|
|
ในวัยเด็กของฉัน
ฉันไม่นับว่าเป็นเด็กเรียนเก่ง
แต่ความภูมิใจที่สุดคือไม่เคยทำให้คุณครูผิดหวัง |
ฉันไปโรงเรียนแต่เช้าทุกวัน ช่วยคุณครูจัดชั้นเรียน
กุหลาบพวงสีชมพูอ่อนกับใบเฟิร์นหลังอาคารเรียนเป็นไม้ที่ฉันเลือก
คุณครูบอกว่า คนรักดอกไม้เป็นคนละเอียดอ่อน จิตใจสวยงาม
คุณครูของฉันละเอียดอ่อนจิตใจสวยงาม
ฉันเองก็เคยทำให้คุณครูปวดหัวไม่น้อย
กับไข่จิ้งจก"งอมจัด"หลายใบบนสำลีในกล่องพลาสติคใสใต้เก้าอี้
นอกจากจะทำลายสมาธิของฉันและ เพื่อนๆแล้ว
ยังนับว่าเป็นอุปสรรคต่อการสอนของคุณครูด้วย
เมื่อไข่จิ้งจกเริ่มกระดุกกระดิกสายตารอบด้านจะละจากกระดาน
บางคนช่วยฉันทำหน้าที่ผดุงครรภ์เมื่ออดทนรอมันเจาะเปลือกเองไม่ได้
"การเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติทำให้เราเป็นคนช่างสังเกต"
คุณครูบอกคุณครูของฉันช่างสังเกตและเข้าใจธรรมชาติของเด็กเด็ก
กับสาส์นที่ร่อนส่งถึงกันทางอากาศ แม้บางครั้งจะมีข้อความไม่เหมาะสม
คุณครูไม่ลงโทษคนผิดอย่างที่หลายคนคาด
คุณครูบอกว่าคนทำไม่ดีธรรมชาติจะลงโทษ
ฉันแอบเห็นเจ้าของจดหมายกับผู้รับทะเลาะกันเอง
วันรุ่งขึ้นตาเขียวมาคนละข้าง สรุปได้ว่า การสื่อสารที่ดีต้องมีความชัดเจน
อาหารกลางวันของฉันมีขนมไปฝากคุณครูและเพื่อนๆทุกวัน
แม้ว่าในบางวันหมูแดดเดียว หรือไก่ทอดจะหมดไปตั้งแต่ตอนเช้า
แต่ฉันก็ไม่เคยอดอาหารเลยสักมื้อ บางทีกบทอดในกล่องคนอื่นอร่อยกว่า
คุณครูให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
ฉันไม่ใช่นักเรียนทุน แต่เเป็นนักล่ารางวัล
คุณครูจะส่งเสริมให้เข้าร่วมการแข่งขันเสมอ
ฉันได้อุปกรณ์การเรียนฟรีบ่อยๆไม่ต้องซื้อ
หลายครั้งที่เอาไปแจกเพื่อน บางอย่างก็แลกกับตัวต่อ
คุณครูบอกว่าการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นลักษณะนิสัยที่ดี
ฉันมอบเกียรติบัตรทุกใบของให้คุณครูใส่แฟ้มประวัติ
มีเรื่องราวมากมายที่อยากจะอวดถึงคุณครูของฉัน
ในชีวิตจริงจริงแล้วเราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ"ครู"
ประสบการณ์ทั้งหลายทั้งมวลคือครูของเรา ครูผู้สอนให้เราเรียนรู้ชีวิต
ในชีวิตการเรียนรู้ คุณครูทุกท่านอยู่ในใจของฉันเสมอมา
หลายท่านเป็นแบบอย่างผลักดันชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้า
หลายท่านเป็นกำลังใจให้สร้างฝัน และปั้นฝันให้เป็นจริง
ในรั้วโรงเรียน ฉันถูกปั้นฝันให้สร้างงานเขียน ฉันชอบเขียน
ในรอบรั้วบ้านของเราก็ไม่ต่างกัน
ฉันชอบสร้างงานศิลปะและงานสร้างสรรค์
ฉันอยากเล่าถึงใครอีกคนที่สร้างฝันไว้ในความทรงจำ
พี่ใหญ่..พระเอกอีกคนหนึ่งในดวงใจ พี่ใหญ่ วิศวกรคนที่แสนรักของพวกเรา
กับกระดาษที่เหลือใช้ .. ฝาขวดน้ำอัดลม .
ใครใครอาจจะมองข้าม หลายคนนึกถึงข้อความใต้ฝาที่มีลุ้น
บางคนเก็บขายรถรับซื้อของเก่าแต่พี่ใหญ่ของฉันใช้สร้างฝันให้น้องๆ
(ฝันของฉันคือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ซึ่งต้องสร้างสม)
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากสมองน้อยน้อย
ซึ่งเมื่อคิดย้อนกลับไปแล้ว ฉันยังรู้สึกอัศจรรย์ใจ
กระดาษปอนด์เหลือใช้จากงานศิลปะของพ่อ
พี่ใหญ่เก็บมาตัดให้ได้ขนาดเท่ากัน
รันหมายเลขเก้าตัวเป็นธนบัตรใบละร้อย ใบละห้าร้อย
น้องน้องก็มีหน้าที่ฝนตราประทับพระบรมฉายาลักษณ์
(ทาบกระดาษบนเหรียญบาทซึ่งขณะนั้นขนาดเท่าเหรียญสิบ)
แล้วใช้ปลายดินสอระบายไปบริเวณที่เป็นลายนูน
เท่านี้เราก็มีธนบัตรใช้ในครัวเรือนสตางค์ทอนเหรอ..ฝาขวดน้ำอัดลมไง..
เมื่อเก็บรวบรวมได้สักจำนวนหนึ่งพวกเราจะเอามาทุบให้แบน
ทาสีแดง สีเขียว เป็นเหรียญสำหรับทอน
เมื่อเกิดสภาวะฝืดเศรษฐกิจไม่คล่องตัว
หมายถึงเงินไปกองอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง
พี่ใหญ่จะให้คนหมดทุนสร้างงาน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียน
ทำอะไรหรอ.. ก็แล้วแต่ความถนัด.(ทันสมัยมาก)
สร้างหนังแผ่น วาดภาพใส่กระดาษเหลือใช้
เป็นเรื่องราวบ้าง เป็นการ์ตูนบ้าง แก้วใสเลือกดัดแปลงเทพนิยายกริม์
โรงฉายก็หัวเตียงหลังใหญ่ของพ่อนั่นเอง
ด้านหลังของช่องโคมไฟมีช่องเล็กเล็กเลื่อนเปิดได้จากด้านหลัง
เจ้าของเรื่องผู้ฉายเองพากย์เองจะต้องเข้าไปนั่งอยู่ด้านหัวเตียง
ใส่หนังแผ่นทีละแผ่นให้ผู้ดูผู้ชมที่จ่าย"สตางค์"แล้ว
นอนเรียงเหยียดยาวเป็นแถวบนเตียง
ซึ่งสมาชิกก็ครบหมดทุกคนทุกครั้งนั่นแหล่ะ
แม้แต่พี่รอง ซึ่งค่อนข้างจะสารนิยมหน่อยก็ยังอุตส่าห์มานอนเรียง
บางครั้งพ่อประสมโรงด้วย และวันนั้นจะเป็นวันพิเศษเลยทีเดียว
..คนพากษ์พากษ์สุดฤทธิ์สุดเดช..
หนังแผ่นบางเรื่องจะถูกร้องขอให้ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนคนพากย์โวยวาย และรับปากจะสร้างเรื่องใหม่..
"กองคลัง" ก็พี่ใหญ่อีกนั่นแหล่ะ มีหน้าที่ออกธนบัตร
และกระจายรายได้จาก"สลากกินแบ่งรัฐบาล"
เมื่อกลับมานั่งนึกถึงแล้วอดยิ้มกับความคิดในวัยนั้น
พวกเราช่างน่ารักกันนัก ไม่รู้คิดกันได้ยังไง
ตัวเลขจากสลากที่จำหน่ายจะถูกเขียนใส่วงกลมแล้วก็ "ปาเป้า"
เจอเลขสลากของใครก็รับ "สตางค์"ไปตามเลทรางวัล
เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดพวกเราก็ขลุกกันอยู่ในอาณาจักรของเรานั่นเอง
ไออวลของความหลังยังหอมหวานอยู่ในใจของพวกเราเสมอ
ร่มไม้ชายคาที่เคยเป็นที่จำลองโรงละครเล็กเล็กนั้นยังมีรัก
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะผ่านร้อนหนาวเท่าใด
ทุกครั้งที่เหน็ดเหนื่อยจากโรงละครโรงใหญ่
ฉันจะกลับไปที่โรงละครโรงเล็กที่ยังมีฝันให้เติมเต็ม.
|