Neric-Club.Com
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
14327206  

วรรณกรรมเพื่อเยาวชน

ตอนที่ 13 : ไม้แผกป่า
 
   เมื่อต้องเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีคุณอายื่นข้อเสนอให้ฉันไปเข้าเรียนในในเมืองใหญ่เหมือนพี่พี่ แต่ฉันไม่อยากไปไหน ฉันเป็นคนปรับตัวยาก ฉันไม่ชอบอยู่รวมกับคนอื่น เหมือนที่พ่อชอบค่อนแคะฉันเวลาฉันเกเร พ่อบอกว่าฉันเอาแต่ใจตัวเอง ความจริงแล้ว..ฉันยอมรับคนอื่นนะ.. แต่ต้องตามแบบฉบับของฉัน ฉันทนกับความลำบากความขัดแย้งได้เท่าที่เป็นความพอใจของฉัน..

ในคืนวันที่เพื่อนส่วนหนึ่งจบการศึกษาและออกทำงานในภูมิลำเนา
ฉันเริ่มรู้สึกเหงา.. ส่วนใหญ่เพื่อนเพื่อนจะมาจากต่างจังหวัด
และไม่เรียนต่อในระยะสองปีสุดท้าย เพื่อนส่วนใหญ่ในกลุ่มมีงานรออยู่แล้ว
ใจฉันกระโจนตามเพื่อนไปแม่ฮ่องสอนเลย
แต่พ่อให้ฉันเรียนต่อจนจบปริญญาตรีก่อน
พ่อมองเห็นฉันเป็นเด็ก ฉันเข้าใจพ่อ.. พ่อไว้ใจฉัน แต่พ่อไม่ไว้ใจคนอื่น..
 
อัจน์เรียนปีสุดท้าย แต่เพราะเธอต้องดร็อบในระยะที่ป่วย
ทำให้ต้องยืดเวลาออกไปอีก อัจน์เก็บหน่วยกิตในช่วงซัมเมอร์ของเทอมสุดท้าย
แต่ก็หาโอกาสปลีกตัวมาพบฉันเสมอ วันหนึ่งอัจน์ได้พบกับพี่สรวง
น้องสาวของพี่สันต์ที่มาเยี่ยมเยียนพ่อและฉันเช่นเคย
พี่สรวงเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนซึ่งคุณแม่ของอัจน์เป็นคนไข้ประจำ
พี่สันต์ได้คุยกับอัจน์อยู่นานที่ลานไผ่ ทิ้งฉันให้ทำอาหารสองคนกับพี่สรวง
มีโอกาสได้คุยกันเรื่องอัจน์ ก็คุยเรื่องนั่นนี่สัพเพเหระตามนิสัยหญิง
เหมือนเราคุยกันได้ทุกเรื่องราวรวมถึงเรื่องอัจน์ด้วย
 
วันนั้นฉันได้รับรู้เรื่องราวของครอบครัวอัจน์ในมุมที่ฉันไม่เคยรู้
..ครอบครัวของอัจน์..มีอย่างน้อยสองคนที่ฆ่าตัวตาย..
หนึ่งคนพยายามฆ่าคนอื่นโดยเตรียมการไว้ก่อน..
ฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก..ปัญหาทางจิต..สืบทอดทางสายเลือด..
วันที่อัจน์ทวงคำตอบให้รอ ฉันเข้าใจว่าหมายถึงอะไร..
แต่โดยท่าที..ฉันแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ..
ท่าทีนุ่มนุ่มละมุนละไมของอัจน์ ฉันไม่อยากทำร้ายเธอเลย
 
ฉันพยายามคลี่คลายไม่ให้เธอทุกข์ ไม่อยากกดดัน
แต่ในขณะเดียวกัน ฉันไม่ชอบให้ความหวังคนอื่นแบบลมแล้ง
ฉันบอกด้วยปากกับเธอเองในวันนั้น..กลางแดดอบอุ่นปลายฤดูหนาว
ฉันบอกเธอว่าฉันต้องเรียนต่อให้จบ..ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย.
ฉันบอกอัจน์ว่าไม่อยากใช้คำว่ารอ ..
การรอคอยบั่นทอนความรู้สึก..ทั้งต้นทางและปลายทาง..
ซึ่งฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงจริง
" กลางก็ยังอยู่ที่นี่ ใครอยากมาก็มาได้ กลางกับพ่อยินดีต้อนรับอยู่แล้ว.. "
ฉันอ้างพ่อเฉยเลย ก็จริงจริงนี่..พ่อยินดีต้อนรับทุกคนแหล่ะ..
 
ฉันไม่ลืมหยอดท้ายเล่าเรื่องความคิดของฉันให้อัจน์ฟัง
ในวันหนึ่งที่พ่อบอกว่าพ่อไม่ใช่จะอยู่ค้ำฟ้าดูแลฉันไปตลอด
ฉันบอกพ่อว่าฉันจะเปิดกิจการสงเคราะห์คนชรารับเลี้ยงผู้สูงอายุ
เพื่อให้พ่อมีเพื่อนในวัยเดียวกัน..พ่อถามว่า..แล้วถ้าพ่อตายก่อนแก่ล่ะ?"
"กลางก็ไปอยู่ป่วนสถานสงเคราะห์คนชรา.."..ฉันคิดอย่างนี้ จริงจริงนะ
ฉันขอให้เธอตั้งใจเรียนจะได้จบเร็วเร็วกับมาดูแลคุณแม่
ฉันเต็มใจที่จะเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม
ไม่ว่าจะอย่างไรเราร่วมแผ่นดินผืนเดิม
ต่อให้ไกลเท่าไกล เราอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ....
 
พายุตั้งเค้า..มรสุมชีวิตของฉันโชยกลิ่นไอ.
ปีสุดท้ายของการศึกษา
น้องเล็กประสบอุบัติเหตุระหว่างร่วมกิจกรรมกับมหาวิทยาลัย
เธอต้องตัดขาเพราะแผลที่ข้อเท้าลุกลามขาข้างที่ขาดหายมีขาเทียมทดแทน
แต่ดวงใจร้าวรานของพ่อ..ยากที่จะซ่อมแซม
ในชีวิต..ฉันไม่เคยเห็นพ่อล้มป่วย เมื่อล้มสักครั้งยากเยียวยา
เรื่องการพลัดพรากและการเจ็บป่วย
อณูหนึ่งของวงจรชีวิต การเริ่มต้นชีวิตใหม่ - การสูญเสีย
 
ฉันขลุกอยู่กับความเจ็บป่วยของบุคคลอันเป็นที่รักกว่าขวบปี
ไม่เคยลืมตัวเองที่วิ่งกระโปรงปลิวกระโดดขึ้นรถไฟ
ทุกเย็นวันศุกร์ในช่วงปีสุดท้ายของระดับอุดมศึกษา
ปลายทางคือพ่อที่คอยอยู่ทุกขณะจิตในห้องพิเศษ 104
ตึกพิเศษสีขาว คนไข้พิเศษของคุณหมอดนัย
นายแพทย์ตัวเล็กเล็กแสนใจดี กับรอยยิ้มเย็นเย็นเปี่ยมเมตตา
"มีอะไรหนู" เสียงนั้น สายตานั้นยังจำได้เสมอ
ท่านอุตส่าห์ละจากแขกหันมาทักฉัน
เด็กผู้หญิงคนที่วิ่งเท้าเปล่าจากตึกพิเศษลงมายืนลับๆล่อๆถึงหน้าบ้านพัก
ปาดน้ำตาแล้วบอกบนสะอื้น "คุณพ่อช็อค"
"เดี๋ยวหมอตามไป"
"เดี๋ยว" ของท่านก้อถึงพร้อมฉันนั่นแหล่ะ
ความผูกพันเพียงแค่"คนบ้านเดียวกัน"
และ "อาจารย์ของภรรยา" เท่านั้นเอง
จนป่านนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าฉันทำอย่างนั้นได้อย่างไร
มีเด็กผู้หญิงสักกี่คนที่วิ่งถลาลงไปทุบเคาน์เตอร์พยาบาลตอนตีห้า
ไม่ได้ดั่งใจก้อกระโจนพรวดไปถึงหน้าบ้านพักหมอเลย
 
เหตุการณ์อย่างนี้ดำเนินอยู่เกือบปี
ฉันเจอมรสุมแล้ว..ฉันจะผ่านชีวิตช่วงนี้ไปอย่างไรกันหนอ..
 
 
 
 

 

 



หน้าที่ :: 10   11   12   13   14   15   16   17  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved