้าอีกครั้งปลายปี 2546
เธอบอกผม.."มีคนแฮค msn" มีบางคนใช้ชื่อผมคุยกับเธอ
เป็นข้อสันนิษฐานที่ถูกเพียงครึ่งเดียว
มีบางคนใช้ชื่อผมจริง หากทว่า..ไม่ใช่แฮคเกอร์ ..กามเทพแผลงศรอีกครั้ง
ธนูดอกที่ 8
รักเร่ เร่รักซ้อน
คุณที่รัก
ปลายปี 2546 เป็นช่วงที่งานบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร
ผมเข้าตำแหน่งแมนเนจเจอร์ขึ้นโดยตรงกับนายญี่ปุ่น
งานผมเข้ามาหลายทาง ต้องดูแลระบบของสาขาที่ต่างจังหวัด
บางครั้งต้องซ่อมแซมระบบสต็อคสินค้า
บางครั้งพบตัวเองต้องทำหน้าที่ติวเตอร์ให้ยูสเซ่อร์ในที่ทำงาน
และในบางครั้งก็ต้องตามไปซ่อมคอมพิวเตอร์ให้พนักงานบางคนถึงบ้าน..
ผมคิดว่า..คุณที่รัก..คงยังไม่ลืมบุคคลิกเฉพาะตัวของผมกระมัง..
ผมมีน้ำใจกับคนรอบข้าง รูปหล่อ และมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม
ที่ออฟฟิส..ดูเหมือนจะมีผมที่เรียกใช้ง่ายและบริการทุกระดับประทับใจ
บางครั้งเมื่อผมนึกได้ว่ายังไม่ได้คุยกับดวงใจของผมก็เลยเวลาแล้ว
เราเริ่มห่างกันออกไปโดยภาระหน้าที่ ผมไม่ได้พบเธอนานกว่าสามเดือน
สงกรานต์ปีถัดมาผมพบเธออีกครั้ง เธอเงียบลง ไม่ช่างคุยเหมือนก่อน
ดูเธอหงอยหงอยไม่ร่าเริง กว่าผมจะพบสาเหตุก็ถึงเวลากลับมาทำงานแล้ว
ผมพบรูปผมกับผู้หญิงคนหนึ่งในลิ้นชักข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ของเธอ
รูปนั้นผมถ่ายในงานเลี้ยงขึ้นปีใหม่ของบริษัท
ภาพชัดเจนไม่ปิดบังความสัมพันธ์ มาถึงเธอได้อย่างไร..
ได้มาอย่างไร..มีคนส่งมาให้..ผมใจหาย..
เธอแค่ถามผมว่า มีคนแกล้งเราใช่มั๊ย?
แต่ดวงตาของเธอแห้งผาก

คุณที่รักครับ..
ให้เธอถาม ให้เธอซัก ให้เธอเกรี้ยวกราดกับผมเสียยังจะดีกว่า
สายตานิ่งๆคู่นั้นน่ากลัวเหลือเกิน ผมไม่มีโอกาสอธิบาย
เราไม่ได้คุยกันทาง msn อีกเลย
แม้ผมจะพยายามออนไลน์ตลอด แต่ก็ไม่เคยพบ
จากครั้งสุดท้ายที่เธอบอกว่ามีคนอื่นที่ไม่ใช่ผมคุยไปในรหัสผม
ผมจะอธิบายอย่างไรเล่าว่าเป็น"เด็ก"ของผมในเมื่อเราคุยกันดึกดึกทุกครั้ง
การติดต่อดูจะเนิบเนือยแม้ทางโทรศัพท์ก็หาคำพูดให้กันแสนยาก
"รักษาสุขภาพนะ "
"ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ"
หรือเธอตัดผมแล้วจริงจริง
"ความรักเปรียบเสมือนเงา หากเราวิ่งหนีมันจะวิ่งตาม
หากเราวิ่งตามมันจะวิ่งหนี และเมื่อเราหยุด..มันก็จะหยุด"
กามเทพเอย.. ขอเวลาให้หยุดรักสักหนึ่งใจได้ไหม..


กามเทพเล็งธนูดอกสุดท้าย.


ธนูดอกสุดท้าย


คุณที่รักครับ เมื่อมาจนถึง ณ ตรงนี้
คุณคงมองภาพแล้วว่าเราไม่อาจร่วมทางฝัน
เพราะผมออกนอกเส้นทางรัก
แต่เปล่าเลย..ผมไม่เคยมีหญิงอื่นในสายตา
นางในดวงใจของผมมีเพียงเธอเท่านั้น
ที่ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านไป เพียงวัฏจักรของชีวิต
จริงจริงแล้วผมมีกลุ่มใหม่ของผมต่างหาก
ครับ..ผมพอใจกับสังคมเล็กเล็กกลางเมืองใหญ่
สังคมที่นับแต่จะเติบใหญ่ขึ้นทุกที..ชายติดใบ..
ผมยังคงรับผิดชอบชีวิตความเป็นอยู่ของจอมใจของผม
เธอมีชีวิตสะดวกสบาย ปลอดภัย มีความสุขกับการทำงาน
ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะเจาะลึก กระเทาะเปลือกผมได้เพียงไหน
แต่เธอไม่ยอมติดต่อกับผมเลย ไม่ว่าทางการสื่อสารใดๆ
จนกระทั่ง 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทางบ้านผมส่งข่าว
ข่าวนั้นช็อคผม..ไม่มีดวงแก้วดวงนั้น อีกแล้ว..
อุบัติเหตุรถพุ่งชนราวสะพานโค้งตกลงน้ำ..คืนเพ็ญ..
คุณที่รักครับ..เข้าใจผมไหม..
มองเห็นความคิดของผมไหม..
โอ้ตะวันครั้นจะลบภพไตร ยังอาลัยสั่งโลกให้รั้งรอ..
เธอจากไปไม่มีแม้คำลา..
"ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
พอใจที่ได้จะเห็นกันและกันมีชีวิตอยู่"

คำพูดนี้เพื่อใครกัน

ก็ผมมีชีวิตอยู่เพื่อคุณแล้วนี่ไง.. ..คนผิดสัญญา..
คำถามของคุณ ยังไม่ได้รับคำตอบเลยใช่ไหม
จะจากกันทั้งที่มีชีวิตอยู่หรือจะให้ตัดใจจากกันชั่วชีวิต..?
หยุดก่อนได้ไหม รอก่อนได้ไหม..
กามเทพ.. หยุดเถอะ พอเถอะ....โปรดปล่อยเราไว้ตามลำพัง..
ธนูดอกสุดท้าย ดอกไม้จันทน์..

ตราบฟ้าสิ้นดาวเวหาหาวสิ้นรัชนี

ดวงตะวันหยุดส่องพื้นปฐพี

ทุกทิวาราตรี..ถ้อยคำนี้ไม่คลาย

รักเธอเสมอ..รักเธอเสมอ..รักเธอเสมอ..
 
 
 
 

"Forget just so you may remember again."
- - Anonymous - -
ยิ่งพยายามที่จะลืม ก็ยิ่งจดจำได้ขึ้นใจ

 



หน้าที่ :: 32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved