Neric-Club.Com
  สารบัญเว็บไซต์
  ทรัพยากรคลับ
  พิพิธภัณฑ์หุ่นกระดาษ
  เปิดประตูสู่อาเซียน@
  พันธกิจขยายผล
  ชุมชนคนสร้างสื่อ
  คลีนิคสุขภาพ
  บริหารจิต
  ห้องข่าว
  ตลาดวิชา
   นิตยสารออนไลน์
  วรรณกรรมเพื่อเยาวชน
  ลมหายใจของใบไม้
  เรื่องสั้นปันเหงา
  อังกฤษท่องเที่ยว
  อนุรักษ์ไทย
  ศิลปวัฒนธรรมไทย
  ต้นไม้ใบหญ้า
  สายลม แสงแดด
  เตือนภัย
  ห้องทดลอง
  วิถีไทยออนไลน์
   มุมเบ็ดเตล็ด
  เพลงหวานวันวาน
  คอมพิวเตอร์
  ความงาม
  รักคนรักโลก
  วิถีพอเพียง
  สัตว์เลี้ยง
  ถนนดนตรี
  ตามใจไปค้นฝัน
  วิถีไทยออนไลน์
"ในยุคสมัยแห่งโลกแฟนตาซี ปลาใหญ่ไม่ทันกินปลาเล็ก ปลาเร็วไม่ทันกินปลาช้า ปลาตะกละฮุบเหยื่อโผงโผง โง่ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด อ่อนแอเป็นเหยื่อคนเข้มแข็ง คนวิถึใหม่ต้องฉลาด เข้มแข็ง เสียงดัง มีเงินเป็นอาวุธ
ดูผลโหวด
 
 

'องค์ความรู้ในโลกนี้มีมากมาย
เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
มนุษย์เราเรียนรู้ได้
แค่ใบไม้หนึ่งกำมือของตนเอง
ผู้ใดเผยแผ่ความรู้
อันเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น
นั่นคือกุศลอันใหญ่ยิ่ง'
 
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า












           




             ซ่อมได้ 


สถิติผู้เยี่ยมชมเวปไซต์
13997860  

วรรณกรรมเพื่อเยาวชน


ตอนที่ 12 : วัยร้ายวัยเรียน
___________________________
 
ในช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ใครใครเรียกว่าเป็นทางโค้ง
สำหรับฉันแล้วเห็นเป็นทางเรียบสวยงามอย่างซุปเปอร์ไฮเวย์สองข้างทางร่มรื่นเขียวขจี! ฉันอยู่อย่าง "ลูกพ่อ" ได้เรียนรู้ทักษะชีวิตและวิถีสังคมจากสโมสรสัญจรของพ่อ
 
เวลานั้นองค์กรของพ่อเพิ่งขยายตัวเติบโต
คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาประจำการในสถาบันกว่าครึ่งมาจากต่างจังหวัด
แหล่งรวมของคนพลัดถิ่นจึงหลีกไม่พ้นจากบ้านพ่อ
ในความเสรีประหนึ่งชายโสด และอัธยาศัยไมตรี
พ่อจึงเป็นอาวุโสที่คนหน้าใหม่เลือกเข้ามาพึ่งพิง
"บ้านพ่อ"ซึ่งไกลห่างจากชุมชนเป็น"ทำเลดี"
เหมาะสำหรับตั้งก๊วนคุยโขมงโฉงเฉง สัพเพเหระ
ใต้ร่มไม้,ขนุน,ชงโค ,ลานไผ่หรือแม้แต่ลานกว้างใต้ระเบียง
จึงกลายเป็นสโมสรย่อยๆ ตามแต่เวลาใดพอเหมาะให้แดดร่มลมตก

ฉันเริ่มเรียนรู้ปัญหาอุปสรรคในชีวิตการทำงาน จากวงเหล้า!
ความจอมปลอมของภาพลักษณ์ต่างๆของสังคมและกลุ่มชน
บางวันเสียงดังลั่นๆราวกับจะมีกลียุค บางวันเหมือนจะตัดญาติขาดมิตร
แต่ในที่สุดก็กลับมารวมตัวกันอีกเหมือนเคย
ฉันมองเห็นความกลมเกลียวอันน่ารักของสหายต่างวัย ต่างความเห็น
ฉันได้รับรู้เรื่องราวมากมายทั้งเชิงบวกเชิงลบของการบริหารจัดการไม่ซ้ำแบบ
บางวันก็รับรู้เรื่องราวของปัญหาครอบครัวของคนต่างวัย
และหลายครั้งที่พ่อต้องเป็นกรรมการตัดสินคดีความให้คู่กรณี

บางวันที่บ้านจะเป็นเวทีแสดงคอนเสริทของคนหนุ่มที่สนใจดนตรีสากล
บางวันก็เป็นวงเครื่องสายผสม แต่พ่อจะพอใจเล่นเครื่องดนตรีชิ้นเดียวมากกว่า
ที่ถูกใจมากคือภาพสมาชิกสโมสรทั้งหลายช่วยกันทำกับแกล้มกันคนละไม้ละมือ
บ้างขุดหน่อไม้ บ้างหาใบย่านาง โขลกน้ำพริก ครู่เดียวก็ได้แกงหน่อไม้สด
ฉันได้วิชาทำกับข้าวรสเด็ดจากก๊วนสัญจร

เป็นที่เฮฮาที่สุดกลับเป็นเจ้าวัตถุความเร็วสูงและการประลองฝีมือ
กับปืนสั้นปืนยาวที่แต่ละคนหามาครอบครองตามยุคสมัย
บางวันมีทดสอบความแม่นยำกับเป้านิ่ง
เวลานั้นรอบบ้านใกล้เคียงยังไม่หนาแน่นเหมือนปัจจุบัน
กอปรกับด้านหลังเป็นป่ารกชัฏสงัดผู้คน
ฉันมองดูความแตกต่างของอาวุธเล็กร้ายแรงนั่นกับหนังสะติ๊ก
พวกเราทุกคนเคยใช้หนังสะติ๊กกับแนวกระป๋องในพื้นที่เดียวกัน
บางวันฉันก็มีโอกาสได้ทดสอบฝีมือการใช้ปืนลมด้วย

ในเวลานั้นฉันอยู่กับพ่อและแป้งนม
พี่พี่น้องน้องคนอื่นอื่นต่างแยกย้ายไปเลือกเรียนสาขาที่พอใจ
ปิดเทอมหรือวันหยุดยาวจึงจะกลับมารวมตัวกันสักครั้ง
แต่วันหยุดที่แทบหยุดลมหายใจของฉันในวันหนึ่งที่ยังค้างอยุ่ในใจฉันเสมอ
วันที่คนอื่นๆนั่งคุยกันอยู่ชั้นล่าง ฉันหมดเรื่องคุยปีนไปห้องใต้หลังคาหาหนังสืออ่าน
พ่อสะสมหนังสือไว้เยอะมากที่นั่นเป็นห้องสมุดเล็กๆ มุมสงบของฉัน
วันสบายสบายวันนั้นฉันเลี่ยงขึ้นไปข้างบนเงียบเงียบ
ทันมาแอบเห็นว่าพี่รองวางแม๊กนั่มสีบรอนซ์มันปลาบ
สงบนิ่งไว้ที่พักเชิงบันไดตัวเองเข้าห้องน้ำ


วัยคะนองของฉันส่งมือไปหยิบแม๊กนั่มกระบอกนั้นมาพินิจพิจารณา
พลิกซ้าย พลิกขวา ปลดล็อค..ถอดแม๊กออกมาวางอย่างที่คิดว่ารอบคอบแล้ว...
ลองง้างนกแล้วสับไก..เปรี้ยง!!!!!! คุณพระช่วย..
ฉันไม่ได้คาดคิดถึงอีกหนึ่งนัดที่ค้างอยู่ในลำเพลิง..

เสียงกัมปนาทนั้นแทบหยุดลมหายใจของฉัน
แต่เสียงของพี่รองดังกว่า..พี่รองเผ่นมาถึงฉันแทบทันทีที่สิ้นเสียงแผดก้อง
" เล่นทำไม เล่นทำไม!! "
ฉันไม่รู้ว่าเสี้ยววินาทีนั้นฉันวางตัวเองไว้หลืบไหนของอเวจี
ฉันถูกสะกดให้งันงกกับความเขลาของตัวเอง
พี่รองจับตัวฉันเขย่า "เป็นอะไรหรือเปล่า"
รอยกระสุนที่ทะลุผ่านเนื้อไม้เป็นรูแล้วแฉลบไปถึงหน้าพื้นหินอ่อนชั้นล่าง
ชั้นล่างที่พ่อนอนหลับสนิทบนเก้าอี้โยกตัวเดิม ..!..
มีคำถามมากมายประดังตามมา ถ้า..ถ้า..ถ้า..และ..ถ้า..
ถ้า..ล้วนแต่น่ากลัวทั้งนั้น..

หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น..ฉันไม่แตะอาวุธทุกชนิดอีกเลย
พี่รองไม่วางปืนในระดับสายตา พ่อเก็บปืนของพ่อไร้ร่องรอย
รอยกระสุนที่คงทิ้งไว้ไม่ใช่แค่"ร่องบ้วนน้ำหมาก" อย่างที่ใครใครล้อเลียน
แต่มันคือหนึ่งประสบการณ์มฤตยูของฉัน ประสบการณ์เสี่ยงที่ไม่อาจนับว่าเป็นบทเรียน..
..ฉันไม่ถือว่าเป็นบทเรียน..

แบบฝึกหัดนี้ไม่จำเป็นสำหรับชีวิต เพราะมันแพงเกินไป
บางทีมันอาจต้องแลกด้วยหยาดเลือด หยดน้ำตา..และชีวิตที่ไม่อาจหวนคืน..
โปรดเถอะ..อย่าให้มีอีกสักแม้ชีวิตหนึ่งที่ต้องสังเวยไปกับมฤตยู
มฤตยูที่ไม่มีความจำเป็นต้องเรียกหาไว้ในครอบครองนี้เลย..

 

 
 



หน้าที่ :: 9   10   11   12   13   14   15   16   17  


Copyright © 2012 Neric-Club.Com All Rights Reserved